รีวิว Dior Miss Rouge Dior Brilliant Lipshine & Care Couture Colour

ซีซั่นนี้ Dior เขาเปลี่ยนสูตรลิปกลอสของแบรนด์ใหม่ค่ะ จาก Rouge Brillant Lip Gloss มาเป็น Rouge Dior Brilliant Lipshine & Care Couture Colour เพื่อให้รับกับเทร็นด์ลิปสติกที่เป็นแบบผสมลิปกลอสและลิปบาล์ม เราเป็นคนชอบสูตรแบบนี้อยู่แล้วก็เลยต้องหยิบมาลองเล่นซักอัน หลังจากใช้มาตลอดทุกวันเป็นเวลา 1 สัปดาห์ เราสามารถบอกได้เต็มปากเลยค่ะว่าสูตรใหม่นี้ทำงานได้ดีเยี่ยมในทุกด้านจริง ๆ คือเป็นลิปสติกแบบเหลวที่ดูแลสภาพปากได้ดีอย่างลิปบาล์มและยังให้ความเงาสุด ๆ แบบลิปกลอสเลยด้วย!

Rouge Dior Brillant Lipshine ตัวใหม่นี้มาในหลอดลิปกลอสใสฝาดำธรรมดาทั่วไป หลอดกับฝาเชื่อมต่อกันด้วยแถบสีเงินเงาวับที่มีลวดลาย Cannage pattern ซึ่งเป็นลาย signature ของแบรนด์สลักไว้เพื่อเพิ่มความหรูหราให้กับตัว packaging ตัว applicator เป็นแบบ doe-foot ติดกับฝามาเลย และมีดีไซน์ที่แปลกใหม่ ด้านหนึ่งจะแบน ส่วนอีกด้านจะเป็นแนวเฉียงและมีหลุมเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางไว้กักเนื้อกลอสจะได้หยิบสีออกมาทีเดียวพอทาทั่วทั้งปาก ไม่ต้องจุ่มเข้าจุ่มออก ปลาย tip มันนั้นก็ให้ความแม่นยำพอที่จะโค้งเข้ารับกับรูปขอบปากได้อย่างง่ายดาย สีที่เราซื้อมานั้นถือว่าอยู่ในกลุ่มสีเบา นิวทรัล ตอนทามันก็เลยไม่ได้เด่นอะไรมาก จึงไม่ต้องระวังมากในการทา ไม่ต้องใช้แปรง lip brush เข้าช่วยคลีนขอบปากอีกค่ะ

คงรู้กันแล้วนะคะว่าเราเป็นคนชอบทาปากสีชมพู เราก็เลยเลือกซื้อสีชมพูอ่อน ๆ มา สีที่เราซื้อมาคือสี Miss (359) ค่ะ ซึ่งเป็นสีชมพูเบา ๆ และมีสีส้มปนด้วยนิด ๆ ซึ่งเราคิดว่าสีนี้น่าจะเข้าได้กับหลายสีผิวเลยล่ะ เนื้อมีชิมเมอร์ผสมด้วยหากมองใกล้ ๆ แต่พอทาไปบนปากก็ไม่เห็นแล้ว กลายเป็นความระยิบระยับที่ทำให้ปากดูเต็มอิ่มขึ้นแทน สูตรมีกลิ่นน้ำหอมเบา ๆ ของดอกไม้ด้วย แต่ว่าเบามากจนคุณอาจจะไม่ได้กลิ่นตอนทาเลยก็ได้ นอกจากนี้คุณก็อาจจะรู้สึกปากชาเบา ๆ ตอนทาใหม่ ๆ (เบามาก) ซึ่งก็อาจจะเนื่องจากมีส่วนผสมที่ช่วยให้ปากดูอิ่มอวบขึ้น

นอกจากทำให้ปากดูอิ่มขึ้นแล้ว กลอสตัวใหม่นี้ก็ยังมีส่วนผสมของ “3 lipcare oils” เพื่อรักษาสุขภาพปาก และวิตามิน E รวมกับสารอีกตัวหนึ่ง (“active ingredient“) ที่ช่วยให้ปากดูชุ่มชื้นและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน (น่าสงสัยนะว่าเจ้า “active ingredient” นี้มันคืออะไร!) ส่วนผสมทั้งหมดนี้มันช่างดีกับปากเราช่วงหน้าหนาวจริง ๆ ค่ะ คือทาแล้วปากรู้สึกนุ่มมีน้ำมีนวลขึ้นทันที ความรู้สึกชุ่มชื้นนี้ติดทนยาวนานเลยถึงแม้ว่าสีกลอสจะจางหายไปแล้วก็ตาม และด้วยเหตุผลนี้เราให้เรื่องของลิปบาล์มเต็ม 10 ไปเลยค่ะสำหรับตัวนี้

