CC Cream ตัวใหม่ล่าสุดจาก Chanel มาแล้ว อันนี้เพิ่งวางขายไม่นานนี้เองค่ะ ซักประมาณเมื่อเดือนที่แล้ว (ที่อเมริกานะ ที่เอเชียวางขายมานานแล้ว) แต่เราใช้ตัวนี้มาตั้งแต่เดือนธันวา ปี 2012 แล้วล่ะ เพราะได้มาเป็นของขวัญวันคริสต์มาส เราก็ใช้มาเรื่อย ๆ นะ ประมาณครั้งถึงสองครั้งต่อสัปดาห์ เพราะฉะนั้นเรารู้สึกว่าเรารู้จักมันดีพอแล้วที่จะเอามาเล่าให้ฟังว่ามันประสิทธิภาพดีแค่ไหน ไปดูกันเลย
อันดับแรก packaging ก่อนเลย! ตัวนี้มาในรูปแบบหลอดสีขาวแบบบีบธรรมดา ตัวหลอดขนาดกำลังดี พกพาสะดวก มีฝาปิดสีดำที่มีโลโก้ของ Chanel อยู่ด้านบนซึ่งก็ช่วยเพิ่มความหรูหราให้ตัว packaging ขึ้นมาหน่อย บางคนอาจจะคิดว่าเออ มันดูง่าย ๆ เรียบ ๆ เกินไปมั้ย แต่เราคิดว่ามันก็ดูเป็นสไตล์ Chanel อยู่นะ ตัวนี้มีกลิ่นหอม ๆ อ่อน ๆ ของดอกไม้ด้วยแต่ว่าทาแล้วก็หายไป มี Titanium Dioxide เป็นสารกันแดด




พอมาเป็นแบบหลอดบีบแบบนี้ ทีนี้ก็ง่ายละที่จะกะว่าจะใช้ครั้งละเท่าไหร่ อย่างแรกเลยเกี่ยวกับครีมตัวนี้คือ มันเป็น silicone-based และเนื้อมันก็ค่อนข้างจะหนา! หนา แต่ไม่หนักนะ หนา แต่ว่าเกลี่ยง่ายมาก (งงมั้ย) เราคิดว่าวิธีที่ดีที่สุดในการลงครีมตัวนี้คือ ใช้ทีละน้อย ๆ ใช้ประมาณเมล็ดข้าวสารก่อน แต้มลงไปที่แต่ละส่วนบนใบหน้า จากนั้นใช้มือเราเนี่ยะแหละเกลี่ย เพื่อที่ความร้อนจากมือจะช่วยให้เนื้อครีมหนา ๆ เกลี่ยง่ายขึ้น แต่ต้องรีบเกลี่ยเร็ว ๆ นิดนึง เพราะว่าครีมตัวนี้แห้งเร็วมาก ถ้าแห้งแล้วแห้งเลย เกลี่ยไม่ไปแล้ว ตัวนี้จะทำให้หน้าเราดู matte แล้วก็ดูสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าคนไหนไม่ชอบใช้นิ้วมือ ก็ใช้ฟองน้ำเช่น Beauty Blender ได้นะคะ อันนี้ก็ใช้ได้ดีกับครีมตัวนี้เหมือนกัน ส่วนในเรื่องของ coverage อันนี้จะอยู่ในกลุ่ม light to medium ค่ะ ไม่เบาเกิน ไม่หนาเกิน มันจะช่วยปกปิดรูขุมขนและรอยแผลเป็นเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้พอประมาณ เหมาะกับวันสบาย ๆ แต่ถ้าคนไหนมีรอยแผลเป็นมากหรือจุดดำมาก อันนี้อาจจะต้องใช้ concealer เข้าช่วยด้วย ตัวนี้เขาบอกว่าเป็น non-comedogenic นะคือไม่ทำให้เกิดสิว เราใช้มานานแล้วก็ไม่ได้ทำให้เป็นสิวแต่อย่างใด
ถ้าคนไหนไม่ชอบใช้ทั้งมือทั้งฟองน้ำ หรือไม่อยากเสียเวลาอีก 1 ขั้นตอน เราแนะนำว่าให้ผสมลงไปเลยกับ face moisturizer วิธีนี้ก็คล้าย ๆ กับเป็นการทำ tinted moisturizer เองไปในตัว วิธีนี้จะดีอย่างคือเนื้อ CC ครีมจะซึมซับเร็วขึ้น แล้วผลลัพธ์ที่ได้หน้าจะออกประมาณชุ่มฉ่ำ ๆ dewy เล็กน้อย แต่ถ้าใช้ moisturizer แบบทำให้หน้า matte ผลที่ได้ก็จะเป็นแบบ matte ก็แล้วแต่ว่าใช้แบบไหน ตัวนี้ติดทนทั้งวันค่ะ makeup เราก็ยังคงดูดีเหมือนเดิมหลังเลิกงาน ไม่มีหมองอะไร



ใจเราอยากให้ Chanel ผลิต shade สีออกมาให้เลือกมากกว่านี้หน่อย ตอนนี้มีแค่สีเดียวที่กำลังขายอยู่ (20 Beige) คือมันก็ไม่ได้ทำให้หน้าเราวอกหรืออะไร มันก็ดูกลมกลืนใช้ได้ แต่ว่าแค่สีอ่อนไปแค่นิดนึงเท่านั้นเองในความรู้สึกเรา วิธีแก้ก็ง่าย ๆ ผสมไปกับ foundation ที่สีเข้มกว่า หรือใช้กับแป้งที่สีเข้มกว่า หรือว่าจะเพิ่มสีให้ใบหน้าแทนด้วยการใช้ bronzer ก็โอเคอยู่ หลอดนึงดูเหมือนเล็ก ๆ แต่ว่าใช้ได้นานนะคะ เพราะว่าใช้ครั้งนึงแค่นิดเดียวเอง ตอนแรกที่ได้มาตอนเพิ่งออกมาใหม่ ๆ เนี่ยะ คนซื้อจ่ายไป $75 แน่ะค่ะ หัวใจจะวาย แต่ตอนนี้ถ้าใครอยากได้ ที่ Nordstrom ขายแค่ $55 เองค่ะ และถ้าซื้อมาไม่ชอบ ก็คืนได้ เพราะ Nordstrom นี่ถือว่ามีนโยบายการคืนสิ่งของที่ดีที่สุดและง่ายที่สุดในบรรดาห้างต่าง ๆ เลย แต่เชื่อเถอะ เราว่าคุณต้องชอบ มันเป็นเหมือน all-in-one product ทำได้หลายอย่าง เป็นได้ทั้ง moisturizer, color-corrector และกันแดดด้วย ใช้ตัวนี้ตัวเดียว ออกจากบ้านได้เลย แต่ถ้าให้แนะนำจริง ๆ ทาสารกันแดดอย่างอื่นเพิ่มไว้อีกก็ดีข้างใต้ เพราะว่าใช้ตัวนี้แต่ละทีก็แค่นิดเดียวเอง ปกป้องผิวไม่พอหรอก โดยเฉพาะวันที่จะต้องออกไปอยู่กลางแดดทั้งวัน ป้องกันไว้แต่เนิ่น ๆ ดีกว่าค่ะ หน้าจะได้ไม่แก่ก่อนวัย :)
เราคิดว่าซีซี เกลี่ยยยากมากเลยคะ หนึดๆ ทาบำรุงก่อนแล้วนะ เลยต้องพึ่งไพรเมอรเพิ่ม
ลองใช้ beauty blender เกลี่ยดูมั้ยคะ อาจช่วยได้นะ :)