มันน่าตื่นเต้นทุกครั้งนะคะเวลาที่ Hourglass ปล่อยเครื่องสำอางใหม่ ๆ ออกมา แบรนด์นี้เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่เราชื่นชอบและไว้วางใจมาโดยตลอดและเวลามีอะไรใหม่ ๆ ออกมาเราก็กล้าซื้อถึงแม้ว่าจะไม่ได้เห็นของจริงก่อนก็ตาม พาเล็ท Modernist Eyeshadow Palette สี Infinity นี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่เราตัดสินใจซื้อแบบไม่รู้เลยว่าของจริงจะเป็นยังไง เราซื้อพาเล็ทนี้ตั้งแต่ตอนที่มันปล่อยออกมาขายครั้งแรกที่ Barneys ตอนเดือนตุลาคม เป็นไอเท็มชิ้นพิเศษเพื่อฉลองครบรอบความสัมพันธ์ 10 ปีระหว่าง Barneys และ Hourglass ดูแรก ๆ ผิวเผินแล้วคุณก็อาจจะคิดว่านี่มันก็เป็นแค่อีกหนึ่งพาเล็ทสีนิวทรัล ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ใช่ แต่ว่าสิ่งที่ทำให้พาเล็ทนี้แตกต่างจากพาเล็ทนิวทรัลตัวอื่นมันอยู่ที่เนื้อสีและการทำงานของมันค่ะ ดีเยี่ยมมาก เราใช้พาเล็ทนี้หลายครั้งแล้วแต่ว่าก็ยังประทับใจกับคุณภาพของมันทุกครั้งที่ใช้อยู่เลย

ณ ตอนนี้หลายคนคงจะได้เห็นรูปโปรโมของพาเล็ทนี้ทั้ง 7 สีแล้ว แต่ละพาเล็ทจะมีโทนสีแตกต่างกันออกไป ความแตกต่างมีมากพอที่ทำให้เรารู้สึกว่าอยากซื้อทุกสีเลย ซึ่งเราคิดว่าเราได้มีสะสมให้ครบทุกสีแน่นอน (แต่ว่าทีละพาเล็ทนะ คงไม่ซื้อทีเดียวพร้อมกันหมด!) วันนี้เราจะเริ่มที่สี Infinity ก่อนซึ่งเป็นพาเล็ทอายแชโดว์สีนิวทรัลสีอุ่น แต่ละสีสวยงาม ทาได้จริง และทาได้สวยกับสีตาและสีผิวหลาย ๆ แบบ
Modernist Eyeshadow Palette นี้มีลักษณะหน้าตาเหมือนกันเป๊ะกับ Ambient Lighting Palette (รีวิว) ยกเว้นว่าขนาดมันเล็กกว่าแค่นั้นเอง พาเล็ทจะยาว ๆ เรียบหรู สีน้ำตาลเข้มเมทาลิค ข้างในมีกระจกขนาดเต็มมาให้ ฝาพาเล็ทปิดแน่นเสียงดังชัดเจน น้ำหนักเบาแต่ว่าก็แข็งแรงมากพอที่คุณจะสามารถพกพาในกระเป๋าเดินทางได้

สีอายแชโดว์ข้างในทั้ง 5 สีนั้นจะเรียงตัวติด ๆ กันจากสีอ่อนทางซ้ายไปสีเข้มทางขวา ผิวด้านบนของแต่ละสีจะเป็นหยัก ๆ เหมือนคลื่นซึ่งทำให้พาเล็ทนี้มีดีไซน์ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ตอนแรกที่เราเห็นเราแอบกังวลเล็กน้อยว่าแปรงอายแชโดว์เรามันจะหยิบสีขึ้นมาได้ดีรึเปล่าเพราะผิวมันไม่เสมอกัน แต่เราพบว่าไม่มีปัญหาค่ะ ตราบใดที่คุณใช้แปรงที่ขนนุ่ม ๆ และอ่อน ๆ หน่อยในการหยิบ

