ซัมเมอร์นี้มีเครื่องสำอางคอลเลคชั่นออกใหม่มากมาย แต่ตัวหนึ่งที่เรารู้สึกตื่นเต้นมากที่สุดคือพาเล็ท Laura Mercier Artist's Palette for Eyes ที่แบรนด์นำมาวางขายอีกเป็นรอบที่สองค่ะ พาเล็ทนี้วางขายไปครั้งแรกเมื่อช่วง Holiday 2013 แล้วก็ขายหมดอย่างรวดเร็วมาก เราไม่ทันได้ซื้อ และก็รู้สึกเสียดายมาโดยตลอด คราวนี้พอเห็นวางขายออนไลน์ปุ๊บ จัดการซื้อเลย ไม่มีคิดหน้าคิดหลังใด ๆ อีกแล้ว ได้ลองใช้มาซักพักนึงแล้ว บอกได้เลยว่าเราเห็นด้วยกับรีวิวต่าง ๆ มากมายที่เขาบอกว่าพาเล็ทนี้เป็นพาเล็ท must-have ค่ะ คือต้องมี! เวอร์ชั่นใหม่นี้มีบางสิ่งบางอย่างที่เปลี่ยนไปไม่เหมือนเดิมที่เรารู้สึกเสียดายว่าไม่น่าเปลี่ยนเลย แต่ว่าส่วนอื่น ๆ ของพาเล็ทก็ยังเพอร์เฟ็กต์อยู่เหมือนเดิมค่ะ :)

สิ่งที่เปลี่ยนไปสิ่งแรกคือชื่อค่ะ ตอนนี้ชื่อพาเล็ทคือ Laura Mercier Eye Art Artist's Palette สิ่งที่สองคือ packaging ภายนอก เวอร์ชั่นใหม่ไม่มีฝาเป็นหนังที่ดูคลาสสิคสวยงามแล้ว ตอนนี้กลายเป็นแค่ cardboard ธรรมดาที่ฝากระดาษเงาด้านบนจะมีโฟมบุอยู่ด้านในและฝาก็เป็นแบบแม่เหล็กที่พับเกินลงมาปิดด้านข้าง ลวดลายดอกไม้สีดำบนพื้นน้ำตาลนั้นก็ดูโอเคอยู่ กระจกข้างในให้มาก็เยี่ยม แต่อย่างไรแล้วเราก็อดรู้สึกไม่ได้ว่าได้ของลักษณะถูกลง ทั้ง ๆ ที่ราคาดันเพิ่มขึ้น ซึ่งก็คือข้อสามค่ะ ราคาเพิ่มจาก US$48 เป็น US$55 นี่ตอนนี้ใช้มาซักพักเราเริ่มเห็นรอยขีดข่วน รอยบุ๋ม เป็นหลุมเป็นแอ่งบนฝาแล้ว หากใครมีพาเล็ทเวอร์ชั่นแรก เรายินดีด้วยค่ะ! คุณได้ของดีแล้ว หากใครมีเวอร์ชั่นนี้ ต้องใช้อย่างทะนุถนอมนะคะ :)

Palette at a glance

ดีหน่อยที่อายแชโดว์ข้างในยังคงเป็นสีเดิมและคุณภาพดีเช่นเดิม! สีมีทั้งหมด 12 สี 6 สีเป็นแม็ท 2 เป็นลัสเตอร์ และ 4 เป็นซาติน โทนสีจะเด่นไปทางสีม่วงที่มีสีชมพู พีช เบจ และน้ำตาลที่เข้ากันรวมมาด้วย ถือว่าเป็น color selection ที่เลือกมาดีมากเหมาะกับการสร้าง eye look ที่ดูหรูคลาสสิค จะใช้เป็นพาเล็ทวันธรรมดาก็ได้หรือจะแต่งให้ออกเป็นแนวสโมคกี้ก็สวย สีม่วงนี้ถือเป็นสีที่ทาบนตาสีน้ำตาลแล้วจะสวยมากค่ะ แต่ว่าบนตาสีอื่นก็งดงามไม่แพ้กัน ไม่น่าสงสัยเลยว่าทำไมพาเล็ทนี้ถึงมีแต่คนรักคนชอบกันทั้งวงการเครื่องสำอาง!
สีก็มีทั้งแบบสีโทนเย็นและอุ่น และมีตั้งแต่สีไฮไลท์ (ด้านซ้าย) ไปจนถึงสีทาทั่วตา สีคอนทัวร์ และสีเข้มสำหรับเสริมมิติเพิ่มความลึกให้กับตา (ด้านขวา) สีที่เป็นแม็ทนั้นเนื้อดีมาก เนียนและเม็ดสีเข้ม ทาง่ายไม่เป็นจ้ำและไม่ฟุ้ง ส่วนสีชิมเมอร์นั้นถึงจะบางหน่อยแต่ว่าก็สามารถ build ให้เข้มขึ้นได้โดยที่ไม่มีเม็ดสีร่วงหล่นอะไรมากมาย แต่สีที่บางจริง ๆ เราก็จะใช้เป็นแค่สีไฮไลท์ไป

