รีวิว Bite Beauty Best Bite Rewind

สวัสดีค่ะทุกคน! ต้องขอโทษด้วยที่ช่วงนี้เราหายหน้าหายตาไปซะบ่อยเลย คือตอนนี้มีอะไรใหม่ ๆ เข้ามาให้ทำในชีวิตหลายอย่างค่ะ คือนอกจากจะทำงานประจำแล้ว เราก็ยัง freelance แปลเอกสารด้วย และนอกจากนั้นก็มีเรียนภาษาจีนทุกวันอีกต่างหาก ซึ่งขอบอกว่ายากมาก!! 汉语很难! เรามีหลายอย่างต้องทำในเวลาเดียวกันดังนั้นลำดับความสำคัญของแต่ละงานก็เลยต้องมีการเปลี่ยนแปลงนิดหน่อย อย่างการเขียนบล็อกนี้ตอนนี้ก็ตกไปอยู่ช่วงท้าย ๆ ของลิสท์ไปก่อน เราหวังว่าเร็ว ๆ นี้เราจะ manage เวลาได้ดีขึ้นกว่านี้ เพราะเราอยากกลับมาเขียนบล็อกบ่อย ๆ เหมือนเดิมมาก เราคิดถึงที่ตรงนี้ และเราก็คิดถึงการที่ได้มาพูดคุยมาแชร์รีวิวเครื่องสำอางให้กับทุกคนอ่าน ก็หวังว่าอะไร ๆ มันจะลงตัวขึ้นในไม่ช้าค่ะ :)

ส่วนสิ่งที่เรานำมารีวิวในวันนี้ก็คือ Best Bite Rewind Lip Crayon Set จากแบรนด์ Bite Beauty เซ็ทนี้นี่หลายคนตกหลุมรักไปแล้วเรียบร้อย เป็นเซ็ทที่แบรนด์ปล่อยออกมาเป็น holiday-exclusive เท่านั้น ตอนแรกเราก็ไม่ได้กะจะซื้อหรอก แต่ว่าแรงกดดันจาก beauty community (และรีวิวจากบล็อกต่าง ๆ) มันรุนแรงซะเหลือเกินเราก็เลยห้ามใจไม่ไหว! เราทราบดีว่ามีรีวิวของตัวนี้หลายรีวิวแล้ว แต่จะซักอีกรีวิวดี ๆ จากเราก็คงไม่เป็นไรเนอะ ;) ไม่พูดมากดีกว่า ไปเริ่มกันเลยค่ะ!

Bite Beauty Best Bite Rewind เป็นเซ็ทที่รวมเอา Bite Beauty Matte Crème Lip Crayons ขนาดทดลอง 4 สีมาไว้ด้วยกัน ดินสอมาในกล่องโลหะสีแดงสดใสเข้ากับช่วงวันหยุด กล่องสามารถนำไปใช้ใส่ของอย่างอื่นได้ต่อ ข้างในมีกระจกขนาดเต็มฝามาให้เพื่อให้การ touch-up ระหว่างวันเป็นเรื่องง่าย เซ็ทนี้ ณ ตอนนี้มีขายที่ Sephora และเป็น holiday-exclusive เท่านั้น ตัวดินสอมาเป็นสีเทาเนื้อสัมผัสออกยาง ๆ เล็กน้อยตามสไตล์ packaging ของ Bite Beauty มีชื่อสีพิมพ์เป็นตัวเล็ก ๆ อยู่ใต้ด้าม คือหากนำดินสอมาวางเรียงกันเนี่ยะจะแยกไม่ออกเลยค่ะว่าแท่งไหนเป็นสีไหนนอกจากจะเปิดฝาดูหรือไม่ก็หงายปลายด้ามขึ้นมาอ่านชื่อสี เสียดายที่แบรนด์น่าจะทำเป็นวงแหวนสี ๆ หรืออะไรซักอย่างไว้ที่ด้ามแท่งเพื่อให้สามารถมองเห็นได้ทันทีว่าแท่งนั้นสีอะไร

ตัวดินสอเป็นแบบหมุนขึ้นลงได้ ปลายดินสอตอนเปิดฝาออกมาครั้งแรกนี่แหลมเฟี้ยวเลย ทำให้วาดเส้นไปตามขอบปากได้แม่นยำมาก แต่ว่าใช้ไป 3-4 ครั้งก็ทู่แล้วล่ะค่ะ ดินสอเหลาไม่ได้นะคะ และก็ไม่มีที่เหลามาให้

