วันนี้รูปเยอะอีกแล้วค่ะ เตือนไว้ก่อนเลย :D เราไปเจอเซ็ท Love At First Shine! นี้ตอนไปช็อป Black Friday ที่ Ulta และเนื่องจากว่าเราไม่เคยใช้ลิปกลอสของ Benefit มาก่อนเลยก็เลยนึกว่าเออประจวบเหมาะพอดี ได้ทุกสีเลยเซ็ทนี้ก็เลยจัดไป เซ็ทนี้มีทั้งหมด 6 สีค่ะทุกสีเป็นสีที่ตอนนี้มีวางขายอยู่ ขนาดที่มาในเซ็ทจะเป็นขนาดเล็กนะ น่ารักมาก ทีนี้ไปดูรูปกัน!

Benefit "Love At First Shine!" Ultra Plush Lip Gloss Set — Benefit “Love At First Shine!” Ultra Plush Lip Gloss Set

อย่างที่บอกค่ะว่าอันนี้มาเป็นขนาด mini แต่ว่าแต่ละสีมีขายแยกนะ ถ้าใครชอบแค่สีสองสีเท่านั้นก็ซื้อแยกได้ ตัว packaging ก็ปกติทั่วไปเป็นหลอดแบบใส ๆ หน่อย แล้วเวลาใช้ก็บีบเอา ตรงปลายมี small opening ให้ product ออกมาธรรมดาไม่มีอะไร

เราชอบลายบนหลอดค่ะ เป็นแนว art deco-inspired เก๋ดี แล้วก็ชอบตัวฝาสี off-white ด้วย match กับลายบนหลอดเป๊ะ ฝาลิปกลอสของ Benefit นี่จะดีกว่าแบรนด์อื่นหน่อยตรงที่ว่ามันมีรอยหยัก ๆ อยู่ทำให้จับถือง่าย (ไม่เหมือนพวกที่ลื่น ๆ เรียบ ๆ นึกออกมั้ยว่าแบบบางทีเปิดแล้วฝาก็หลุดมือหล่นพื้นไปซะงั้น! น่ารำคาญที่สุด! ฮ่า ๆ แอบมีบ่น) นอกจากนี้ด้านล่างของฝาก็แบน flat ทำให้เก็บง่ายเพราะสามารถตั้งได้ ไม่ต้องวางนอนอย่างเดียว Well done for the packaging!

เซ็ท Love At First Shine! นี้มีสีดังต่อไปนี้ค่ะ:

A-Lister -milky, shimmery/frosty bubblegum pink
Fauxmance -berry with a hint of coral
Kiss You – fuchsia purple
Lollibop – hot pink
Poutrageous! – coral
Icebreaker – clear

อย่างแรกเลยคือ ลิปกลอสรุ่นนี้ถือว่ามีสีเป็นแบบ sheer นะคะซึ่งเขาก็บอกมาเลยว่ามันเป็น sheer ดูในหลอดมันอาจจะดูสี pigmented ดี opaque ใช้ได้แต่ว่าพอเอามาทาลงไปบนปากจริง ๆ แล้วเห็นแค่สีจาง ๆ แค่นั้นเองค่ะ ทาลงไปนี่เกือบจะใส ๆ เลยด้วยซ้ำ แล้วถ้ายิ่งใครปากมีสีเข้มอยู่แล้วแบบเรานี่แทบจะแยกสีกันไม่ออกเลยค่ะ เพราะเหมือนกันมาก (ดู lips swatches ด้านล่าง) เราว่าถ้าใครปากสีอ่อน ๆ หน่อยน่าจะชอบมากกว่าเพราะสีจะเห็นชัดกว่า

