ตอนที่เราซื้อ Fresh Sugar Nude Tinted Lip Treatment Sunscreen SPF 15 ตัวนี้มันเป็น impulse purchase ค่ะ คือแบบเห็นแล้วอยากได้และซื้อเลย ไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะซื้อ เราหยิบมาใส่ตะกร้าตอนที่เข้าแถวรอจ่ายเงินที่ร้าน Sephora ตอนวันที่ไปถล่มซื้อเครื่องสำอางมา (คุณคิดเหมือนเรามั้ยว่าบริเวณที่จัดให้เข้าแถวคิดเงินเนี่ยะ เป็นโซนที่อันตรายมากที่สุดในร้าน เพราะมันจะมีพวกเครื่องสำอางขนาดจิ๋วต่าง ๆ มากมายมาวางไว้ล่อตาล่อใจ เราเข้าแถว 9 ใน 10 ครั้งเนี่ยะจะได้ซื้ออย่างน้อยหนึ่งชิ้นกลับบ้านตลอด) เราไม่ได้มีเวลาไปลอง swatch สี tester หรอกว่าสีมันออกประมาณไหน แต่ก็คิดในใจว่ามันน่าจะออกประมาณสีน้ำตาลอมพีชนู้ด ๆ บาง ๆ ใส ๆ ที่ทาแล้วก็ไม่น่าจะเห็นบนปากสีเข้มอย่างเรา แต่ว่าเราสะสม Fresh Sugar Tinted Lip Treatments ค่ะ เราก็เลยอยากจะซื้อมันอยู่ดีถึงมันจะทาแล้วมองไม่เห็นก็ตาม ^_^ ตามอ่านกันต่อเลยค่ะว่าสี Nude นี้ทำงานดีไหมอย่างไร และไปดูซิว่าเราเดาสีถูกรึเปล่า!


Nude มาในแท่งรูปร่างหน้าตาเช่นเดียวกันกับ Fresh Sugar Tinted Lip Treatment สีอื่น ๆ คือเป็นแท่งเนื้ออลูมินั่มแม็ทและมีฝาเป็นแบบหมุนเปิดปิด ซึ่งทำให้มันดูดีดูมีราคาและเก็บปลอดภัยกว่าเพราะฝาจะไม่เผยอหลุดออกเองเหมือนลิปบาล์มตัวอื่นทั่วไปที่ปิดลงด้วยแค่การคลิกเข้ากับฐาน ส่วนกลิ่นก็จะเป็นกลิ่น signature แบบเดิมคือกลิ่นหอมหวานวานิลลาปนมะนาว กลิ่นเบาและสดชื่นมาก เราชอบมาก แต่ว่ากลิ่นหายไปเร็วมากเหมือนกันหลังทา

Nude ดูในแท่งแล้วจะออกประมาณนู้ดพีชอมเบจเข้ม ๆ หน่อยและมีชิมเมอร์สีทองผสมเยอะมาก แต่เมื่อทาบนปากเราแล้วสีพีชมันอ่อนมากจนมองไม่เห็นค่ะ แต่ที่เห็นชัดคือชิมเมอร์และความรู้สึกแบบครีม ๆ บนปากรวมถึงความโกลว์ผสมฟรอสท์เบา ๆ หลังทา เราชอบ finish ของมันนะ เราว่ามันทำให้ปากเราดูมีสุขภาพดีดูอ่อนเยาว์ดีค่ะ