สีอายแชโดว์ของ Infinity นี้เนื้อละเอียดมาก นุ่มมาก และมีเนื้อ 2 แบบด้วยกัน 4 สีเป็นเนื้อแม็ทและหนึ่งสีตรงกลางเป็นเนื้อชิมเมอร์กึ่ง ๆ เมทาลิค เราดีใจที่มีเนื้อชิมเมอร์มาให้ด้วยเพราะเราแต่งลุคแม็ทล้วน ๆ ไม่สวย แถมสีชิมเมอร์หนึ่งสีที่ให้มานี้ก็คุณภาพดีมากด้วยค่ะ สามารถใช้ทาเดี่ยว ๆ ให้สวยก็ได้ สีแม็ทรอบข้างนั้นก็คุณภาพดีไม่แพ้กัน ทาไปกับผิวได้เนียนมากและก็เหมือนจะเกลี่ยตัวเองไปในตัวเลยระหว่างทา จริง ๆ นะ มันใช้เวลาแค่ไม่กี่วินาทีเองในการเกลี่ยให้ได้ความฟุ้งแบบ smokey effect ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากเลย สี Infinity นี้ช่วยให้คุณแต่งตาแบบนิวทรัลที่สวยได้แบบง่าย ๆ ถึงแม้ว่าคุณจะเป็นมือใหม่เพิ่งเริ่มแต่งตาก็ตาม



แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากว่าสีมันนุ่มมากแถมไม่มีขอบเขตแบ่งแยกชัดเจนระหว่างสีทำให้เนื้อของมันแค่แตะ ๆ เบา ๆ ก็กลายเป็นฝุ่นเป็นผงง่ายมากค่ะ แถมแอบมีหล่นไปหาสีข้าง ๆ เยอะด้วยเหมือนกัน เพื่อควบคุมให้แต่ละสีคงความเป็นสีของมันไว้ เราแนะนำให้แตะแปรงลงไปที่ตรงกลางแถบสีนั้น ๆ แล้วก็แตะเบา ๆ พยายามอย่ากระทบกระเทือนเนื้อมากนัก และก็เคาะแปรงเอาสีที่เกินออกข้างนอกพาเล็ท จะได้ทาแล้วสีไม่ร่วงค่ะ
Shade breakdown


