สวัสดีค่ะทุกคน! ว้าว เราห่างหายไปเกือบปีเลยทีเดียว ทุกคนเป็นไงบ้างคะ สบายดีมั้ย สำหรับเราก็มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเกิดขึ้น แต่ว่ามีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนเลยก็คือความรู้สึกอยากกลับมาเขียนรีวิวอีก แค่ไม่คิดว่ามันจะใช้เวลานานขนาดนี้กว่าจะกลับมาเขียนได้ :) ปีที่ผ่านมาเราโฟกัสอยู่กับเรื่องเดียวเลยก็คือการรักษาผิวหน้าให้กลับมาดีขึ้น เราเลือกใช้สกินแคร์ที่มีคุณภาพเท่านั้น แต่งหน้าน้อยลง และก็ลองของใหม่น้อยลง เพราะเราตั้งใจจะพักผิวเราบ้าง แต่ก่อนลองของใหม่นู่นนี่บ่อยมาก เลยคิดว่าลองหยุดซักพักดีกว่า แล้วดูว่าผิวจะเป็นยังไง เรารู้สึกว่าผิวเราตอนนี้มันก็ดีขึ้นมากนะ สุขภาพผิวโดยรวมดูโอเคเลย พอผิวเราโอเคแล้วเราก็เริ่มรู้สึกดีขึ้น มั่นใจขึ้นเวลาออกจากบ้านโดยไม่ต้องแต่งหน้า เราแพลนว่าจะเขียนโพสท์เกี่ยวกับการดูแลรักษาหน้าของเราอยู่ แต่อาจจะต้องใช้เวลาหน่อย
สำหรับวันนี้ เราไปดูไอเท็มตัวที่เราชอบใช้มาก ๆ ในเดือนแรกของปี 2017 กันก่อนดีกว่าค่ะ! :)
Estée Lauder Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion

Estée Lauder Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion ตัวนี้ต้องยกให้เป็นตัวสำคัญที่มาช่วยชีวิตผิวเราในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมาเลยก็ว่าได้ค่ะ! คือตอนแรกไม่ได้กะว่าจะซื้อหรอก แต่พอดีตัว ANR ของเราหมด (รูปด้านขวา) แล้วก็ไปเจอเซ็ทคู่นี้ที่ duty free สนามบินพอดี ก็เลย อ้ะ เอามาลองซักหน่อยก็ได้ บอกตามตรงว่าก่อนใช้เราไม่ได้หวังอะไรเลยค่ะ กับผลิตภัณฑ์น้ำใส ๆ แบบนี้ แต่พอใช้ไปได้ซัก 2-3 อาทิตย์เท่านั้นแหละ โอ้โห เห็นได้ถึงความเปลี่ยนแปลง คือเรารู้สึกว่าหน้าเราสว่างขึ้น กระจ่างขึ้น แถมดูมีความโกลว์เพิ่มขึ้นด้วยแน่ะ! คนใกล้ตัวหลายคนก็สังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นของผิวเราด้วยเช่นกัน และที่เรามั่นใจว่ามันจะต้องเป็นผลมาจากตัวนี้ก็เพราะว่ามีตัวนี้ตัวเดียวที่เราใช้เพิ่มขึ้นมา ตัวนี้เขาอธิบายมาว่าเป็น “essence-in-lotion” แต่สำหรับเราแล้วมันก็คือน้ำตบ essence ใส ๆ นั่นแหละ สามารถหยดใส่สำลีเช็ดได้ แต่ส่วนตัวเราจะชอบหยดใส่อุ้งมือ แล้วประกบมือกันแล้วตบเบา ๆ ลงไปบนผิวโดยตรงเลยมากกว่า ตัวนี้ซึมซับลงผิวทันทีค่ะ แถมทิ้งความนุ่มให้แก่ผิวด้วย ไม่แห้ง ไม่มัน แต่ชุ่มชื้นกำลังดี จากนั้นเราก็ตามด้วย ANR