ส่วนตัวคิดว่าแต่ละสีที่เขาเลือกให้มานั้นถือว่าดีใช้ได้เลยค่ะ มีสีชมพูอมนู้ดไว้สำหรับทาไปคู่กับตา smokey eyes สีชมพูไม่จ๋ามากไว้สำหรับทาได้ทุกวันทุกสถานการณ์ สีแดงราสเบอร์รี่ไว้สำหรับทาไปงานกลางคืนหรือปาร์ตี้ และสีม่วงพลัมเบอร์รี่ไว้สำหรับทาช่วงฤดูใบไม้ผลิ ทุกสีทาได้จริงและทาได้ง่ายหมด และเราคิดว่าผิวสีไหน ๆ ทาก็น่าจะสวยเหมือนกันค่ะ ทุกสีมีกลิ่นเดียวกันคือกลิ่นเบา ๆ ของวนิลาผสมมะนาวที่แป๊บเดียวก็หายไป

สูตรและเนื้อสีโดยรวมแล้วถือว่าดีมากเพราะก็แหม มาจากบริษัทที่เด่นเรื่องการทำผลิตภัณฑ์ทาปากอย่างเดียวเนอะ! มันก็ต้องดีงามเป็นเรื่องธรรมดา เม็ดสีแน่นจัดเต็ม เนื้อเนียน ครีมมี่ และทาสบายปากมาก เนื้อมันจะไม่แม็ทสมชื่อหรอกนะคะเพราะว่าทาแล้วจะเห็นเลยว่ามีความเงาแบบซาตินนิด ๆ ทิ้งไว้ด้วย สำหรับใครที่ไม่ชอบทาสีแม็ทเพราะกลัวว่าปากจะดูแห้งและแตก ไม่ต้องกลัวเลยค่ะ! จากประสบการณ์เราแล้ว Matte Crème Lip Crayons ของ Bite Beauty นั้นค่อนข้างจะให้ความชุ่มชื้นและบำรุงปากได้ดีทีเดียว

และก็เช่นเดียวกันกับ Bite Beauty lip products อื่น ๆ ตัวนี้ก็ทำมาจากส่วนผสมที่เป็นเกรดสำหรับทำอาหารเช่นกัน ส่วนผสมหลักก็คือ resveratrol ซึ่งเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูงและพบได้ในไวน์แดง

Arm swatch comparison

สีที่ให้มาในเซ็ทก็ได้แก่สี Café, Torte, Coulis และ Aubergine ตามภาพด้านล่าง เราจะเจาะรายละเอียดของแต่ละสีอีกครั้งด้านล่างค่ะ :)

Café

Café เขาอธิบายมาว่าเป็นสีนู้ดประมาณน้ำตาลอมพีช แต่บนปากเราแล้วมันออกชมพูเยอะมาก สีซีดพอสมควร เราก็เลยต้องทาคู่ไปกับตา smokey eyes ซะเป็นส่วนใหญ่ ไม่เช่นนั้นหน้าเราจะดูป่วย เราว่าคนที่ผิวขาว ๆ หน่อยทาเดี่ยว ๆ น่าจะสวยน่ารักกว่าค่ะ เนื้อเนียน ครีมมี่ดี และทาไปครั้งเดียวก็ได้สีเกือบทึบเลย แต่ปัญหาคือสีมันจะตกตามริ้วรอยบนปาก และโดยรวมแล้วทำให้ปากดูแห้งและไม่เรียบเนียนอย่างที่ควรจะเป็น เราแนะนำให้ทาทับลิปไลน์เนอร์หรือไพรเมอร์ และตามด้วยลิปกลอสค่ะ ปากจะดูสวยงามขึ้นอีกเป็นร้อยเท่าเลย! :)

Torte

ใช่แล้วค่ะ! Torte สีนี้เป็นสีโปรดสุดของเราในเซ็ท! :) เขาอธิบายมาว่าเป็นสีกุหลาบโทนน้ำตาล ซึ่งก็เป๊ะกับที่เห็นเลย เราชอบที่สีมันไม่ใช่ชมพูสว่างหรือเข้มเกินไป สีค่อนข้างจะไปในทิศทางเดียวกันกับสีปากตามธรรมชาติของเรา ถือว่าเป็นสีที่ทาได้ทาดีทาได้ทุกวันทุกเวลาค่ะ และก็น่าจะเข้ากันได้กับ eye makeup หลาย ๆ แบบ เนื้อสีก็ดีงาม นุ่ม ครีมมี่ เนียนอย่างกับเนยเลย ทาแล้วสีเนียนเสมอกัน ทาไป 1 ชั้นก็ได้สีเกือบทึบและสามารถ build ให้ทึบสนิทได้ง่าย สีนี้ทาแล้วทำให้ปากเราดูเนียนสวยสุขภาพดีมาก!