จากซ้าย:
- First shade -warm ivory; matte
เราดีใจที่สีไฮไลท์ที่ให้มาไม่ใช่สีขาวสว่างเว่อร์! สีนี้เป็นสีออกงาช้างกำลังสวยเลย จะใช้เป็นสีเบสทาให้ทั่วตาก็ได้หรือจะใช้เป็นสีไฮไลท์หรือสีสำหรับ blend ก็ได้ สีนี้เกลี่ยได้ง่ายมากค่ะ แต่ว่าเนื้อมันจะไม่ creamy เท่ากับสีแม็ทสีอื่นในพาเล็ท แถมฟุ้งออกเป็นฝุ่น ๆ ง่ายกว่าด้วย แต่ว่ายังไงเนื้อมันก็ยังถือว่านุ่มและสีก็เข้มชัดเจนดีสำหรับสีที่เป็นสีอ่อนแบบนี้ค่ะ - Second shade – rosy beige; matte
สีนี้เป็นสีที่ทาทั่วเปลือกตาได้สวยมาก สีมันจะออกเป็นน้ำตาลกุหลาบเบา ๆ ที่ทาบนตาแล้วจะทำให้ look ดู soft ทันที เนื้อนุ่ม creamy และเนียนมาก จะเกลี่ยไปหาสีอื่นก็ง่าย เราชอบใช้สีนี้เป็นสีลงบริเวณ crease รวมไปถึงเป็นสี transition ด้วย สีนี้ดูบนแขนเราแล้วดูเหมือนจะป่นเป็นผงง่ายแต่ว่าพอทาลงไปบนตาแล้วไม่มีปัญหาเลยค่ะ มันเกลี่ยดีมากและก็ยึดติดกับผิวได้ดี - Third shade – brown copper; shimmer
สีนี้เป็นสี “star” ของพาเล็ทเลย เขาบอกมาว่าตัวนี้มีเนื้อแบบชิมเมอร์แต่จากประสบการณ์เราเราเห็นมันมีความเงากึ่ง ๆ เมทาลิคอยู่ด้วยเหมือนกันนะ เนื้อของสีนี้มันเป็นอะไรที่แบบว่านุ่มสุด ๆ อะไรจะนุ่มจะเนียนได้ขนาดนี้ สีทึบด้วยแต่ว่าก็สามารถทาเบา ๆ ให้ดูเป็นธรรมชาติได้หรือว่าจะอัดลงไปแน่น ๆ ให้ได้ความดราม่าก็ได้เช่นกันค่ะ ตอนใช้แบบแห้งเราก็ว่าสีมันเข้มชัดเจนแล้วนะ แต่พอใช้แบบเปียกเท่านั้น ความเข้มสีมันก็ยิ่งชัดเจนขึ้นไปอีก - Fourth shade – chocolate taupe; matte
เนื้อตัวนี้เหมือนสีที่สองคือเนื้อเนียน นุ่ม และ creamy มาก ๆ อาจจะร่วงเป็นผง ๆ เช่นกันแต่ว่าก็อีกนั่นแหละทาไปบนตาแล้วไม่มีปัญหาค่ะ มันเกลี่ยดีและยึดติดกับผิวได้ดีมาก ทาแล้วไม่มีเม็ดสีร่วงแน่นอน ความเข้มสีก็กำลังดี สามารถใช้ลงเป็นสี crease เบา ๆ แต่ว่าก็ยังมองเห็นขอบเขตชัดเจนได้อยู่ เราชอบลงสีนี้แบบฟุ้ง ๆ บริเวณปลายตาด้านนอกค่ะเพื่อเพิ่มความฟุ้งให้กับ smokey look สีนิวทรัลของตัวนี้เป็นสีกลาง ๆ ที่สามารถใช้คู่กันไปกับสีไหนก็ได้ในพาเล็ท - Fifth shade – rich brown; matte
พูดถึงสีน้ำตาลเข้มเนื้อแม็ทแล้วนี่หาสีที่เนื้อดีคุณภาพดียากค่ะ แต่ว่า Hourglass เขาทำออกมาได้ perfect มาก สีนี้ใช้งานง่ายมากจริง ๆ และถึงแม้ว่าเนื้อมันจะนุ่มและละเอียดแค่ไหนก็ตาม พอทาลงไปบนตาแล้วไม่มีสีร่วงเลยค่ะ แต่ที่เราชอบมากกว่านั้นคือตอนเกลี่ย มันเกลี่ยแล้วสีไม่จางหายไปมากเกิน ยังคงความเข้มของสีไว้ได้ดีอยู่ถึงแม้ว่าจะผ่านการเกลี่ยและเกลี่ยมากแค่ไหนก็ตาม เราชอบใช้สีนี้บริเวณมุมหัวตาด้านนอกเพื่อเพิ่มความลึกให้กับตาแต่ว่าสีนี้ก็สามารถใช้ทาไปตามขอบตาให้ตาดูคมขึ้นได้ด้วยค่ะ
ส่วนเรื่องความติดทนนั้นเราไม่พบปัญหาสีจางหรือสีตกตามริ้วรอยระหว่างวันเลยค่ะ อย่างที่บอก เม็ดสีมันติดแน่นกับผิวดีมาก แต่ว่าคุณก็สามารถทาทับอายไพรเมอร์ดี ๆ เพื่อเพิ่มความเข้มสีให้ชัดเจนขึ้นไปอีกได้ แถมยังจะช่วยให้สีสดใสนานขึ้นอีกด้วย
The eye look

