รีวิว Charlotte Tilbury Bitch Perfect Kissing Lipstick

ในบรรดาเครื่องสำอางทั้งหมดของ Charlotte Tilbury ที่เราอยากได้จริง ๆ แล้วมีหนึ่งชิ้นที่ต้องตาโดนใจเรามากที่สุดก่อนใครเพื่อนเลย นั่นก็คือตัวลิปสติกสี Bitch Perfect ค่ะ มันจริงอย่างที่เขาบอกเลยว่าสีนี้เป็นสีนู้ดที่เข้ากันได้ดีกับหลายสีผิว แต่ว่าเรื่องเนื้อมันล่ะดีด้วยรึเปล่า? วันนี้เราจะมารีวิวให้ฟังกันค่ะ!

ก่อนอื่นเลยทราบรึเปล่าคะว่าชื่อเต็มจริง ๆ ของลิปสติกรุ่นนี้คือ Kissing Fallen From The Lipstick Tree? และก่อนที่จะวิ่งออกจากบ้านไปตามหาต้นไม้นี้กันนั้น จริง ๆ แล้วมันเป็นชื่อของส่วนผสมหนึ่งที่เป็น antioxidant ไว้ป้องกันริมฝีปากจากรังสีแดดและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระค่ะ oxidative stress ค่ะ

The Lipstick Tree originates from a tropical plant from America. The plump yet prickly red fruits appear like pouting lips that blow kisses at you as you walk by.

ก็เลยชื่อ Kissing Fallen From The Lipstick Tree ไง! :D

ทีนี้ไปต่อกันที่เรื่อง packaging แสนสวย! ลิปสติกรุ่นนี้มาในแท่งสี rose gold หรูหรามากค่ะ เป็น ribbed casing คือมีรอยหยัก ๆ รอบแท่ง จะมีชื่อย่อของแบรนด์ “CT” ปั๊มอยู่ที่ฝาด้านบน แล้วก็มีชื่อเต็ม “Charlotte Tilbury” ปั๊มอีกทีด้วยบนแท่งด้านใน น้ำหนักของลิปสติกมันไม่หนักเหมือนที่เราคิดไว้นะ แต่อย่างน้อยมันก็ไม่เปื้อนรอยนิ้วมือง่ายค่ะ :) กลิ่นจะออกไปทางวานิลลาอ่อน ๆ ที่ทาไปบนปากปุ๊บก็หายไปแล้ว

เวลาดูบนเว็บที่ขายสี Bitch Perfect นี้ สีมันจะออกไปทางชมพูนู้ด แต่ว่าของจริงนั้นมีส้มผสมพีชออกชัดมาก ขึ้นอยู่กับแสงที่ตกกระทบบนปากนะคะ บางทีก็จะเห็นเป็นนู้ดชมพู บางทีก็จะเห็นเป็นนู้ดส้มอมพีช นอกจากนี้เนื้อมันก็มีชิมเมอร์เยอะมากด้วย ซึ่งทาแล้วก็ทำให้ปากดูอิ่มและเนียนดี เราชอบสีนี้บนปากเรามาก เราว่าสีมันอ่อนก็จริงแต่ว่าไม่ได้อ่อนเกินถึงขนาดทำให้ดูป่วย เป็นสีนู้ดที่ทาไปทำงานได้สบายหรือจะทาคู่ไปกับ makeup look แน่น ๆ ตอนกลางคืนก็ได้ค่ะ :)

Bitch Perfect นี่เม็ดสีเขาเยอะมากค่ะ! มีระดับการปกปิดแบบ medium-to-full ทาไปครั้งแรกก็เกือบจะกลบสีปากเรามิดเลย ทาทับไปทับมาอีกนิด ก็กลบสนิทกลายเป็นสีทึบเลยค่ะ ทาแล้วจะได้ finish เงางามเบา ๆ ไม่เงาเท่าลิปกลอสจริง ๆ แต่เราว่ามันก็เงามากกว่าลิปสติกส่วนมากทั่วไปอยู่นะ

