makeup แต่ละอย่างของ E.l.f. เนี่ยะถือว่าเป็น hit or miss นะคะ บางอันดีก็ดีซะ บางอันแย่ก็แย่ซะ เราก็ไม่ได้มีของแบรนด์นี้เยอะมากอะไรหรอก แต่ที่แน่ ๆ รู้ว่าเจ้าแปรงรุ่นที่ราคา $1 เนี่ยะคุณภาพแย่มาก ขนแปรงหลุดร่วงเป็นว่าเล่นแถมใช้บนตาแล้วก็รู้สึก scratchy อันนี้ไม่แนะนำเลยค่ะ แต่ว่าถ้าอยากจะลองตัวแปรงของเขาจริง ๆ ให้เพิ่มอีก $2 แล้วซื้อรุ่น Studio line ไปเลย อันนั้นคุณภาพดีกว่ามาก ส่วนสิ่งที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้ ในความคิดเห็นเราถือว่ามันเป็น hit นะ แต่ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นตัวที่ดีเลิศใช้ง่ายตั้งแต่ต้นเลยหรอก ต้องใช้การฝึกฝนเล็กน้อยประกอบกับใช้แปรงให้ถูก ถึงจะทำให้ตัวนี้มัน work ค่ะ :)

เราซื้อต้ว Contouring Blush & Bronzer duo สี St Lucia มาจาก Target แถวบ้าน รุ่นนี้มีทั้งหมด 3 สีค่ะ แต่เราเลือกสี St Lucia มาเพราะดูมันจะเข้ากับสีผิวเราได้ดีที่สุด อันนี้ก็ไม่ต้องอ้อมค้อมกันนะคะ รู้ ๆ กันอยู่ว่าตัวนี้ทำออกมาเหมือนกับ Orgasm and Laguna blush and bronzer duo ของ NARS เปี๊ยบ ไม่ว่าจะเป็นตัว packaging สีดำ ตัวสินค้าข้างในที่เป็น 2 pans รวมไปถึงสีของทั้งสองซึ่งคล้ายกันมาก ๆ กับของ NARS ดูเผิน ๆ อาจจะนึกว่าเป็นตัวเดียวกันด้วยซ้ำ แต่ว่าอันนี้พอได้ดูใกล้ ๆ และได้ลองใช้จริง ๆ แล้ว ค่อนข้างจะคนละเรื่องกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ texture, performance รวมไปถึงเนื้อสีจริง ๆ ซึ่งต่างกันมาก เอาเข้าจริงแล้วถือว่าเป็นสินค้าคนละอย่างกันยังได้เลย เดี๋ยวจะได้เห็นใน swatch ด้านล่างของรีวิวนะคะ ตอนนี้เราจะ focus ไปที่ตัว E.l.f. อย่างเดียวก่อน
อย่างที่บอก ตัว E.l.f. Contouring Blush & Bronzer duo ตัวนี้มาในตลับพลาสติกแบบ matte สีดำ ถือดูมันก็ดูมีน้ำหนักและคุณภาพโอเคใช้ได้นะสำหรับราคามัน ไม่ได้ก๊องแก๊งอะไร ตัวตลับบางกะทัดรัด ฝาก็ปิดแน่นดังคลิ๊ก ไม่มีหลวมหรือปิดไม่แน่นอะไร แถมข้างในมีกระจกขนาดเต็มมาให้อีก คือแบบว่า สำหรับราคาแค่ $3 เนี่ยะ เราว่าตัว packaging ได้ขนาดนี้ก็โอเคเลยนะ ส่วนข้างในก็มี cheek products มาให้ 2 ตัวคือ blush กับ bronzer


Blush

สี blush จะออกไปทาง warm peachy pink ค่ะ และก็มี shimmer สีทองอยู่ทั่วไปหมด ดูใน pan แล้วมันจะดู shimmery มากนะ แต่พอทาลงไปบนแก้มแล้วแทบจะไม่เห็น shimmer เลย ตัวเนื้ออันนี้ก็ไม่ได้ถึงกับ buttery soft อะไรหรอกค่ะ มันจะออกแห้ง ๆ powdery นิดหน่อยด้วยซ้ำ แต่ว่าก็ไม่ได้แย่ซะจนใช้ไม่ได้
ส่วนเรื่อง pigmentation อันนี้อยู่ในระดับอ่อนมากค่ะ บนผิวสี medium ของเราเวลาใช้เราต้องลงซัก 2-3 ชั้นได้เลยกว่าจะเห็นสี แต่ว่าสีเขา build ได้อยู่และก็ blend ง่าย อันนี้เราก็เลยไม่บ่นค่ะ บางทีเราก็ชอบนะ blush ที่สีไม่ต้องเข้มมากอะไรมากเนี่ยะ เพราะจะได้ไม่ต้องระวังอะไรมากเวลาทา ตัว blush ของ E.l.f. อันนี้ถือว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะ overdo คือใช้เยอะเกิน อย่างมากก็แค่จะเห็นแก้มออกเป็น shimmery sheen เท่านั้นเองถ้าลงหนัก ๆ ตัวนี้เราจะใช้แปรงที่ขนค่อนข้าง dense นิดนึงลงอย่างเช่น MAC 168 หรือ Sigma F40 ค่ะ
ตัวนี้พอลงซัก 2-3 ชั้นได้มันก็ทำให้แก้มเราดู flushed เป็นธรรมชาติดีอยู่นะ ดูมีสุขภาพดีน่ะ ไม่ได้แดงเว่อร์หรือทำให้หน้าดูมันหรือ greasy อะไร มันเหมือนจะคล้าย ๆ กับว่าทำให้หน้าดู glow นิด ๆ ซะด้วยซ้ำถ้าแสงตกลงมาได้มุมพอดี
ส่วนสิ่งที่เราพบว่าขัดแย้งกับรีวิวส่วนมากก็คือ บนผิวเรา blush ของ E.l.f. ตัวนี้ติดทนนานทั้งวันเลยค่ะ ไม่มีซีดหรือหายไปอย่างคนอื่นที่เขารีวิวกัน เราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะผิวเรา สภาพอากาศ หรืออะไรก็แล้วแต่ เราไม่เห็นว่ามันจะ fade อะไรเลยนะ
Bronzer

