เรานั่งนึกอยู่นานละว่าจะเขียน introduction ของรีวิวนี้เกี่ยวกับอะไรดี เพราะที่นึกได้มีอยู่เรื่องเดียวคือเรื่อง controversy ล่าสุดของแบรนด์เกี่ยวกับชื่อ Underage Red ซึ่งเป็นสีหนึ่งในตระกูล Everlasting Liquid Lipstick ค่ะ ใน article นี้ Kat Von D เธอออกมาอธิบายว่าทำไมถึงตั้งชื่อนี้ คือเรื่องราวมันเกี่ยวกับตอนที่เธอไม่สามารถเข้าร่วมคอนเสริ์ตแนว punk-rock ที่เธออยากดูมากได้เพราะเธอยังมีอายุไม่ถึง เลยเข้าไม่ได้ และวันนั้นเธอก็ทาลิปสติกสีแดงพอดี เธอยืนยันว่าชื่อที่ตั้งนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรเลยกับเรื่องแบบนั้น แค่เป็นชื่อที่ตั้งมาเพื่อระลึกถึงความหลังตอนนั้น ซึ่งเราว่ามันก็ make sense ดี ส่วนตัวเราแล้วเราไม่ได้มีความรู้สึกว่าชื่อมันไม่ได้ไม่ดีตรงไหนเลยนะ แต่ก็เข้าใจว่าทำไมบางคนอาจจะไม่ชอบ หรืออาจเป็นได้ว่าเราชินชากับชื่อพวกนี้แล้วเพราะแต่งหน้ามาก็หลายปี ชื่อที่ไม่ดีกว่านี้ก็เคยได้ยินมามากแล้ว เราก็เลยไม่ค่อยจะรู้สึกอะไรแล้วค่ะ
คือเราก็ไม่ได้ตั้งใจจะให้โพสท์วันนี้กลายเป็น controversy discussion post อะไรหรอก แค่รู้สึกว่ามันควรจะต้องกล่าวถึงนิดหน่อย ตอนนี้ไปเริ่มรีวิวสี Bachelorette กันแทนดีกว่า สีนี้จะแดงน้อยกว่า แถมชื่อก็สบายใจกว่า ปลอดภัยกว่าเยอะเลยด้วย ;D

ที่เห็นในรูปนี้เป็นขนาด deluxe sample size ค่ะ ซึ่งก็มาในหลอดแบบหลอดลิปกลอสธรรมดา มีแปรงทาเป็นแบบ doe-foot applicator ทั่วไป หลอดจะผอม ๆ บาง ๆ หน่อยแต่ว่าดูจากลักษณะสีที่เข้มปั้กแล้ว บวกกับการที่เราไม่ค่อยจะได้ทาปากแดงบ่อยซักเท่าไหร่ เราว่าหลอดจิ๋วนี้จะต้องใช้ได้นานมากแน่นอน แปรงทานั้นไม่ได้แม่นยำอะไรมากค่ะ ตอนท้ายสุดที่ต้องคลีนขอบปากให้เรียบร้อยนั้นเราจะหยิบแปรง lip brush มาช่วยเกลี่ยเสมอเพื่อให้ได้ขอบที่คมขึ้น ส่วนกลิ่นไม่มีนะ เราดมแล้วไม่ได้กลิ่นอะไรเลย

Bachelorette เป็นสี reddish fuchsia ที่สวยสดใสมาก เนื้อครีมของมันทาไปตอนแรกจะ glossy หน่อยแต่ว่ามันจะเซ็ทกลายเป็นแม็ทสนิทออกเนียน ๆ ภายใน 2-3 นาที มันแม็ทมากจริง ๆ ค่ะ ไม่มีความเงาหรือชิมเมอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น ไม่เหนียว ไม่หนึบด้วย พอเซ็ทแล้วทีนี้สีก็จะไม่ transfer หรือเปื้อนแล้วค่ะ เราลองเอานิ้วไปแตะ ๆ ปากดูก็ไม่มีสีอะไรติดนิ้วออกมา ติดจริงอะไรจริงค่ะตัวนี้


