ตั้งแต่เริ่มเข้าหน้าหนาวมา เราก็ crazy มากเลยกับลิปบาล์ม ตอนแรกก็นึกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการแล้ว แต่ไป ๆ มา ๆ ต้องขอบคุณ Kristen ที่มาพูดถึงตัวนี้ให้ได้ยิน! ก็เลยได้จัดเลย :D คือเราก็เคยรู้จักตัวนี้มาแล้วแหละ เพราะ Christine เขาเป็นคนเอามาแนะนำจนดังไปทั่ว แต่ก็นะ ผ่านไปตั้ง 3.5 ปีกว่าเราจะได้ซื้อมาลอง ฮ่า ๆ คือที่ผ่านมาไม่ได้ซื้อเพราะว่าตัว packaging มันดูแบบผู้ชายเกินอ้ะ เลยไม่ค่อยได้สนใจเท่าไหร่ (คือจริง ๆ แล้ว Jack Black เขาก็เป็น brand ของผู้ชายอ่ะนะ) สรุปสั้น ๆ คือเราได้ไปจัดมาหลังจากที่ได้ยินคนชื่นชมตัวนี้กันมากมายทั่วบ้านทั่วเมือง อ้ะ ซะหน่อยก็ได้ :)
อย่างแรกที่ต้องพูดถึงกันก่อนเลยก็คือเรื่องของ controversy เกี่ยวกับส่วนผสม ของตัวนี้ค่ะ สามารถหาอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Christine สั้น ๆ ก็คือ Jack Black เขาไม่ได้ระบุส่วนผสมทุกอย่างไว้ใน packaging รุ่นแรก ๆ เพิ่งจะมาเขียนทั้งหมดก็ตอนที่เป็น packaging แบบใหม่ที่ FDA ของที่นี่เขาบังคับให้ระบุ นั่นแหละจึงได้เห็นกันจริง ๆ ว่าจริง ๆ แล้วมีส่วนผสมอะไรบ้าง ทั้งที่เป็นแบบ active และ inactive ingredients ถึงตอนนี้ผู้คนก็เลยโมโหเลย เพราะมารู้ทีหลังว่ามีส่วนผสมหลายอย่างที่ไม่ดีรวมอยู่ นั่นก็คือ Avobenzone (3.0%) และ Octinoxate (7.5%) เป็นสารกันแดด และ Petrolatum (40.2%) เป็นสารให้การปกป้องผิว รวมไปถึง Lanolin ซึ่งเป็นไขมันธรรมชาติจากขนแกะ สำหรับใช้เป็น base ของพวก ointments ต่าง ๆ (ที่มา: google) มันเคยมีรายงานที่ระบุว่า Octinoxate เนี่ยะมันไปเร่งการทำลายของ Avobenzone ให้เร็วขึ้น ซึ่งปกติมันก็ไม่ค่อยเสถียรอยู่แล้ว ทำให้เกิดการปล่อยพวก free radicals ออกมา และทำให้สารทั้งสองตัวหมดประสิทธิภาพในการปกป้องผิวจากรังสีแดด นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนผสมของ Butylparaben, Isobutylparaben และ Isopropylparaben อีกด้วย
ก็ตามนั้นนะคะ ทีนี้ก็รู้ข้อมูลที่สำคัญที่สุดของตัวนี้กันแล้วนะ ถ้าใครกังวลก็ไม่ต้องใช้ ไปหาแบรนด์อื่นใช้แทนที่คิดว่าปลอดภัยกว่า แต่สำหรับเรา เราชอบลิปบาล์มอยู่แล้วและก็ชอบลองของหลาย ๆ แบรนด์ ถ้าพูดกันตามจริงแล้วเราก็ไม่ได้วิตกกับพวกส่วนผสมนี้ซักเท่าไหร่เลยนะ เราซื้อมาลองใช้แล้วเราก็ชอบ มันทำให้ปากเรานุ่มและก็ดูสุขภาพดีตามที่เราหวังไว้ ดังนั้นเราก็จะยังคงใช้มันต่อไป ถ้าใครไม่กังวลกับมันเช่นกัน ก็อ่านต่อเลยค่ะ :)
เราได้ลองตัวนี้ครั้งแรกตอนที่ได้เป็นเซ็ทของขวัญมาค่ะ เซ็ทนี้ exclusive สำหรับ Sephora เท่านั้น ชื่อเซ็ทว่า It’s The Balm Lip Quad ซึ่งมีทั้งหมด 4 กลิ่นด้วยกันคือ:
- Natural Mint & Shea Butter – กลิ่นออก minty แรงเหมือนกัน ทาแล้วเย็น ๆ ด้วย
- Mango & Mandarin – กลิ่นหวาน ๆ ออกแนว tropical fruity scent
- Shea Butter & Vitamin E – กลิ่นเหมือน vanilla
- Black Cherry & Pomegranate – กลิ่นเหมือน black cherry เป๊ะ!
