ครีมกันแดดนี่ถือว่าเป็นอะไรที่สำคัญมากนะในช่วงหน้าร้อน นอกจากจะช่วยไม่ให้ผิวไหม้ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย และลดการเกิดจุดด่างดำบนผิวแล้ว มันยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังด้วย จริง ๆ แล้วเราซื่อสัตย์และใช้กันแดดของ Dior ชื่อ Diorsnow White Reveal UV Protection มานานมากแล้ว แต่ว่าหน้าร้อนนี้อยากลองอะไรใหม่ ๆ บ้าง (ก็เป็นเรื่องปกติของ beauty blogger เนอะที่อยากจะลองของใหม่เรื่อยไป!) La Mer The Broad Spectrum SPF 50 UV Protecting Fluid ตัวนี้เป็นตัวใหม่ที่เพิ่งออกมาค่ะ และวันนี้เราจะมารีวิวให้ฟังกันว่ามันทำงานดีไหมอย่างไร :)

เมื่อพูดถึงเรื่องการเลือกครีมกันแดดแล้ว เราจะมองหาสิ่งเหล่านี้เป็นหลักเสมอค่ะ:
- Broad spectrum (ป้องกันผิวทั้งจากรังสี UVA และ UVB)
- SPF 50 อย่างน้อย
- ไม่เหนียว ไม่ทิ้งคราบขาว
- เกลี่ยง่าย ซึมซับเร็ว
- ไม่มีกลิ่นถ้าเป็นไปได้
เดี๋ยวเราจะรีวิวเป็นข้อ ๆ ตามนี้เลยละกัน

อย่างแรกที่ต้องบอกก่อนก็คือว่า การจะเลือกใช้ครีมกันแดดแบบที่มี physical หรือ chemical filters นั้นขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละบุคคล ส่วนตัวเราถ้าเลือกได้จะชอบแบบที่ผสมกันมากกว่า ตัว physical filters จะปกป้องผิวโดยการสะท้อนแสงหรือบดบังแสงไม่ให้ลงมาถึงผิว ส่วน chemical filters นั้นจะดูดซึมแสงแทน จากประสบการณ์เราเราพบว่าแบบที่มี physical filters นั้นจะทิ้งคราบขาวและเนื้อจะหนากว่าแบบที่มี chemical filters แต่ข้อเสียของ chemical filters ก็มีเช่นกันคือมันมีสารระคายเคืองผิวที่บางคนอาจใช้แล้วแพ้ ดังนั้นแบบที่มี chemical filters อาจจะไม่เหมาะสำหรับทุกคน ทั้ง 2 อย่างก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อันนี้ก็คงต้องลองใช้ดูเองนะคะว่าแบบไหนใช้ได้ดีและเหมาะกับผิวของคุณ

Criteria #1 and 2: Broad spectrum และ SPF
The La Mer The Broad Spectrum SPF 50 UV Protecting Fluid ตัวนี้ถือว่าเป็น chemical sunscreen ค่ะ และก็มี UV Filters ดังต่อไปนี้:
- Avobenzone 3.00% – ป้องกันรังสี UVA1
- Homosalate 5.00% – ป้องกันรังสี UVB
- Octisalate 5.00% – ป้องกันรังสี UVB
- Octocrylene 2.70% – ป้องกันรังสี UVB
- Oxybenzone 3.00% – ป้องกันรังสี UVB, UVA2
ทีนี้ก็รู้แล้วว่าต้วนี้เป็น broad spectrum กันได้ทั้ง UVA และ UVB เลย แถมมี SPF ตั้ง 50 ด้วย ผ่านค่ะ! อ้อ นอกจากนี้หลังจากที่เราได้ใช้มาแล้วกว่า 2 อาทิตย์เราไม่พบว่ามันทำให้ผิวเราระคายเคืองแต่อย่างใด ประสบความสำเร็จอีกหนึ่งข้อ! :)