ส่วนเรื่องเนื้อลิปกลอสอันนี้ต้องบอกว่า wow! มัน smooth มาก! creamy, lush และลักษะก็ออกไปคล้าย ๆ เจ็ล ทาง่าย และที่สำคัญไม่เหนียวเลยค่ะ! ทาแล้วปากจะดูนุ่ม อิ่มเอิบ plushy อย่างที่ชื่อบอกเลย แล้วก็เงาพอประมาณเลยทีเดียว ให้ความชุ่มชื้นได้ดีในระดับนึงด้วย ก็ถือว่าเป็นลิปกลอสทาสบายค่ะ แต่สูตรมันจะลื่น ๆ อยู่เหมือนกันนะและพอมารวมกับสีที่อ่อนมาก ๆ เราคิดว่าสีมันก็เลย build ไม่ได้เท่าไหร่

นอกจากนี้ตัวนี้ก็มีกลิ่นผลไม้แบบหวาน ๆ ด้วย มันหวานมากเหมือนกันนะ เราบอกไม่ได้เหมือนกันว่ากลิ่นมันเหมือนอะไรแน่แต่รู้ว่ากลิ่นแรง โดยเฉพาะตอนทาแรก ๆ เนี่ยะจะแรงมาก เราไม่ค่อยชอบกลิ่นนี้เท่าไหร่แต่หลายคนเขาก็บอกว่าชอบกัน เราก็เลยคิดว่ามันคงแล้วแต่ละคนมากกว่า แต่ดีอย่างกลิ่นไม่ติดทน ซักแป๊บก็หายไป

ส่วนเรื่องความติดทน อันนี้เศร้าค่ะ ไม่ทนเลย ซัก 2-4 ชม. ได้ก็เริ่มหายไปแล้ว ขึ้นอยู่กับสีด้วย เราพบว่าสี Fauxmance (berry) และ Kiss You (purple) จะติดทนนานกว่านิดหน่อย แต่ก็ไม่มากหรอก แค่ 1 ชม. ได้ ส่วน Icebreaker (clear) อันนี้ไม่ต้องพูดถึงอยู่แล้ว ไปเร็วสุด ชม. เดียวก็ไม่เห็นอะไรแล้ว แต่ว่ามันก็ไม่น่าแปลกใจอ้ะนะ สำหรับลิปกลอสที่มันไม่เหนียว และลื่นมากแบบนี้มันก็ติดไม่ค่อยทนอยู่แล้ว ทีนี้พอหลังจากสีหายไปเรารู้สึกว่าปากเราจะแห้ง ๆ นิดหน่อยด้วย ไม่ถึงกับแห้งทนไม่ได้อะไร แต่รู้ว่าแห้ง

Benefit "Love At First Shine!" Ultra Plush Lip Gloss Set; L-R: A-Lister, Fauxmance, Kiss You, Poutrageous!, Lollibop, and Icebreaker — Benefit “Love At First Shine!” Ultra Plush Lip Gloss Set; L-R: A-Lister, Fauxmance, Kiss You, Poutrageous!, Lollibop, and Icebreaker

สำหรับเราแล้ว รุ่นนี้ก็ถือแค่ว่า packaging น่ารักค่ะ น่าจะเหมาะสำหรับวันที่แบบต้องออกนอกบ้านไปซัก 2-3 ชม. ไรงี้และแค่อยากทาอะไรง่าย ๆ ที่มีสีและความเงานิดหน่อยบนปาก ถ้าใครที่ชอบเนื้อกลอสตัวนี้มาก ๆ แต่ว่าไม่ชอบตรงที่ไม่ค่อยมีสี ก็ลองเอาไปผสมกับ lip stain ดูหรือจะทาทับลิปสติกก็ได้ ก็จะช่วยให้มีสีดีขึ้น ส่วนคนที่ปากสีเข้ม ๆ แบบเราแล้วอยากจะซื้อสักสี อันนี้ก็เลือกไปเลยค่ะ สีไหนก็ได้เพราะทาไปบนปากแล้วก็ออกจะเหมือน ๆ กัน แต่อย่างน้อยเลือกสีที่เข้ม ๆ กว่าหน่อยก็ดีเพราะสีจะเข้มกว่าและก็ติดทนนานกว่าหน่อย :)