เนื้อของตัวนี้จะหนาหน่อย และลื่นเหมือนกับเนยหลอมเลยค่ะ ทาไปบนปากได้เนียนนุ่มมาก ๆ แต่มันก็ไม่ได้น้ำหนักเบาไร้ความรู้สึกอะไรนะ ยังคงรู้สึกอยู่ว่ามีอะไรอยู่บนปาก โดยเฉพาะตอนช่วงแรก ๆ หลังทา แต่เราก็ไม่มายนด์ค่ะเพราะรู้สึกว่าเนื้อมันเกาะและโอบอุ้มปากไว้ได้ดีและทำให้สีติดทนดีขึ้น ความติดทนของตัวนี้บนปากเราอยู่ที่ประมาณ 3-4 ชั่วโมงจากนั้นก็เริ่มจาง สี Miss นี้ไม่ทิ้งคราบ stain ไว้บนปากแต่อย่างใดค่ะ

ส่วนเรื่องสีและระดับการปกปิดนั้น ทาชั้นเดียวสีจะ sheer บางค่ะ แต่ว่าสามารถทาทับ ๆ หลายรอบเพื่อเพิ่ม coverage ให้เป็นเกือบทึบได้ เราประทับใจตอนที่พบว่าสีมัน build ได้เยอะมากจนปิดรอยคล้ำปากเราได้เกือบหมดแน่ะ (ดูรูปล่างสุด) เนื้อครีมของมันก็ไม่ตกตามริ้วรอย หรือไปรวมกันเป็นจุด ๆ ตามมุมปาก หรือฟอร์มเป็นเส้นขาว ๆ ระหว่างปากด้วย ดังนั้นเรื่องการเป็นลิปสติกเราก็ให้อีกเต็ม 10 เช่นกันค่ะ

ความเงาที่ได้จากตัวนี้นี่พูดถึงแล้วก็ดีเทียบเท่ากับลิปกลอสจริง ๆ เลย หรืออาจจะดีกว่าด้วยซ้ำ! ทาแล้วปากไม่รู้สึกเหนียวหรือมันแต่อย่างใด จะแค่หนึบเบา ๆ เท่านั้นเพื่อเพิ่มความติดทน ความเงานี่ถือว่า high-shine จริง ๆ ค่ะ ทาแล้วปากดูอิ่มขึ้น เนียนขึ้น และดูฉ่ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัด :)

ในรูปข้างล่างนี้เราทากลอสตัวนี้อย่างเดียวบนปากเปล่า ไม่มีอะไรรองไว้ก่อน เห็นได้ชัดเลยว่ามันปิดสีปากเราเกือบหมดแน่ะ นอกจากนี้ก็ยังทำให้ปากเราดูอิ่มขึ้นด้วย ส่วนความเงาก็ชัดเจน เราทาตัวนี้คู่ไปกับ black smokey eye look ง่าย ๆ ค่ะ ก็ดูสวยเข้ากันดี แต่สี Miss นี้ทาคู่ไปกับ everyday fresh-faced makeup look ก็สวยเช่นกัน

เราแนะนำและเชียร์ Dior Miss Rouge Dior Brilliant Lipshine & Care Couture Colour ตัวใหม่นี้เต็มที่ค่ะ มีตั้ง 12 สีให้เลือกเลย สีเข้ม ๆ ก็มีสำหรับคนที่เปรี้ยว ๆ ชอบสีจัด ๆ เรายังไม่เห็นตัวนี้วางขายที่ไหนนอกจากบนเว็บ Dior (free shipping) กับ Neiman Marcus (link below; not affiliated) ค่ะ หากมีขายที่อื่นเมื่อไหร่เราจะรีบมาอัพเดตลิ้งค์ให้ทันที

แล้วคุณรู้สึกอย่างไรกับลิปสติกที่เป็นการผสมกันระหว่าง lip gloss+lipstick+lip balm? มีตัวไหนเป็นตัวโปรดของคุณบ้าง ณ ตอนนี้?

Purchase