ส่วนตัว bronzer อันนี้จะใช้ยากกว่านิดหน่อยและก็ต้องระวังเป็นพิเศษตอนใช้ สีมันจะออกไปทาง dark golden brown ค่ะแล้วก็มี shimmer สีทองเหมือนตัว blush ซึ่งพอทาลงไปบนแก้มแล้วก็แทบจะมองไม่เห็นตัว shimmer เลย ตัวเนื้อ bronzer อันนี้ขอบอกว่า soft มาก ๆ แล้วก็ crumble ง่ายมาก ๆ ด้วย ดังนั้นเวลาใช้ต้องระวังสุด ๆ มือเบา ๆ
ทีนี้เรื่องที่ tricky ของตัวนี้มันอยู่ตรงเรื่อง pigmentation ค่ะ bronzer ตัวนี้ไม่รู้จะเข้มไปไหน เข้มแบบ เออ แกเข้มเกินไปมั้ยยะ! ไม่อยากจะเชื่อว่าจะมี bronzer อะไรที่เข้มซะขนาดนี้ ทีนี้พอมารวมกับ powdery soft texture แล้วด้วยเนี่ยะ ทีนี้ก็เข้าใจแล้วล่ะค่ะว่าทำไมหลาย ๆ คนถึงบ่นว่ามันทำให้หน้าดูเหมือนเปื้อน ๆ โคลน เพราะตอนทาไม่ได้ระวังกว่าจะรู้ตัวก็ลงเยอะเกินไปแล้ว หลักสำคัญในการใช้ตัวนี้เราว่าควรจะเริ่มจากการใช้แปรงที่ขน sparse นิดนึงค่ะ เช่น Smashbox fan brush #22 หรือ MAC stippling duo fibre brush 187 และก็ต้องมือเบา ๆ ด้วย นอกจากนี้ก็ต้องเคาะแปรงก่อน บางทีเคาะแล้วก็ต้องแตะ ๆ ลงบนกระดาษทิชชูนิด ๆ ด้วยซ้ำเพื่อให้มั่นใจว่าไม่แตะเอามาเยอะเกิน ฟังดูเหมือนหลาย step นะ แต่ว่าพอทำจริงๆ แล้วมันก็ทำง่ายอ้ะค่ะ ตัวนี้เขาต้องการแค่นิดเดียวจริง ๆ บนหน้า
ปัญหาจริง ๆ ของ bronzer ตัวนี้นะเราคิดว่ามันอยู่ที่ความ patchiness ของมันมากกว่า คือมันทาแล้วจะแห้ง ๆ แล้วสีก็เกลี่ยไม่ค่อยจะสม่ำเสมอกัน เวลาทาต้องระวังมาก ๆ และก็ใช้ความอดทนเล็กน้อยในการ blend ไม่งั้นสีอาจจะทำให้ดู fake ได้ โดยเฉพาะคนที่ผิวสีขาว ๆ หน่อยเพราะสีมันจะเห็นชัดมากขึ้นไปอีก key สำคัญสำหรับการใช้ตัวนี้ต้องใช้แต่น้อย ๆ มือเบา ๆ และก็ใช้แปรงให้ถูกค่ะ
ส่วนเรื่องความติดทน อันนี้ก็เหมือนตัว blush ที่มาด้วยกันค่ะ ติดทนทั้งวันบนแก้มเรา เราไม่มีปัญหากับเรื่องสี fade หรืออะไรกับตัวนี้ค่ะ
Swatches


Comparison to NARS blushes
ตัว shimmer ของ E.l.f. จะเหมือนกันมากกับของ NARS Orgasm แต่ว่าตัวสีจริง ๆ จะไปเหมือนกับ Deep Throat มากกว่า นอกจากนี้เราไม่อยากจะบอกเลยว่า pigmentation ของ E.l.f ดีกว่า Orgasm อีกอ้ะ (*gasp*!)

Comparison to NARS bronzers
E.l.f. bronzer อันนี้สีจะ matte กว่า Laguna และ Casino อย่างเห็นได้ชัดค่ะ และสีก็จะออกน้ำตาลมากกว่าและทองน้อยกว่า นอกจากนี้ก็ยัง patchy กว่าใครเขาเพื่อน

พูดถึงแล้วมันก็แค่ $3 อ้ะนะคะ จะไปหวังให้มันทำงานดีเกินคาดก็คงไม่ถูก แค่ตัว packaging กับกระจกอย่างเดียวเราว่าก็ราคาเข้าไปครึ่งแล้วมั้ง ดังนั้นตัวนี้ถือว่าราคาถูกจริง ๆ ค่ะถ้าเทียบกับคุณภาพแล้ว เราบอกตรง ๆ ว่าตอนเราซื้อเราก็ซื้อไปขำ ๆ นะ ไม่ได้คิดอะไร แค่อยากจะลองดูเท่านั้นเองว่าทำไมใคร ๆ เขาถึงพูดถึงตัวนี้กันจัง พอใช้แล้วถามว่าผิดหวังมั้ย ตอบเลยก็ไม่นะคะ มันก็แค่ต้องมีเทคนิคในการใช้เพิ่มขึ้นนิดหน่อยเอง :)
Purchase
US$3 at Drugstore.com ○ Walgreens
N/A