Criteria #3 – 5: Formula
เนื้อมันถ้าเทียบดูแล้วจะหนากว่าตัวอื่น ๆ ที่เราใช้มานะ แต่ว่าก็ยังคงน้ำหนักเบาและทาแล้วรู้สึกสบายอยู่ ไม่ได้หนักอะไร เนื้อนุ่ม ลื่น เกลี่ยง่ายมาก ไม่มีดึงหรือลากผิว ซึมซับก็เร็ว ไม่ทิ้งคราบขาวหรือรอยเหนียวแต่อย่างใด ที่ทิ้งไว้คือ dewy finish หน้าฉ่ำเล็กน้อยดูโกลว์เบา ๆ เราเป็นคนผิวผสมถึงมันค่ะ ใช้ตัวนี้แล้วไม่พบว่าทำให้หน้ามันขึ้นระหว่างวันแต่อย่างใด
เวลาเราใช้ เราจะใช้นิ้วมือลงเลยนี่แหละ ลงเยอะนิดหน่อยให้ทั่วหน้าและลำคอทุก ๆ เช้าเป็น step สุดท้ายของขั้นตอนการบำรุงผิว เรื่องการให้ความชุ่มชื้นของตัวนี้นั้นเราว่าก็ไม่ได้ดีอะไรมากค่ะ แต่ว่าเราก็ไม่ได้พึ่งมันอยู่แล้ว เราจะพึ่ง moisturizer มากกว่าในการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว แต่ว่าตัวนี้กลับทำหน้าที่เป็น makeup base/primer ได้ดีมากค่ะ! พอลงรองพื้นตามจะง่ายขึ้นมาก เกลี่ยไปง่ายขึ้น ก็ถือว่าเป็นข้อดีแถมมา
แต่ตัวนี้มีอย่างนึงที่เราไม่ชอบเท่าไหร่ นั่นก็คือกลิ่นมันค่ะ กลิ่นมันออกประมาณครีมกันแดดแบบสมัยก่อนที่แรง ๆ ที่ไว้ใช้ทาตามตัว กลิ่นติดทนด้วย ประมาณ 10-15 นาทีกว่าจะหายไป ถ้าไม่มีกลิ่นแรงขนาดนี้ก็จะดีกว่านี้มาก เพราะแหม ราคาก็สูงซะตั้งขนาดนี้เราก็อยากได้อะไรที่กลิ่นดีกว่านี้นิดนึงเนอะ :)

การลงครีมกันแดดนั้นถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ต้องบังคับตัวเองให้ทำทุก ๆ เช้านะคะ ทุกวันนี้เรายังโทษตัวเองเลยที่ไม่ยอมทาตั้งแต่เด็ก ๆ กว่าเราจะมาเริ่มทานี่ก็ 20 กว่าแล้ว (สยองเนอะ!) ทำให้ตอนนี้ผิวหน้าค่อนข้างมีปัญหาคือมีพวกจุดด่างดำเยอะ คำแนะนำเราคือต้องทาทุกวัน และใช้ในปริมาณมากพอที่จะครอบคลุมทั้งหน้าและลำคอ อย่าเหนียว อย่าทาน้อย อย่าทาบางค่ะ และถึงแม้ว่าใครที่ทำงานในตึก ในที่ร่ม หรือคิดว่าไม่โดนแดดก็ตามก็ต้องทานะคะ โดยเฉพาะใครที่นั่งทำงานติดหน้าต่างเนี่ยะก็สำคัญ เพราะว่ารังสี UVA มันทะลุผ่านกระจกได้ค่ะ ป้องกันไว้ก่อนดีที่สุดค่ะ
โดยรวมแล้ว เราก็พอใจกับ La Mer The Broad Spectrum SPF 50 UV Protecting Fluid ตัวนี้ค่ะ ถึงแม้ว่ากลิ่นจะไม่ค่อยพึงประสงค์เท่าไหร่นัก แต่ก็พอมองข้ามไปได้ ราคานี่ถือว่าแพงมหาศาลนะสำหรับครีมกันแดด แต่ว่าก็ไม่น่าแปลกใจอะไรเพราะอะไร ๆ ของ La Mer ก็ราคาประมาณนี้อยู่แล้ว เรามั่นใจว่าคุณสามารถหาครีมกันแดดแบรนด์อื่นที่ราคาน้อยกว่าแต่ว่าปกป้องได้ดีเหมือนกันได้อยู่แล้ว แต่ว่าหากมีวันไหนที่คุณอยากจะลองซื้ออะไรแพง ๆ ให้กับตัวเอง ของ La Mer ก็ไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอนค่ะ
แล้วตอนนี้คุณใช้ครีมกันแดดของอะไรอยู่คะ? ตัวไหนเป็นตัวโปรดและทำไมถึงชอบ? :)