ของโปรดประจำเดือนนี้ของเราจะเป็นสกินแคร์ซะส่วนใหญ่ค่ะ เพราะช่วงนี้เราค่อนข้างระวังในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์อะไรบนใบหน้า ทุกชิ้นที่เรากำลังจะพูดถึงในวันนี้เป็นสิ่งที่เราได้ลองใช้มานานแล้วและพบว่ามันทำงานได้ดีกับผิวแพ้ง่ายเป็นสิวง่ายของเรา ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง หวังว่าทุกคนจะสนุกกับโพสท์นี้และเลือกที่จะมาแชร์ประสบการณ์การใช้กับเรานะคะหากได้เคยลองใช้ตัวไหนในนี้แล้ว
Anessa Perfect and Essence UV Sunscreen Aqua Booster SPF50+ PA++++

พูดตรง ๆ เลยนะ เราคิดว่าครีมกันแดดนี่เป็นอะไรที่สำคัญที่สุดแล้วของสกินแคร์ไอเท็มสำหรับตอนกลางวัน คือเป็นอะไรที่ต้องมี ต้องทา เพื่อคอยปกป้องผิวให้มีสุขภาพดีอยู่เสมอ ทุกวันนี้เราก็เสียใจที่ไม่ได้พยายามปกป้องผิวตัวเองจากแสงแดดเลยตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นอยู่ ช่วงนั้นเราชอบออกแดดมาก และก็ไม่เคยคิดจะทาครีมกันแดดเลย แย่มาก ห้ามทำตามนะคะ! แต่ช่วง 10 ปีมานี้เราทาไม่เคยได้ขาดเลยค่ะ ได้ลองใช้ครีมกันแดดมามากมายหลายชนิดจากหลายแบรนด์ทั้งถูกและแพง ถ้าให้เลือกเราคงต้องบอกว่าเราชอบครีมกันแดดของทางฝั่งเอเชียบ้านเรามากกว่า เรารู้สึกว่าฝั่งเราได้คิดค้นสูตรที่ดีมากให้มีเนื้อครีมที่ทาง่าย ปกป้องแสงแดดได้ดีเยี่ยมโดยที่ไม่ทิ้งคราบขาวและความมันไว้บนผิวเหมือนพวกครีมกันแดดของทางฝั่งตะวันตกส่วนมาก
Anessa Perfect and Essence UV Sunscreen Aqua Booster SPF50+ PA++++ ตามรูปด้านบนนี้เป็นครีมกันแดดที่เราใช้บ่อยสุดเดือนนี้ค่ะ ทั้งสองแบบให้การปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB และมี SPF50 และ PA++++ (4 บวกเลยนะ!) เนื้อมันจะเหลวเหมือนนม ทาแล้วซึมซับลงผิวทันที และไม่ทิ้งคราบขาวคราบเหนียวหรือร่องรอยอะไรไว้เลย แถมช่วยปรับผิวให้แม็ทนวลเนียนเป็นไพรเมอร์ไปในตัวได้ด้วย ดีงามมาก
เราไม่พบว่ามันจะมีความแตกต่างอะไรมากมายเลยนะคะระหว่าง 2 สูตรนี้ และเราก็คิดว่าไม่ว่าคุณจะซื้อสูตรไหนก็ต้องชอบเหมือนกันแน่นอน The Perfect (ขวดทอง) เนื้อจะข้นกว่าหน่อย คุมมันดีกว่าหน่อย และก็คุมหน้าให้แม็ทได้นานกว่า ส่วน The Essence (ขวดเงิน) นั้นเนื้อจะเหลวกว่าหน่อย ให้ความชุ่มชื้นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้หน้าแม็ทเช่นกัน แต่แค่ตอนแรก ๆ หลังทาเท่านั้น เราพบว่าสูตรขวดสีเงินยังคุมมันให้หน้าเราแม็ทได้ไม่นานเท่าขวดสีทองค่ะ ทั้ง 2 สูตรมี Zinc Oxide, Octinoxate, Octocrylene, Uvinul A Plus และ Tinosorb S เป็น active ingredients แต่ขวดเงินมี Parsol SLX เพิ่มขึ้นมาด้วย นอกจากนี้ทั้ง 2 สูตรก็ยังติดทนทาน ทนน้ำ ทนเหงื่อ เหมาะมากสำหรับการเลือกไว้ใช้ในวันร้อน ๆ ที่กำลังจะมาถึง เราไม่พบว่า 2 ตัวนี้ทาแล้วผิวจะอุดตันนะคะ ตราบใดที่เราล้างหน้าให้หมดจดก่อนนอนทุกคืน
Becca Backlight Priming Filter

