เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมดี ๆ สำหรับผิว? จัดมา! เป็น BB cream? จัดมา! โดย Dior? โอ้โห รีบ ๆ จัดมาเลย ก็รู้ ๆ กันอยู่ เราเป็นแฟน BB cream อยู่แล้ว พอมาเห็นตัวนี้ปุ๊บ รู้เลยว่าต้องลอง :)


เราจำได้เลยวันนั้นตอนเราเห็นตัวนี้บน shelves ครั้งแรกที่ Sephora มันแบบว่าตื่นเต้นอยากได้สุด ๆ รู้เลยว่าได้เสียเงินอีกแล้ว ตอนซื้อก็ไม่รู้หรอกนะว่ามันจะทำงานยังไง มันจะทำให้ผิวเราแพ้รึเปล่า (ตอนนั้นยังไม่มีริวิวของตัวนี้ที่ไหนเลย เพราะว่าเพิ่งออกมาใหม่สด ๆ ร้อน ๆ) แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงมีความรู้สึกว่าเราต้องไม่ผิดหวังแน่นอนและเราก็จะต้องชอบมันมากด้วย สุดท้ายก็จริง ไม่ผิดหวังจริง ๆ แถมยังชอบมากสุด ๆ
แหม ก็ดูแค่ packaging ก็ใจอ่อนแทบจะไม่ต้องคิดอะไรแล้วมั้ง สวยหรูดูดีซะขนาดนั้น หลอดสีชมพูอมแทนเบา ๆ ดู soft สวยมาก แล้วแถมใช้สะดวกด้วยนะ มาเป็นแบบปั๊ม เราชอบ packaging แบบนี้นะ ที่เป็นหลอดแล้วมีปั๊ม เพราะหลอดจะเบา พกไปไหนมาไหนง่าย ส่วนปั๊มก็เพื่อรักษาความสะอาดของครีมไว้

Diorskin Nude BB creme ตัวนี้ทำมาทั้งหมด 4 สี:
- 001 Light
- 002 Fair
- 003 Medium
- 004 Dark
เราซื้อสี 002 Fair มา มันก็สีอ่อนกว่าสีผิวนิดนึงถ้าพูดถึงแล้ว (เรา NC30) แต่ว่า 003 Medium นี่ก็เข้มเกินไปจริง ๆ เราไม่ชอบให้ผิวเราดู tan เท่าไหร่ เราก็เลยซื้อ 002 Fair มา ถ้ามันขาวซีดเกินเราก็ค่อยเติม bronzer เอาได้ ทั้ง 4 shades นี้จะมี pink hue ผสมอยู่นะ ซึ่ง Dior เขาตั้งใจทำมาให้เป็นแบบนั้น เพื่อที่หลังจากทาแล้วผิวจะได้ดูอมชมพู สวยใสเหมือนดอกกุหลาบ ประมาณนั้นเลย แต่เอาเข้าจริงแล้ว เราก็ไม่เห็นจะเป็นชมพูตรงไหนตอนทาลงไปแล้ว มันก็เหลืองเหมือนที่เห็นนั่นแหละบนผิวเราซึ่งเป็นผิวคนเอเชีย with yellow undertone
เนื้อตัวนี้ถือว่าเบามาก ๆ ค่ะ เบาเหมือนแบบว่ามันละลายหายไปบนผิวเลย ส่วนเรื่อง coverage เขาบอกว่า sheer แต่เราคิดว่ามันก็ปกปิดความชั่วร้ายเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ดีระดับนึงเลยอยู่นะ แต่ถ้าใครมีปัญหาผิวเยอะ เช่นมีผื่นแดง redness มีกระ หรือมีรอยแผลเป็นจากสิวเยอะ ๆ อันนี้ก็อาจจะปกปิดไม่พอค่ะ อันนั้นอาจจะต้องลงเพิ่มขึ้น หรือไม่ก็ใช้ concealer เข้าช่วย ตัวนี้สี build ได้ค่ะ ไม่ทำให้หน้าดู fake หรือ cakey ใด ๆ แล้วมันก็ติดทนนานทั้งวันด้วยนะ
วิธีการทาก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล ถ้าใช้มือก็จะได้ finish ออกไปทาง dewy, skin-like แต่ถ้าใช้แปรงก็จะออกไปทาง matte หน่อย ๆ เราลองมาทั้ง 2 แบบแล้วก็พบว่าเราชอบใช้มือมากกว่า ช่วงนี้ชอบให้หน้าออกไปทางใส ๆ โกลว์ ๆ มากกว่า matte ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่งหน้าก็เบา ๆ ช่วงนี้ หรือเป็นเพราะว่าเริ่มเสียใจลึก ๆ ที่ Summer กำลังจะหมดไปแล้ว เฮ้อ Summer แถวที่เราอยู่นี่มันช่างสั้นเสียจริง :(
Anyways, กลับมาคุยเรื่อง BB cream กันต่อดีกว่า ตัวนี้เนื้อครีมจะออกไปทางเหลว ๆ runny นิดนึงแล้วก็แห้งเร็วพอสมควร ดังนั้นตอน blend ต้อง blend อย่างรวดเร็ว นอกจากจะทำให้ผิวนุ่ม ชุ่มชื้น และ ดูดีขึ้นแล้ว ตัวนี้ยังเพิ่มความ glow ให้หน้าด้วยนะ ทำให้หน้าดูสว่างขึ้น แต่ไม่ได้มันหรืออะไรนะ แค่ดูสว่าง ๆ เฉย ๆ เนื่องจากว่า finish มันจะออกไปทางธรรมชาติมาก ๆ คล้าย ๆ เป็น second skin เลย ดังนั้นก็อาจจะข้ามแป้งไปได้ แต่ส่วนตัวเรา เราต้องตามด้วยแป้งตลอด ไม่ตามไม่ได้ ไม่รู้ทำไม paranoid ไปเอง อย่างน้อยก็ต้องลงตรง T-zone ถ้าใครผิวแห้ง อันนี้ก็อาจจะข้ามแป้งไปได้เลยค่ะ