ส่วนเรื่องเนื้อของมันนี่เราคงให้เต็มสิบยากค่ะ เพราะว่ามันทาไปแล้วจะรู้สึกสากปากเล็กน้อยเหมือนกัน เพราะมันมีชิมเมอร์เยอะไง เนื้อมันก็นุ่ม creamy ดีอยู่แต่ว่าจะหนาหน่อย คือทาไปง่ายโอเค แต่ว่ามันไม่ไหลลื่นเหมือนลิปสติกราคาแพงอื่น ๆ ที่เราเคยใช้มา นอกจากนี้มันก็ไปเน้นพวกรอยแห้งด้วย ดังนั้นต้องเตรียมสภาพปากให้ดี ๆ ก่อนทาสีนี้เสมอค่ะ เนื้อมันก็ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นอะไรมากนะ แต่อย่างน้อยทาแล้วปากเราก็ไม่ได้รู้สึกแห้งแต่อย่างใดถึงแม้ว่าสีจะจางออกแล้วเหลือแต่ตัวชิมเมอร์ทิ้งไว้ก็ตาม

นอกจากนี้ตอนทาชั่วโมงแรก ๆ เนี่ยะปากเราจะรู้สึกลื่น ๆ หนึบ ๆ เหมือนทา wax เลยแล้วก็รู้สึกหนักเล็กน้อยด้วย แต่หลังจากนั้นซักพักก็ไม่รู้สึกแต่งต่างอะไรจากลิปสติกอื่นทั่วไป จากที่รู้สึกหนัก ๆ มันก็กลับกลายมารู้สึกธรรมดาเหมือนลิปสติกทั่วไป แต่ก็ไม่ใช่ไม่รู้สึกว่าไม่มีอะไรบนปากเลยนะ ก็ยังรู้สึกอยู่ ความรู้สึกสากก็จะหายไปด้วย คือสรุปแล้วสำหรับสีนี้ตอนทาแรก ๆ อาจจะไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ว่ารอซักพักเนื้อลิปสติกมันจะเข้ากับปากได้ดีขึ้นแล้วก็จะรู้สึกสบายขึ้นค่ะ

แต่อย่างนึงที่เราให้คะแนนเต็มสิบได้เลยนั้นคือเรื่อความติดทนค่ะ! Bitch Perfect นี่ติดทนมากบนปากเรา สีติดทนนานถึง 4 ชม. ได้เลย สีแทบจะไม่มีจางเลย นี่แค่ทาทับลิปบาล์มเฉย ๆ ด้วยนะคะ ไม่ใช่ลิปไลน์เนอร์หรือไพรเมอร์ เราว่าน่าประทับใจอยู่นะสำหรับสีอ่อนนู้ด ๆ แบบนี้ หลังจากนั้นพอสีเริ่มจาง มันก็จางแบบเบา ๆ เสมอกัน ไม่มีเป็นจ้ำ ๆ แต่อย่างใด เราคิดว่าถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นแก่ปากอะไรมากนัก แต่อย่างน้อยมันก็ติดทนนาน แบบนี้เราว่าก็โอเคอยู่ค่ะ :)

แล้วคุณล่ะ ชอบ Bitch Perfect รึเปล่า? (เรารู้สึกตลก ๆ ทุกครั้งเลยที่เรียกชื่อสีนี้ ฮ่า ๆ) คุณคิดว่าสีมันอ่อนไปมั้ย? หรือส้มอมพีชเกิน? คุณชอบทาสีแบบนี้รึเปล่า? แล้วคุณคิดว่าถ้ามีคนถามว่าลิปสติกบนปากคุณสีอะไร คุณจะกล้าบอกมั้ย? ;D

Extra: อ่านรีวิวและดู swatches สี Penelope Pink และ So Marilyn คลิกหน้านี้!

Purchase