ทาไปเพียงแค่หนึ่งครั้งบาง ๆ ก็จะได้สีทึบปิดสีปากเราได้ทันทีเลย สีสามารถทาทับเพิ่มให้มันแดงขึ้นได้หากชอบ โดยที่มันจะไม่ไปทำให้ปากรู้สึกหนักหรือหนาแต่อย่างใด เราพบว่าลิปสติกเนื้อแบบนี้ต้องทาบนปากที่ผ่านการขัดเอาผิวที่ตายแล้วออกก่อนเท่านั้นถึงจะทาได้เนียนสวย ไม่งั้นมันจะไปเน้นรอยแห้งได้ค่ะ นอกจากนี้คุณก็สามารถทาตัวนี้ทับพวกลิปบาล์มได้ด้วย แต่ว่าข้อสำคัญคือต้องซับเอาความมันออกให้หมดก่อนทาตัวนี้ เพราะพวกบาล์มหรืออะไรที่มัน ๆ เนี่ยะจะทำให้สีลิปสติกติดทนน้อยลง
ตอนทาเดี่ยว ๆ ไม่มีอะไรรองพื้น สี Bachelorette นี้ติดทนดีเกินกว่า 5-6 ชั่วโมงเลย นี่แบบหลังจากทานข้าวดื่มน้ำด้วยนะ แต่หากเมื่อไหร่ทาทับเบสที่มัน ๆ หน่อยเนี่ยะ มันจะติดทนแค่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น รุ่นนี้เนื้อไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นอะไรแก่ปากอยู่แล้ว ดังนั้นขึ้นอยู่กับปากคุณด้วยว่าแห้งมากแห้งน้อยแค่ไหน คุณอาจจะรู้สึกว่ามันทำให้ปากแห้ง โดยเฉพาะช่วงท้าย ๆ แต่ว่ามันก็ไม่น่าแปลกใจอะไรค่ะ สำหรับพวก lip product ที่ติดทนนาน ๆ แบบนี้ก็มักจะทำให้ปากแห้งอยู่บ่อย ๆ อยู่แล้ว ยังไงก็พยายามพกลิปบาล์มไว้ทาทับระหว่างวันด้วยก็ดี เพื่อคืนความชุ่มชื้นแก่ปากตอนที่ปากรู้สึกแห้งค่ะ

ข้างล่างนี้เป็นรูปเราทา Bachelorette บนปากค่ะ เราเลือกแต่งตาเป็นแบบชิมเมอร์เบา ๆ แต่อัดอายไลน์เนอร์สีดำเข้ม ๆ ส่วนที่เหลือของหน้าเราก็จะไม่ลงอะไรมาก ปล่อยสบาย ๆ เพื่อให้โฟกัสอยู่ที่ปากแดง :) เรายังไม่ค่อยชอบตัวนี้ตรงที่มันทาแล้วมันไปเน้นพวกเส้นริ้วรอยบนปากและเนื้อปากมากไปนิด แต่ว่าเรื่องสีนั้น ต้องบอกว่าชอบมากค่ะ เป็นแดงชมพูที่สวยมากจริง ๆ ♥

Kat Von D Everlasting Liquid Lipstick นี้เขาทำมาสำหรับคนที่กำลังมองหาหรือชอบลิปสติกแบบลิควิดเนื้อแม็ทที่ติดทนนานค่ะ เราเสียดายว่ามันทาแล้วปากรู้สึกแห้งตอนท้าย ๆ แต่ก็อีกแหละ ยังไม่เคยเห็นเนื้อแบบนี้จากแบรนด์ไหนที่ไม่ทำให้ปากแห้งเลย สี Bachelorette เป็นสีแดงที่แตกต่าง เพราะไม่ใช่แดงเด่นอย่างเดียวแต่มีสีชมพู fuchsia ผสมด้วย ถือว่าเป็นสีสวย สนุก และ ดูอ่อนเยาว์ดีค่ะ ก็เหมือนกับตอนที่เวลาเราไปงาน bachelorette party นั่นเลย ความรู้สึกสนุกสดใสแบบเดียวกันเป๊ะ! :)
ลุคนี้แซบมากคะพี่จ๋า
กรี๊ด แท้งกิ้วจ้าน้องพลอย