ใช้เท่าไหร่ก็ไม่เคยเบื่อเลยค่ะสำหรับ illuminating primer ตัวนี้! Becca นี่เขาไม่เคยทำให้ผิดหวังจริง ๆ เกี่ยวกับเรื่องผลิตภัณฑ์เพิ่มความโกลว์ให้แก่ผิว Backlight Priming Filter ตัวนี้ไม่ใช่ไพรเมอร์ที่มีเม็ดชิมเมอร์ใหญ่จัดชัดเจนแบบไพรเมอร์ทั่วไป แต่ความวิบวับของมันจะออกไปทางแนวซอฟท์และเบามาก ทำให้พอทาลงไปบนผิวแล้วผิวดูโกลว์อย่างเป็นธรรมชาติและแลดูสุขภาพดีมาจากด้านใน เราจะชอบลงตัวนี้หลังจากทากันแดดแล้วและตามด้วยแป้งฝุ่นหากวันไหนที่ผิวดูโอเคไม่มีอะไรต้องปกปิดมาก แต่หากวันไหนที่เราคิดจะทาพวกรองพื้นเราจะผสมรองพื้นกับไพรเมอร์ตัวนี้ก่อนแล้วค่อยทาทีเดียวเลยเพื่อให้หน้าคงความโกลว์ไว้ สูตรของตัวนี้ดีงาม กลิ่นหอม เนื้อก็เนียนลื่น แถมใช้ได้นานมาก ๆ ด้วย ขวดของเรานี่ก็เพิ่งจะเห็นว่าลดลงมานิดหน่อยเองหลังจากที่ใช้มาตั้งหลายเดือนแล้ว เรามีรีวิวเต็มของตัวนี้ที่หน้านี้ค่ะ
Fresh Sugar Sport Treatment Sunscreen SPF 30 and Lip Treatment Advanced Therapy

Bite Beauty Agave Lip Masks (รีวิว) และ Fresh Lip Treatments (รีวิว: original, Advanced Therapy and Rosé, Tulip, Nude, Ruby) เป็น 2 ผลิตภัณฑ์บำรุงริมฝีปากที่เราเลือกใช้ติดต่อกันมานานหลายปีแล้วเพื่อให้ผิวปากมีสุขภาพดีอยู่เสมอ ตัว Sport Treatment Sunscreen SPF 30 นี้เราเพิ่งได้ลองใช้ค่ะ เขาบอกว่าสามารถใช้ทาได้ทั้งบนปาก ทั่วหน้า รวมถึงบริเวณรอบดวงตาด้วย แต่ส่วนมากแล้วเราก็ใช้ทาแค่บนปากเท่านั้นเพื่อปกป้องริมฝีปากจากรังสีแดด เนื้อของมันจะแข็งกว่า เฟิร์มกว่าของรุ่น Lip Treatment และหลังทาจะได้ผิวสัมผัสแบบแม็ท ไม่ใช่เงาวับ เราชอบทาโดยใช้นิ้วมือค่ะ เพราะความร้อนจากนิ้วมือจะช่วยวอร์มให้เนื้อมันเกลี่ยง่ายขึ้น active ingredients ได้แก่ Avobenzone, Octinoxate และ Octisalate
สำหรับตัว Lip Treatment Advanced Therapy นั้น เนื้อมันจะลื่นเหมือนแว็กซ์มากกว่าเนื้อของรุ่น Lip Treatment ทั่วไป แต่เห็นลื่นแบบนี้แต่ติดทนดีมากเลยค่ะ ทาไว้ก่อนนอนตื่นมาก็ยังพอมีติดปากอยู่เลย สำหรับเราแล้ว ตัว Bite Beauty Agave Lip Mask นี่เราจะถือให้เป็นลิปบาล์มประเภท heavy-duty ที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ปากสูงแบบเร่งด่วนทันที ส่วน Fresh Lip Treatment Advanced Therapy นี่จะเหมือนเป็นทรีทเม้นท์ที่เราค่อย ๆ ใช้เป็นประจำเรื่อย ๆ เพื่อบำรุงผิวปากทุกวัน(คืน)
Clinique Take The Day Off Cleansing Oil