เราได้ลองใช้แล้วปรากฏว่าชอบมาก อีกวันเลยได้ไปจัดอีก 3 กลิ่นที่เหลือมา:
- Black Tea & Blackberry – blackberry scent, citrusy
- Grapefruit & Ginger – ออกหวาน ๆ และ citrusy
- Lemon & Chamomile – sweet lemon คล้าย ๆ พวก lemon frosting (กลิ่นนี้กลิ่นโปรดเรา!)
นอกจาก 7 กลิ่นนี้แล้วก็ยังมีกลิ่นที่เป็น limited edition Açai Berry & Vanilla ที่ทำออกมาก่อนหน้านี้ที่เราพลาดไม่ได้ซื้อ ถ้ามันมีออกมาอีกนะ เราได้จัดแน่นอน นอกจากนี้ก็มีอีกกลิ่นที่เป็น limited edition เช่นกันคือกลิ่น Asian Pear & White Tea ซึ่งตอนนี้มีขายเป็นเซ็ทอยู่ที่ Nordstrom กลิ่นพวกนี้กลิ่นไม่แรงค่ะ กลิ่นพอทาไปแล้วก็เบา ๆ แล้วก็หายไป
ตัวนี้มาในหลอดสีฟ้า cobalt เป็นหลอดบีบพลาสติกมีฝาสีดำ ตัว tip ก็จะเอียง ๆ หน่อย ๆ ทำเป็นหลอดก็ดี สะอาดดีและก็พกพาง่าย ใช้ง่าย ตัว tip ที่เอียง ๆ ทำให้ใช้ทาบนปากได้เลยโดยตรงจากหลอด แต่ละกลิ่นก็จะมีสี color-coded แตกต่างกันไปบนหลอด ซึ่งเราว่าก็น่ารักดีนะ แล้วก็อย่างที่บอก มี SPF ตั้ง 25 ด้วยซึ่งถือว่าสูงอยู่นะสำหรับลิปบาล์ม แต่ถ้า study ข้างบนเป็นเรื่องจริง เราก็คงจะไม่ได้ประโยชน์อะไรจากมันมากนัก เพราะมันคงสลายไปหมด แต่ดีตรงที่ว่ามันไม่มีกลิ่นของสารกันแดด และไม่ทิ้งคราบขาวบนปากค่ะ
เราชอบเนื้อบาล์มของตัวนี้นะ มันคล้าย ๆ กับ Vaseline เลยแต่ว่าไม่หนาและเหนียวเท่า เนื้อมันจะออกสีเหลือง ๆ หน่อยแต่ทาแล้วก็กลายเป็นใส ๆ ไป เนื้อนุ่ม ทาง่าย ไม่หนัก และไม่ greasy ทาแล้วรู้สึกว่ามันจะซึม ๆ ลงไปบนปากเล็กน้อยด้วย ไม่ใช่แค่เคลือบไว้แต่บนผิวปากเฉย ๆ ตัวนี้ทาแล้วจะทิ้ง shine ไว้เล็กน้อยค่ะ แต่ไม่ได้เยอะมาก ไม่ได้มันมากถึงขนาดต้องซับ ทาแล้วปากเรารู้สึกได้ทันทีเลยว่านุ่มขึ้น และก็ชุ่มชื้นขึ้น นอกจากนั้นตัวนี้ยังช่วยบรรเทาอาการปากแห้งและปากแตกด้วย
ความชุ่มชื้นนี่ติดทนนานค่ะ เราทาเช้าแต่ปากก็นิ่มไปทั้งวันเลยไม่ต้องเติมด้วย แล้วเราก็ใช้ตอนกลางคืนก่อนนอนด้วย พอตื่นมาแล้วปากก็ยังนุ่มดีอยู่เลย ซึ่งเราประทับใจมาก แล้วถ้าคนไหนที่ต้องทำ lip swatches บ่อย ๆ ด้วยแล้วล่ะก็ แนะนำค่ะ ลงตัวนี้บาง ๆ ระหว่างสี มันช่วยทำให้ปากไม่แห้งเกินไปและก็ช่วยไม่ให้ปากรู้สึก sore
ลิปบาล์มเป็นอะไรที่เราใช้ทุกวันนะ ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นเลย ดังนั้นเวลาเราเจออันนึงที่ใช้ได้ดี เราก็จะค่อนข้างตื่นเต้นหน่อย ไม่ว่า controversy จะว่ายังไงก็แล้วแต่แต่ลิปบาล์มของ Jack Black ตัวนี้รับรองไม่ไปไหนแน่ค่ะ เรายังคงจะใช้ไปเรื่อย ๆ ราคาก็ไม่ได้แพงอะไรมากด้วย ใช้แล้วก็ติดยิ่งอยากใช้ไปเรื่อย ๆ ตอนนี้ก็แค่อยากให้เขาผลิตกลิ่นใหม่ ๆ ออกมาอีก! จะสะสมไปเรื่อย ๆ :)
