วันนี้มี liquid lipstick อีกหนึ่งตัวมารีวิวให้ดูกันค่ะ อันนี้คือ Lip Maestro Matte Lacquer ของ Armani ซึ่งเป็น Lip Maestro ตัวแรกที่เราซื้อเลย และดูสิ ซื้อสีแรกก็เลือกสีซะ bright สุด ๆ เลยเชียว :)

เราซื้อเบอร์ 505 มา ซึ่งเป็นเลขเบอร์ที่ตรงกับที่ระบุไว้ที่ก้น tube แต่ถ้าหากใครจะซื้อจาก Nordstrom ตัวนี้จะเรียกว่าสี Pink Poodle แต่ว่าถ้าจะซื้อจากเว็บของ Armani โดยตรง ตัวนี้จะเป็นเบอร์ 502 และชื่อ Eccentrico ค่ะ งงมั้ย ทำไมตัวเดียวกันแต่ชื่อและเบอร์ต่างกัน?! แต่เอาเถอะ เข้าเรื่องต่อ สีนี้เป็นหนึ่งใน 3 สีที่ปล่อยออกมาสำหรับ Holiday 2013 collection อีก 2 สีก็สวยดี แต่เราถูกชะตากับสี 505 นี้มากกว่า มันเป็นชมพูที่แบบสว่างแบบนีออนเลย แต่ว่าสามารถทาให้ออกเป็นชมพูบาง ๆ ได้นะคะเพื่อให้เข้ากับ look กลางวันไปทำงาน หรือใครจะจัดเต็มเลยก็ได้เพื่อจะได้ปากสีเข้ม ชมพูจี๊ดสะใจ (ซึ่งเราคิดว่าน่าสนุกกว่า!)

Lip Maestro มาใน tube คล้าย ๆ กับตัว lip gloss ของ Armani ทั่วไปค่ะ ยกเว้นว่าตัวนี้มีฝาเป็นสีแดงแทนที่จะเป็นสีดำ ตัว tube เป็นพลาสติกใสที่มองเห็นสีข้างในได้ แล้วก็มี logo ของ Armani เป็นสีเงินติดอยู่ที่ฝาด้วย ก็เก๋ดีนะ ถ้าไม่มีมันคงจะ plain ไปนิด ส่วนตัว applicator ก็เหมือน ๆ กับที่ทา lip gloss ทั่วไปค่ะ เป็น doe-foot applicator แต่ปลายจะ slanted นิดนึง และด้ามก็ยาวมากแต่ว่า flexible อยู่พอสมควร ใช้ง่ายค่ะ แล้วก็ลงสีได้ดีในระดับนึงเลย



ตัวนี้เป็น full coverage liquid lipstick สีเข้มสะใจ ลงแค่ชั้นเดียวก็ได้เม็ดสีแน่นแล้ว ไม่น่าจะต้องลงเพิ่มอีก texture ค่อนข้างเบาเลยทีเดียวแล้วก็ creamy มากทำให้ทาง่าย ตอนทาครั้งแรกจะรู้สึกว่า formula มันออกจะเปียก ๆ หน่อย (ซึ่งให้ระวังค่ะ ถ้าเผลอไปโดนอันนี้ smear เปรอะไปทั่วแน่นอน) แต่พอมันแห้งแล้วก็จะกลายเป็น matte แต่ matte ของ Lip Maestro ตัวนี้มันไม่เหมือนกับ matte แบบลิปสติกตัวอื่นทั่ว ๆ ไปนะคะที่มันจะ matte แบบด้าน ๆ ไปเลย ตัว Lip Maestro ตัวนี้ถึงมันจะ matte ก็จริงแต่ว่ามันเป็น matte แบบที่มี subtle diffused glow อยู่ด้วย ซึ่งเดี๋ยวจะได้เห็นใน lip swatch ด้านล่างค่ะ แล้วก็เหมือนมีความเงา ๆ อยู่ด้วยเล็กน้อย ซึ่งทำให้ปากดูอวบอิ่มขึ้น! ตัว finish จะออกไปทาง satiny/velvety มากกว่า matte นะในความรู้สึกเรา ถ้าใครอยากได้ matte สนิทจริง ๆ ก็ซับด้วยกระดาษทิชชู่ก็ได้ค่ะ

Lip Maestro ตัวนี้ stain ปากด้วยนะ! และก็ไม่ต้องลงหลายชั้นเพื่อให้มัน stain ด้วย ชั้นเดียวก็ stain แล้ว คือพอความเงามันหายไปมันก็ทิ้ง stain ไว้แทนค่ะ ซึ่งตัว stain นี้จะอยู่ติดทนไปทั้งวันเลย ดังนั้นเรื่อง wear time อันนี้ต้องปรบมือให้เลย แต่ว่าข้อเสียอย่างนึงคือ บนปากเราพอมันแห้งแล้วมันจะรู้สึกแห้ง ๆ ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ แต่ก็แก้ไขง่าย ๆ โดยทาลิปบาล์มทับ อันนี้ไม่ complain ค่ะ เพราะว่าสีสวยขนาดนี้ ยอมทำเพิ่มอีก 1 step :)

ตัว doe-foot applicator ที่มาด้วยนี่มันก็ใช้งานดีพอสมควรนะคะ แต่ว่าส่วนตัวเราจะชอบใช้แปรง lip brush มากว่าเพราะว่าสีมันเข้มน่ะค่ะ ใช้แปรงแล้วรู้สึกว่า control ได้ดีกว่า ทำให้ได้รูปปากที่คมชัดง่ายกว่า อีกอย่างต้องมือนิ่ง ๆ เที่ยง ๆ ด้วยนะคะ จะได้ไม่เผลอทาออกไปนอกขอบปาก ถ้าใครอยากได้สีแบบอ่อน ๆ เป็น stain จาง ๆ ก็ใช้นิ้วมือเกลี่ยเลยค่ะ และขอแนะนำให้ลงตัวนี้บนปากที่ไม่แห้งนะคะ ไม่งั้นลอกเป็นขลุยแน่ ก่อนใช้ต้องขัดปากและก็ condition ให้พร้อมก่อนทุกครั้ง! :)


ถ้าใครกำลังมองหาสีแบบ super bright neon pink อยู่ ขอแนะนำตัวนี้เลยค่ะ Lip Maestro 505 อันนี้ใช่เลยแน่นอน สีนี้เป็น limited edition ด้วยนะ ถ้าอยากได้ก็รีบซื้อเลยก่อนที่มันจะหมด เราค่อนข้างชอบ formula ของตัวนี้นะพูดถึงแล้วตอนนี้ก็เลยมานั่งลังเลว่าจะซื้อสีอื่นอีกดีมั้ยน้อ…. สงสัยคงจะได้ซื้อเพิ่มตามเคย…
ถึงตอนนี้มีใครสนใจอยากลอง Lip Maestro ตัวนี้เหมือนกันมั้ยเอ่ย มาเล่ามาคุยกันได้นะคะ :)
Purchase
US$32 at Nordstrom ○ Giorgio Armani
N/A