สีพีชนั้นสามารถทาให้เห็นชัดขึ้นอีกหน่อยได้เมื่อทาทับหลายชั้น แต่ว่าก็จะไม่กลายเป็นสีทึบค่ะ เพราะว่าเนื้อมันลื่นมาก ทาให้ทึบเป็นไปได้ยาก แต่ว่าที่ทาทับแล้วเห็นชัดขึ้น ๆ ก็คือชิมเมอร์ สามารถทาทับจนได้เนื้อแบบเมทาลิคกึ่งฟรอสท์เลยก็ได้ แต่ปกติเราก็จะทาแค่ 2-3 ชั้นพอเพราะเราไม่ชอบให้ปากเราดูออกเป็นฟรอสท์เท่าไหร่ พอทา 2-3 ชั้นแล้วสีปากเราก็จะอ่อนลงกลายเป็นสีนู้ดเบา ๆ แต่ว่าก็ยังพอมองเห็นสีปากข้างใต้อยู่บ้าง ทาสีนี้แล้วจะได้ปากสีนู้ดบวกกับความโกลว์สีทอง ทำให้ปากดูมีมิติมากกว่าการทาลิปสติกสีนู้ดแบน ๆ ที่ส่วนมากทาแล้วทำให้เราดูป่วย เราพบว่าสี Nude นี้สามารถใช้ทาแทนลิปสติกสีนู้ดจริง ๆ ได้สวยเหมือนกันเมื่อทาคู่ไปกับตาแบบ smokey eye หรือจะทาเดี่ยว ๆ เวลาที่ไม่แต่งหน้ามากนักก็สวยเหมือนกันค่ะ

ส่วนเรื่องเนื้อ สี Nude นี้ให้ความชุ่มชื้นแก่ปากดี บำรุงปากดี แต่ว่าจะไม่ดีเท่ากับ Sugar Tinted Lip Treatments สีอื่นเช่นสี Tulip หรือ Rosé คือเนื้อมันจะสัมผัสแห้งกว่า และทาแล้วก็รู้สึกแห้งกว่า ซึ่งก็อาจจะเป็นเพราะว่ามันมีเม็ดชิมเมอร์ผสมเยอะมาก แต่ว่าก็ยังทาได้ง่ายและเนียนอยู่นะคะ แค่ระวังอย่าทาหนาเกินเพราะมันจะไปตกหล่นตามเส้นปากและไปเกาะติดรอยแห้งได้ สำหรับสีนี้แนะนำให้ขัดปากให้เรียบเนียนก่อนทาจะได้ผลดีที่สุดค่ะ
Natural and active ingredients
- Sugar เพื่อป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้น
- A blend of nourishing oils รวมถึง meadowfoam และ black currant seed oils เพื่อให้ความชุ่มชื้น
- Grapeseed oil เพื่อบำรุงให้ริมฝีปากนุ่ม เนียน และป้องกันผิวปากจากอนุมูลอิสระ
- SPF 15 protection กันแดดด้วยส่วนผสมของ Octinoxate (7.49%) และ Oxybenzone (2%)

ทา Nude แล้วปากจะสัมผัสได้เลยว่านุ่มเนียนขึ้นโดยปราศจากความรู้สึกเหนียวหรือมันเยิ้ม ความเงาช่วยทำให้ปากดูเต็มขึ้น สุขภาพดีขึ้นอย่างที่เห็นในภาพด้านล่าง ระยะเวลาการติดทนอยู่ที่ประมาณ 1-2 ชั่วโมง สั้นนะ แต่ว่าก็เหมาะแล้วกับสีที่อ่อนและเนื้อบาล์มประมาณนี้ คือทาแล้วต้องมีทาซ้ำระหว่างวันหากอยากให้ปากคงความเงาและชุ่มชื้นไว้ แต่ว่าอย่างน้อยมันก็เป็นสีที่เติมง่ายไม่ต้องใช้กระจกมองก็ทาได้ค่ะ

พูดถึงแล้วเราก็ประหลาดใจตัวเองนะที่กลับมาชอบสี Nude นี้เอาซะมาก คือสีมันบางพอที่จะทาเมื่อไหร่กับเครื่องสำอางแบบไหนก็ได้ แถมยังบำรุงปากทำให้ปากมีสุขภาพดี ส่วนชิมเมอร์นั้นก็มีพอที่เวลาทาปากแล้วทำให้ปากดูโกลว์ฉ่ำสวยงาม หากใครเป็นคนชอบทาปากสีเข้ม ๆ และมีความเงาเยอะ ๆ หน่อย อาจจะต้องลองหาสีอื่นมาใช้ดูค่ะ เช่นสี Tulip, Ruby หรือ Berry แต่หากใครอยากได้สีอ่อน เบา และเงาโกลว์ เราแนะนำให้ไปลองเล่นสี Nude นี้ดูค่ะ :)
Purchase
US$22.50 at Sephora ○ Nordstrom ○ Neiman Marcus
฿980 at Sephora Thailand