เราใช้ Clinique Take The Day Off Cleansing Balm (รีวิว) มาได้ 3 ปีกว่าแล้ว และก็ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจไปใช้ตัวอื่นเลยเพราะมันทำงานได้ดีมากจริง ๆ แถมตอนใช้ก็สนุกด้วย เพราะได้นวดหน้าไปในตัว รู้สึกสบายหน้ามากหลังจากทำงานมาทั้งวัน แต่อย่างไรก็ตามเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เราเกิดอยากลองสูตร oil ดูบ้างก็เลยไปลองซื้อมาใช้ดู และถึงแม้ว่าพอใช้แล้วจะขาดความรู้สึกสนุกของการนวดหน้าไปบ้าง แต่อย่างน้อยมันก็รวดเร็วกว่า เพราะไม่ต้องไปเสียเวลาวอร์มเนื้อบาล์มอะไร กดมาแล้วละเลงบนหน้าได้เลย ประสิทธิภาพในการทำงานเราพบว่าดีเยี่ยมไม่แพ้กันเลยค่ะ สามารถลบทุกอย่างได้หมดจดรวมถึงกลุ่มเครื่องสำอางที่ติดทนนานและกันน้ำ มันสามารถล้างออกได้หมดสิ้นโดยที่หลังใช้หน้ายังคงเหลือความชุ่มชื้นอยู่ เราใช้แล้วไม่พบว่าหน้าเราจะมันหลังใช้แต่อย่างใดนะคะ แต่อย่างไรเสียเราก็จะล้างอีกรอบด้วยคลีนเซอร์ประจำของเราตามด้วยเสมอเพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีอะไรหลงเหลือติดค้างบนใบหน้า รูปด้านบนนี้เป็นขวดขนาดพกพาที่เราใช้หมดไปแล้ว เราซื้อขวดใหญ่มาใช้เรียบร้อยแล้วค่ะ
Chanel Le Vernis Nail Gloss in 530 Rouge Radical

ปกติแล้วเราเป็นคนที่ไม่ค่อยทาเล็บมือค่ะ น้อยครั้งมากที่จะทา เพราะงานที่ทำอยู่ต้องล้างมือประมาณวันละล้านรอบ :) คอลเลคชั่นสีทาเล็บของเรานี่เป็นอะไรที่จุ๋มจิ๋มมากจนไม่ควรจะเป็น beauty blogger กับเขาได้อ้ะ! แต่เมื่อช่วง Fall ที่ผ่านมา เราได้ไปเห็นสีทาเล็บสีแดง glossy สดใสของ Chanel Le Vernis Nail Gloss สี 530 Rouge Radical (limited edition) ตัวนี้เข้า เท่านั้นแหละ รู้ตัวเลยว่ายังไงก็ต้องซื้อ พอซื้อมาแล้วเราก็ทาสีนี้สีเดียวมาโดยตลอด ไม่เคยรู้สึกเบื่อเลย พอทาทีไรก็มีแต่คนชมเล็บว่าสีสวยมาก :) ทั้งคนที่รู้จัก offline และ online เรามีรูปบน Instagram ของเรารูปนี้ค่ะ ที่เราทาสีนี้ไว้หากใครอยากเห็นว่าทาแล้วได้สีประมาณไหน ถึงสีจะออกไปทางใส ๆ เมื่อมองในขวด แต่ว่าพอทาแห้งแล้วมันจะเป็นแดงทึบค่ะ สำหรับเราทาแค่ 2 ชั้นก็สบายแล้ว จะได้สีแดงสดใสสว่างสวยงามที่ติดทนยาวนานเป็นสัปดาห์เลย เราชอบมาก แฮ็ปปี้มากกับสีนี้ เสียดายว่าไม่ได้ซื้อ backup ตุนไว้น่ะสิ!
หวังว่าทุกคนจะชอบสิ่งของที่เราเลือกมาแชร์ให้อ่านกันในวันนี้นะคะ หากใครเคยได้ลองใช้ตัวไหนมาแล้วมาเล่าประสบการณ์การใช้ให้ฟังได้นะ แล้วของโปรดที่คุณใช้บ่อยประจำเดือนนี้มีอะไรบ้างเอ่ย?
Purchase
Anessa Perfect and Essence UV Sunscreen Aqua Booster SPF50+ PA++++:
US$20+ at Amazon
Becca Backlight Priming Filter:
US$38 at Sephora ○ Ulta ○ Amazon ○ Becca
Fresh Sugar Sport Treatment Sunscreen SPF 30:
US$25 at Sephora
Fresh Lip Treatment Advanced Therapy:
US$25 at Sephora
Clinique Take The Day Off Cleansing Oil:
US$14.5-28 at Sephora
Chanel Le Vernis Nail Gloss in 530 Rouge Radical:
At Chanel counters
Anessa Perfect and Essence UV Sunscreen Aqua Booster SPF50+ PA++++:
฿859 at Watsons
Becca Backlight Priming Filter:
฿1,650 at Sephora Thailand
Fresh Sugar Sport Treatment Sunscreen SPF 30:
฿1,080 at Sephora Thailand
Fresh Lip Treatment Advanced Therapy:
฿1,080 | Sephora Thailand
Clinique Take The Day Off Cleansing Oil:
฿1,300 at Sephora Thailand
Chanel Le Vernis Nail Gloss in 530 Rouge Radical:
At Chanel counters
Disclosure: Becca Backlight Priming Filter was provided free of charge for review consideration. All opinions expressed herein are honest and my own.