มาดูเรื่อง skincare benefits กัน ตัวนี้มาพร้อมกับ “mineralized floral water and a blend of antioxidants” – OK, good! อายุขนาดนี้แล้วยิ่งมี antioxidants มากเท่าไหร่ยิ่งดี แต่ข้อเสียของครีมตัวนี้ก็คือ มี SPF แค่ 10 เอง! ซึ่งเราว่ามันต่ำเกินไป ดังนั้นคำแนะนำเราคือ ลงครีมกันแดดก่อนเลยค่ะ ที่มี SPF สูง ๆ หน่อย ซัก 50 ได้ก็ดี ยิ่งมี PA+ ด้วยก็ยิ่งดีใหญ่ อะไรที่เกิน 50 เราว่ามันก็เป็น overkill นะ


สรุปแล้วก็ถือว่าเป็น BB cream ที่ดีอีกตัวนึงสำหรับวันที่ผิวหน้าดี ๆ หน่อย (good skin days) หรือวันที่ไม่อยากแต่งอะไรมากนัก แค่อยากให้ดูหน้าใส ๆ เราไม่แน่ใจเหมือนกันว่าควรจะแนะนำให้ซื้อตัวนี้รึเปล่า เพราะอย่างที่บอก SPF ต่ำ และ shade สีก็มีให้เลือกน้อย แต่รู้อะไรไม้? เอาเข้าจริงแล้วตัวนี้เป็นตัวที่เราหยิบมาใช้บ่อยที่สุดในกลุ่ม BB cream ของเราเลยนะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน สงสัยจะเป็นเพราะว่าน้ำหนักมันเบา ทาแล้วเบาสบาย ทานิดหน่อยผิวก็ดูเนียนในระดับนึงเลยโดยที่ไม่ต้องทำอะไรมาก ถึง SPF จะต่ำแต่มันก็ไม่ใช่ a deal-breaker อะไรเลย เพราะยังไง ๆ เราก็ลงครีมกันแดดตามปกติของเราอยู่แล้ว ไม่ว่าจะใช้ BB cream ตัวไหน แต่ถ้าใครต้องการ BB cream ที่เป็นแบบ all-in-one จริง ๆ ที่ทำทุกอย่างอย่าง effectively เท่ากันหมด อันนี้อาจจะไม่ใช่ตัวที่คุณต้องการค่ะ