เราลงสีที่หนึ่งเป็นสีเบสทั่วตาขึ้นไปจนถึงใต้คิ้ว จากนั้นเราใช้สีที่สองทาไปตาม crease (กะ ๆ เอาเพราะเราไม่มี crease ที่ชัดเจน) และก็เกลี่ยลงมาตามมุมหัวตาด้านในด้วย เราใช้สีที่สี่ลงตรงปลายตาด้านนอกเพื่อให้ตาดูฟุ้ง ๆ smokey นิด ๆ จากนั้นก็เพิ่มมิติให้กับตาด้วยสีที่ห้า ซึ่งเราลากลงมาที่ขอบตาล่างด้านนอกด้วย จากนั้นเราตามด้วยสีที่สามที่มีชิมเมอร์เพื่อเพิ่มความเงาเมทาลิคเบา ๆ ให้กับตา ปิดท้ายด้วยสีที่สามอีกครั้งบริเวณขอบตาล่างด้านในเพื่อช่วยให้ใต้ตาดูสว่างขึ้นค่ะ

ถ้าใครได้อ่าน HelloJaa มาได้ซักพักแล้วคุณจะรู้ว่าเราเป็นคนบ้าพาเล็ทอายแชโดว์มาก โดยเฉพาะพาเล็ทที่เป็นสีนิวทรัล สีของ Infinity นี้บอกตามตรงว่าไม่ใช่สี unique อะไร สามารถหาสีที่เหมือน ๆ กันได้ง่ายอยู่แล้ว แต่ต้องบอกว่าเรายังไม่เคยเห็นพาเล็ทสีนิวทรัลอันไหนที่มีรูปร่างหน้าตาสวยงามขนาดนี้มาก่อน แถมทุกสีในพาเล็ทก็ทำงานได้ดีเยี่ยม ไม่มีสีไหนด้อยกว่ากันเลย ถ้าใครไม่ชอบสีน้ำตาลนิวทรัลแบบนี้ ก็สามารถลองหาสีอื่นเล่นดูก็ได้ค่ะ มีอีกตั้ง 6 สีให้เลือกแน่ะ เราดีใจที่เราเริ่มด้วย Infinity ก่อนเพราะว่าเราคิดว่าถ้าแบรนด์ทำสีนิวทรัลออกมาได้ดีก็น่าจะทำสีที่เป็นสีสันออกมาได้ดีด้วยเช่นกัน สีต่อไปที่เราจะซื้อคือสี Color Field ค่ะ ซึ่งมีสีเขียวมะกอกเป็นสีเด่นในพาเล็ท สวยมาก เราเป็นคนชอบทาตาสีเขียวมะกอกอยู่แล้วดังนั้นไม่มีพลาดแน่นอนค่ะ :)
Purchase
฿2,460 at Sephora Thailand
โอ๊ย อยากได้ พาเลทสวยมากๆเลยค่ะ รูปนี้พี่จ๋าใช้ลิปสติกของอะไรหรอคะ อยากได้สีนี้มากเช่นกันค่า :)
เอ่อ…. พยายามนึก แต่นึกไม่ออกว่าใช้สีอะไรอ้ะค่ะ ขอโทษด้วยน้า :( คราวหน้าต้องเขียนให้ชัดเจนแล้วล่ะ
หืม ตายๆๆๆๆๆๆ ต้องโล้ะnakedออกมั่งแล้ว มาสอบตัวนี้ สวยละลาย ปล.อ่านคห.บนแล้วย้อนไปดู จริงๆคะพี่จ๋าลิปสีก็สวยอลังมากกกกกก
เห็นทีแรกก็ว้าวอยากได้แต่พอดูการจัดวางผลิตภัณฑ์แล้วก็ตัดใจเลยคะใช้ไปนานๆสีต้องปนกันมั่วแน่ๆ
แน่นอนค่ะ เข้าไปเห็น tester ใน Sephora มาแล้วแบบ ปวดใจ เละเทะมาก 555