ตามปกติ บอกเลยว่า 2 ตัวนี้ใช้คู่กันแล้วเป็นอะไรที่เกิดมาก ปรับผิวเราให้ดีขึ้นมาก และเราก็คงจะใช้ทั้งคู่ต่อไปเรื่อย ๆ แน่นอน เราทราบว่ามีหลายท่านที่ชอบ SK-II Facial Treatment Essence แต่ส่วนตัวเราแล้วเราทนกลิ่นมันไม่ได้ค่ะ หากใครรู้สึกแบบเดียวกับเรา อยากให้มาลอง Estée Lauder Micro Essence ตัวนี้แทนดูค่ะ :)
Tarte Tartelette Amazonian Clay Matte Eyeshadow Palette

อย่างที่บอกไปแล้วว่าช่วงนี้เราไม่ค่อยได้แต่งหน้าหวือหวาอะไรมากนัก สำหรับ eye makeup ส่วนมากก็จะเห็นเราใช้สีที่เป็น “classic colors” พวกสีนิวทรัล น้ำตาลอ่อน สีพีช สีชมพู สีแชมเปญ อะไรประมาณนี้ เราถือว่า Tarte Tartelette Amazonian Clay Matte Eyeshadow Palette นี้เป็น staple ของเราเลยค่ะ คือสีเป็นสีที่ใช้ได้จริง ทาง่าย ไม่ต้องคิดอะไรมาก เลือกสีไหนทาออกมาก็สวยพร้อมออกจากบ้าน ไม่ต้องใช้ brain power คิดอะไรมากมาย ซึ่งเป็นอะไรที่เราชอบมาก สีโปรดของเราในพาเล็ทนี้คือสี Force of Nature และ Natural Beauty ค่ะ เรื่องเนื้อสีนั้นต้องบอกเลยว่าคุณภาพดีมาก ๆ จากประสบการณ์การใช้ของเรา นุ่มครีมมี่ เกลี่ยก็แสนง่าย สำหรับใครที่กำลังมองหาพาเล็ทที่มีสีสุภาพ ๆ เหมาะกับแต่งได้ทุกโอกาส ไม่ควรพลาดตัวนี้ค่ะ
theBalm DownBoy and FratBoy Shadow/Blush

นอกจากนี้เราก็ช็อป collection ของตัวเองที่บ้านบ่อยมากค่ะ ทำให้เราได้ค้นพบไอเท็มหลากหลายที่เราจำได้ว่าเคยชอบ แต่ไม่ได้มีเวลาใช้มันนาน เพราะการเป็น beauty blogger มันก็ต้อง move on ไปลองของใหม่อยู่ตลอดเวลา theBalm Shadow/Blush นี่ก็เป็นอีก 1 ไอเท็มในกลุ่มนี้ค่ะ DownBoy จะเป็นสีชมพูนมแบบสว่าง ๆ ส่วน FratBoy จะออกแนวส้มอมพีช ทั้ง 2 สีเป็นสีแม็ทที่ทาง่ายเกลี่ยง่าย เราจะชอบ DownBoy เป็นพิเศษเพราะว่าทาแล้วมันทำให้หน้าดูมีความโกลว์ขึ้นสว่างขึ้นน่ารักดี ถือว่าเป็นสีปลอดภัย ทาง่าย ทาแล้วแฮ็ปปี้สำหรับเราค่ะ :)
Yves Saint Laurent Baby Doll Kiss & Blush Lips & Cheeks

ตอนแรกที่ YSL Baby Doll Kiss & Blush Lips & Cheeks รุ่นนี้ปล่อยออกมา เราก็ไม่ได้อะไรมากนะ ค่อนข้างเฉย ๆ เลยด้วยซ้ำ แต่ก็ซื้อมาไว้ แต่พอได้ลองใช้ไปใช้มาเราก็เริ่มชอบค่ะ แปลกดี สี 3 สีด้านบนนี้จะอยู่ในกลุ่มส้มอมพีชที่เข้ากับสีตาแบบเบสิคของเราได้ดีมาก (ช่วงนี้เราชอบอะไรที่เป็นสีส้มสีพีชมาก) รุ่นนี้บางสีดูจากขวดมันแล้วสีจะสว่าง bright มากแต่ว่าพอทาลงไปบนผิวและปากจริง ๆ แล้วสีมันจะจางออกบางลงมากพอสมควรค่ะ ตอนใช้ทาบนแก้ม เราว่ามันทำงานได้ดีเลยนะ ติดทน สีชัดเจน ส่วนการทาบนปากนั้นยังติดไม่ทนเท่าไหร่ ต้องลงไพรเมอร์หรือคอนซีลเลอร์ไว้ก่อนถึงจะช่วยให้มันติดทนขึ้น เนื้อมันไม่เหลวนะ แต่ก็ไม่หนืด คือกลาง ๆ ทาแล้วให้ความรู้สึกแห้งนิด ๆ ปนซิลิโคนหน่อย ๆ ก็เลยทำให้เกลี่ยง่าย ตอนทาแก้มเราไม่รู้สึกว่ามันจะทำให้ผิวแห้งหรืออะไรนะคะ แต่บนปากนี่แอบแห้งเล็กน้อย นอกจาก packaging สวยหรูหราแล้ว รุ่นนี้ก็ยังคงมีกลิ่นมะม่วงที่เป็นกลิ่น signature ของ YSL ด้วยค่ะ หอมมาก เราชอบมาก
Benefit Cosmetics They’re Real! BIG Sexy Lip Kit

ทราบมั้ยคะ ว่าเราเพิ่งค้นพบอะไรบางอย่างเกี่ยวกับตัวเองในฐานะที่เป็น makeup lover เราพบว่าจริง ๆ แล้วเราเนี่ยะเป็นแฟนตัวยงของแบรนด์ Benefit Cosmetics! มานั่งมองดูของใน stash เรา ดูไปดูมาก็พบว่าเรามีข้าวของของ Benefit นี่เกือบจะ 90% ของที่แบรนด์วางขายเลย! คือเราก็ไม่ได้แพลนว่าจะให้เป็นแบบนี้หรอกค่ะ ซื้อไปซื้อมา อ้าว มีเกือบทุกชิ้นเลย ^_^” หลายคนคิดว่าเครื่องสำอางของ Benefit นั้นไม่ได้มีอะไรมากนอกจาก packaging น่ารักกรุ๊งกริ๊ง แต่หลายปีที่ผ่านมานี้เราค้นพบไอเท็มของ Benefit หลายตัวที่ทำงานได้ดีเยี่ยมเยอะเหมือนกันนะคะ อย่างพวก liquid tint นี่ของเขาแน่อยู่แล้ว อันนี้ไม่ต้องบอกก็รู้กัน ติดทนจริงอะไรจริง ส่วนบลัชปัดแก้มก็ดีสีสวย ยิ่งผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับคิ้วนี่ก็ดีงามมากและมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วย นอกจากนี้เราก็ชอบตัว Hello Flawless Powder Foundation ด้วยนะ ส่วนไอเท็มล่าสุดที่เราชื่นชอบก็คือ They’re Real! BIG Sexy Lip Kit เซ็ทนี้ค่ะ อย่างแรกเลยคือ ราคาดีสมเหตุสมผล อย่างที่สองคือตัวเลือกสีดีงาม ทั้ง 4 สีสามารถทาได้จริงในชีวิตประจำวัน สีโปรดสุดของเราคือสี Revved-Up Red ซึ่งเป็นสีที่ทาแล้วหน้าสว่างขึ้นทันทีเลย คุณภาพดีใช้ได้เลยค่ะ สีเข้มชัดเจนดี ติดทนกำลังดีด้วย รุ่นนี้แบรนด์เขาออกแบบมาให้เป็นได้ทั้ง lip liner และ lipstick แต่การทาให้ขอบปากสีเข้มกว่าสีปากนั้นมันไม่ใช่แนวเรา เราก็เลยกลับด้านทาค่ะ เอาทางสีเข้มเข้าข้างในปาก แล้วสร้างเป็น gradient lips แทน อันนี้จะเข้าทางเรามากกว่า! ตอนนี้ก็รอว่าเมื่อไหร่แบรนด์จะปล่อยขนาดเต็มออกมา กะว่าจะค่อย ๆ ทยอยเก็บให้ครบทุกสีเลย :) เรารีวิวเซ็ทนี้เรียบร้อยแล้วค่ะ ตามไปอ่านได้ที่หน้านี้เลย!