Coulis

มันก็ไม่ถือว่าเป็น holiday set อย่างแท้จริงนะ ถ้าปราศจากสีแดงแนวสดใสร่าเริง! Coulis นี้เขาบอกมาว่าเป็นสีแดงราสเบอร์รี่ เราชอบตรงที่ทาแล้วผิวดูสว่างสวยขึ้นทันตาเห็นเลย! แถมมันช่วยทำให้ปากเราดูอวบอิ่มและหนาขึ้นด้วย ส่วนเรื่องสูตรก็เนียนดีค่ะ และเม็ดสีก็แน่นมาก เนื้อจะมีความลื่นในตัวเล็กน้อยมากกว่าสีอื่น แต่ว่าก็ยังทาได้ง่ายและเสมอกันอยู่ แต่หากดินสอของคุณปลายเริ่มทู่แล้ว เราแนะนำให้ลงลิปไลน์เนอร์วาดรูปปากก่อนจะดีที่สุดค่ะ จะได้ทาได้แม่นยำขึ้น สีนี้ทิ้งสเตนไว้บนปากด้วยเล็กน้อย ดังนั้นตอนทาต้องคอยระวังพยายามอย่าให้เกิดความผิดพลาดไม่งั้นลบออกยากค่ะ

Aubergine

สีนี้ถึงแม้ว่าจะอธิบายมาว่าเป็นสีออกประมาณมะเขือยาวสีม่วงเข้ม แต่ Aubergine จริง ๆ ทาบนปากเราแล้วจะออกไปทางพลัมเบอร์รี่มากกว่าค่ะ ก็ถือว่าเป็นสีที่สวยนะ แต่จริง ๆ ในใจเราคาดหวังไว้ว่ามันจะออกโทนม่วงหรือ vamp ชัดกว่านี้หน่อย ยอมรับว่าผิดหวังกับสีเบอร์รี่ที่เด่นมาเลยเล็กน้อยค่ะ ส่วนเนื้อสีจะบางและเชียร์กว่าสี Coulis แต่ว่าก็สามารถ build ให้เป็น full coverage ได้ เนื้อสัมผัสแล้วครีมมี่ดีแต่ว่าก็มีความลื่นอยู่ในตัวทำให้ตอนทาต้องระวังนิดนึงอย่าเผลอไถลออกนอกปาก สี Aubergine นี้ทิ้งสเตนไว้บนปากเบา ๆ เช่นเดียวกัน

Lip swatch comparison

เราไม่พบว่าทั้ง 4 สีนี้จะติดทนยาวนานอะไรมากมายแต่อย่างใดนะคะ แค่ประมาณลิปสติกธรรมดาทั่วไปเท่านั้น อย่างสี Café นี้ก็จะติดทนน้อยกว่าหน่อยที่ประมาณ 2-3 ชั่วโมง ส่วนสีอื่นจะอยู่ที่ประมาณ 3-4 ชั่วโมง ทุกสีไม่มีซึมออกนอกปากแต่ว่าจะเปื้อนง่ายหน่อยเพราะเนื้อมันครีมมี่มาก สี Café, Torte และ Coulis เป็นสีใหม่และมีขายเฉพาะในเซ็ทนี้เท่านั้น ส่วนสี Aubergine เป็นสี permanent มีขายตลอด ซื้อเดี่ยวได้ เมื่อเทียบกับราคาแล้ว เราพบว่าเซ็ทนี้เป็น starter set ที่ดีเลยสำหรับคนที่ยังใหม่กับแบรนด์ Bite Beauty หรือจะซื้อเป็นของขวัญหรือ stocking stuffer สำหรับช่วง holiday ที่กำลังจะมาถึงนี้ก็กิ๊บเก๋ดีค่ะ :)

เพื่อน blogger เราชื่อ Erin ก็ได้เขียนรีวิวของเซ็ทนี้ไว้อย่างดีด้วยเช่นกัน ตามอ่านได้ที่หน้านี้ค่ะ!

หวังว่าคุณจะชอบรีวิวเราในวันนี้นะคะ 再见 และเจอกันใหม่เร็ว ๆ นี้! ^_^ (เรามีความหวังและมั่นใจค่ะ ว่าซักวันนึงเราจะสามารถเขียนประโยคนี้เต็ม ๆ เป็นภาษาจึนได้! :D)

Purchase