เย้! อีกหนึ่งนู้ดลิปสติก! จริง ๆ นะ ผู้หญิงเราเนี่ยะ จะต้องมีลิปสติกสีนู้ดและ eyeshadow สีนู้ดกันซักกี่อันถึงจะพอ :) รีวิววันนี้เราจะมาพูดถึงลิปสติกสีนู้ด collection ใหม่จาก Hourglass ค่ะ (เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เราชอบมาก) ชื่อ collection คือ Femme Nude Lip Stylo
มีใครในนี้ชอบสไตล์ packaging ของ Hourglass มากแบบเราบ้าง? ก็ดูสิ มันแบบว่า ไม่มีอะไรจะหรูหรากว่านี้อีกแล้วอ้ะ โทนสีง่าย ๆ ออกน้ำตาล metallic คู่กับสีทอง หรูสุด ๆ lip stylo ตัวนี้มาในขนาด jumbo เลย หนักเล็กน้อย เวลาถือในมือแล้วรู้สึกเหมือนถืออะไรที่มัน substantial อยู่ เชื่อสิว่าตอนหยิบเอาตัวนี้ขึ้นมาใช้ สาว ๆ รอบข้างต้องแบบว่า “เออ นั่นเธอคนนั้นถืออะไรอยู่นะ มันดูหรูหรามีราคามาก! ฉันต้องไปซื้อบ้างซะแล้ว!” ประมาณนั้น :)


ตัวนี้มาในรูปแบบหมุนค่ะ ไม่ต้องเหลา แค่หมุนขึ้น ทา หมุนกลับลง แล้วก็ปิดฝา จบ ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่แนะนำเวลาทาให้ใช้ด้านข้างของดินสอทานะคะ เพื่อที่จะได้เก็บปลายแหลมไว้ทาขอบปาก ตัวเนื้อดินสอมีวิตามิน E ผสมอยู่ด้วยเพื่อปกป้องและให้ความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปาก ไม่มีส่วนผสมของ parabens, sulfates และ phthalates มีเฉพาะแต่สิ่งดี ๆ สำหรับลูกค้าเท่านั้นสำหรับแบรนด์ Hourglass แล้วเขาก็ไม่ทดลองกับสัตว์ด้วยนะ
มีสีทำออกมาสำหรับ collection นี้ทั้งหมด 6 สี เพื่อให้เข้ากับทุก “อารมณ์” ของคุณ รวมถึงทุก skin tone และ makeup look ของแต่ละวันด้วย:
- Nude No. 1 – pale pink nude
- Nude No. 2 – honey beige nude with warm tint
- Nude No. 3 – medium rose nude with hint of pink
- Nude No. 4 – pink beige nude with hint of deep rose
- Nude No. 5 – golden peach nude with luminosity
- Nude No. 6 – deep mauve nude
เราลองไป swatch ทั้ง 6 สีบนหลังมือในร้าน Sephora มา (ร้าน Sephora นี่ขอบ่นหน่อย เป็นอะไรที่แบบว่าใคร ๆ ก็พูดว่าแสงในร้านแย่มาก คือไฟมันจะออกสีเหลือง ๆ หน่อย ๆ น่ะค่ะ คือดูโดยรวมมันก็ทำให้ร้านดูสวยดี แต่ว่าพอต้องมาเทียบสีกันเนี่ยะ อย่างเช่นตอนเทียบสีนู้ดของทั้ง 6 อันนี้เนี่ยะ มันเทียบกันยากมาก เพราะแต่ละอันแทบจะไม่ต่างกันเลย) ทุกสีมันก็ดูเป็นสีที่ wearable นะ แต่เราเลือกซื้อเบอร์ 3 มา เพราะมันจะออกชมพูผสม peach หน่อย ๆ ซึ่งเราคิดว่าน่าจะเข้ากับสีผิวเราได้ดีกว่าสีอื่น ๆ และไม่ทำให้หน้าเราดูซีด เบอร์ 1 กับ 2 อันนี้อ่อนเกินไปแน่นอน ส่วนเบอร์ 4, 5 และ 6 อันนี้ก็ dark เกินกว่าที่เราชอบ



ตัวนี้จะเป็น full coverage เลย ความรู้สึกเบาแล้วก็ creamy ส่วนเรื่องความ opaque อันนี้แบบว่าสุด ๆ อ้ะ จริง ๆ นะ ทาแค่ชั้นเดียวก็ได้สีที่ opaque แล้ว ไม่ต้องลงกันหลายรอบ ส่วน finish ในตอนแรกที่ทาจะออกไปทาง matte กับ satin ผสมกัน หลังจากนั้นสักพักจะกลายเป็น matte อันนี้ควรจะทาบนปากที่ต้อง exfoliate และ moisturize มาก่อนเพื่อให้ทาง่ายขึ้น เราไม่คิดว่ามันทำให้ปากรู้สึกแห้งหรืออะไรนะ แต่ถ้าใครรู้สึกว่ามันแห้งเกินไปก็ลงลิปบาล์มก่อนก็ได้ หรือจะ top ด้วย lip gloss ก็ได้เพื่อให้ปากชุ่มชื้นขึ้น และเนื่องจากว่าสีมัน opaque และเนื้อมัน creamy มาก เวลาทาอาจจะมีตกตามร่องตามรอยปากบ้าง เราก็แก้ด้วยการใช้นิ้วมือกดสีลงไปเบา ๆ แล้วก็เกลี่ย ๆ ไปมา เพื่อให้สีมันบางลงหน่อยแล้วก็ให้มันเกลี่ยไปง่ายขึ้นและดูเท่า ๆ กัน จากนั้นเราจะตามด้วย lip gloss เพื่อให้ดู shiny นิดนึง แต่ถ้าใครอยากได้แนว matte สุด ๆ อันนี้ก็ไม่ต้องลง gloss ทับ ก็ดูสวยไปอีกแบบ โดยเฉพาะถ้าจัดคู่กับ dramatic smokey eyes
อย่างนึงที่เราสังเกตคือ lip stylo ตัวนี้กลิ่นมันแปลก ๆ อ้ะ มันกลิ่นแบบสังเคราะห์ ๆ ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ว่าแป๊บเดียวมันก็จางหายไป ส่วนเรื่องความติดทน อันนี้ต้องบอกเลยถ้าทาเดี่ยว ๆ ไม่ทนค่ะ ซัก 2-3 ชม. ก็ไปแล้ว ต้องลงเพิ่ม แต่ถ้าลงทับพวก lip primer โอ้โห ทีนี้ติดกันทั้งวันค่ะ

ถ้าใครกำลังมองหาลิปสติกสี perfect nude อยู่ น่าจะมาลองเล่นตัวนี้ดูนะคะ มีมาให้เลือก 6 สี น่าจะมีซักสีล่ะน่าที่น่าจะถูกใจคุณ ส่วนตัวเราชอบเบอร์ 3 มากอยู่แล้ว แต่รู้ตัวเองดีว่าอีกไม่นานคงจะต้องไปจัดสีอื่น ๆ อีกแน่นอน ก็แหม เราก็ต้องมีหลายนู้ดเผื่อไว้ให้เข้ากับแต่ละ mood ของเราสิ จริงมั้ย ;)