Benefit Cosmetics the POREfessional Pore Minimizing Makeup

ปกติเราจะเลือกแค่ 5 ชิ้นมาเขียนในของโปรดประจำเดือน แต่เดือนนี้ขอแถมชิ้นที่ 6 ค่ะ! นั่นก็คือ The POREfessional Pore Minimizing Makeup ตัวนี้เท่าที่ทราบยังไม่วางขายที่อเมริกา แต่ที่ประเทศไทยมีขายแล้วที่เคาน์เตอร์ Benefit และร้าน Sephora ทุกสาขา เราได้ลองใช้มาประมาณสัปดาห์นึงละ ขอบอกเลยว่าชอบมากค่ะ เป็นรองพื้นที่มีระดับการปกปิดเบาถึงปานกลาง เนื้อเหลว เหมาะกับการใช้ในวันสบาย ๆ หรือทาไปทำงานเบา ๆ เรารู้สึกว่ามันคุมมันได้ค่อนข้างโอเคเลยด้วยนะ เดี๋ยวขอลองใช้ต่อก่อนอีกซัก 2-3 อาทิตย์แล้วเราจะมาเขียนรีวิวเต็มให้อ่านกันค่ะ
มาถึงตอนนี้ต้องบอกเลยว่าเรารู้สึกดีมากที่ได้กลับมาเขียน blog อีกครั้ง แต่ช่วงนี้งานของเรายังคงยุ่งอยู่มาก คงอาจจะไม่ได้มาอัพเดทบ่อยเกือบทุกวันเหมือนเมื่อก่อน แต่เราแพลนไว้ว่าอย่างน้อยก็จะต้องมาเขียน 1-3 รีวิวต่อสัปดาห์ ก็หวังว่าเราจะมีเวลากลับมาเขียนได้เยอะขึ้นในอนาคตเนอะ :)
ขอสวัสดีอีกครั้งนะคะ และก็ขอต้อนรับทุกคนกลับสู่ Hello Jaa! ❤
Purchase
Estée Lauder Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion:
US$58-96 at Sephora ○ Nordstrom
Tarte Tartelette Amazonian Clay Matte Eyeshadow Palette:
US$46 at Sephora ○ Nordstrom
theBalm DownBoy Shadow/Blush:
US$21 at theBalm ○ Walmart
theBalm FratBoy Shadow/Blush:
US$21 at theBalm ○ Walmart
Yves Saint Laurent Baby Doll Kiss & Blush Lips & Cheeks:
US$40 at Sephora ○ Nordstrom ○ Saks
Benefit Cosmetics They’re Real! BIG Sexy Lip Kit:
US$29 at Sephora ○ Birchbox ○ Benefit
Benefit Cosmetics the POREfessional Pore Minimizing Makeup:
US$30 at Sephora // US$40 at Benefit
Estée Lauder Micro Essence Skin Activating Treatment Lotion:
฿3,700 at Central
Tarte Tartelette Amazonian Clay Matte Eyeshadow Palette:
฿2,020 at Sephora Thailand
theBalm DownBoy Shadow/Blush:
US$21 at theBalm ○ Walmart
theBalm FratBoy Shadow/Blush:
US$21 at theBalm ○ Walmart
Yves Saint Laurent Baby Doll Kiss & Blush Lips & Cheeks:
฿1,800 at Central
Benefit Cosmetics They’re Real! BIG Sexy Lip Kit:
฿1,250 at Sephora Thailand
Benefit Cosmetics the POREfessional Pore Minimizing Makeup:
฿1,300 at Sephora Thailand