อายแชโดว์ของพาเล็ทนี้เกลี่ยง่าย blend ง่ายมากจริง ๆ ค่ะ ถึงแม้จะเป็นสีโซนแม็ทสีเข้มก็ตาม ไม่ต้องใช้ความพยายามในการเกลี่ยอะไรมากมายเลย สีที่บางหน่อยนี่ก็ทาง่ายแสนง่าย ใช้ง่ายจริง ๆ เราชอบที่แต่ละสีมันเข้ากันได้ดีมาก เป็นสีที่ทาได้สวยทาได้จริงในชีวิตประจำวัน และไม่ว่าคุณจะหยิบสีไหนมาทาก็มั่นใจเลยว่าจะได้งานตาที่ออกมาสวยแน่นอนค่ะ
ส่วนเรื่องความติดทนก็เต็มสิบ ขนาดทาบนตาเปล่า ๆ ไม่มีไพรเมอร์ก็ยังแทบจะไม่เห็นว่ามันจางหรือตกร่องแต่อย่างใดเลย นี่ขนาดทาบนตาที่มันด้วยนะ วันไหนที่ทำงานนาน ๆ ก็อาจจะมีจางบ้างในที่สุดค่ะ แต่ว่าก็ไม่เคยตกร่องอยู่ดี ติดทนปกติอยู่ที่ประมาณ 7-8 ชั่วโมง แต่ว่าสามารถเพิ่มความติดทนได้ด้วยการทาทับอายไพรเมอร์
Whole palette swatches


Shade breakdown
- Sparkling Dew – pale pink beige; sateen
สีบางมากเมื่อทาบนผิวเรา แต่ว่าก็ build ได้ เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย ป่นเป็นผงง่ายนิดนึง - Guava – pale peachy pink; sateen
สีเข้มกว่า Sparkling Dew หน่อยแต่ว่าก็ยังเป็นสีอ่อนอยู่ดีบนผิวเรา เนื้อนุ่ม ไม่ฟุ้ง ความเข้มสี build ได้ สีนี้สวยค่ะ (แล้วเราก็ชอบทานฝรั่งด้วย!). - African Violet – pink purple with a golden sheen; luster
เป็นดาวของพาเล็ทเลยค่ะ และเป็นสีโปรดสุดเราเลย! ชิมเมอร์ของสีนี้มันแบบว่าคอมเพล็กซ์มาก ทาแล้วจะเป็นเหลือบ ๆ เป็นมิติที่สวยจริงอะไรจริงเวลาแสงตกกระทบ บางทีก็ออกทอง บางทีก็ออกชมพู หรือม่วง สวยสุด ๆ เนื้อก็ละเอียด นุ่ม อาจะมีร่วงเป็นผง ๆ บ้างตอนแพ็คสี ความเข้มสีถือว่าปานกลางไม่มากเกินน้อยเกิน แต่เราก็อดเสียดายนิดนึงว่ามันน่าจะเข้มกว่านี้อีกนิด - Plum Smoke – smoky purple; matte
ช่างเป็นสีม่วง smoky dusty purple ออกฟุ้ง ๆ ที่แปลกไม่เหมือนใครจริง ๆ ค่ะ เนื้อนุ่มอย่างกับเนยเลย ความเข้มสีชัดเจน เกลี่ยก็ง่ายสุด ๆ! - Kir Royal – burgundy purple; sateen
สีนี้เนื้อจะแห้งเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสีอื่นในพาเล็ทแต่ว่าก็ยังทาง่ายเกลี่ยง่ายอยู่ดี ความเข้มสีสวยงาม ไม่มีเม็ดสีหล่นระหว่างทา แต่ว่าถ้าเกลี่ยไม่ดีก็แอบมีเป็นจ้ำ ๆ เหมือนกันค่ะ - Violet Ink – inky eggplant purple; matte
เนียนเข้มอย่างกับหมึกเลย! เนื้อนุ่ม ทาง่าย ความเข้มสีชัดเจน เกลี่ยง่าย แพ็คสีง่ายโดยไม่มีเม็ดสีร่วงหล่นเยอะแยะ
- Vanilla Nuts – vanilla beige; matte
นุ่มอย่างกับเนยเลยสีนี้ ความเข้มสีกำลังดี เนื้อละเอียดไม่ฟุ้งเป็นผงระหว่างทา แต่แอบรู้สึก chalky นิด ๆ แต่ว่าก็ยังเกลี่ยได้ง่ายอยู่ค่ะ - Primrose – pale pink beige; sateen
เราชอบชื่อสีนี้มาก! :) เนื้อนุ่มมากอย่างกับครีมเลย ใช้ง่ายทาง่ายเกลี่ยง่ายดีมาก เนื้อฟุ้งเป็นผงง่ายนิดหน่อยและก็เป็นสีบางแต่ว่าก็สามารถแพ็คสีให้เข้มขึ้นได้ง่ายค่ะ - Fresco – neutral brown; matte
เป็นสีสำหรับคอนทัวร์บริเวณเบ้าตาที่สวยมาก! ความเข้มสีดีเยี่ยม เราใช้สีนี้บ่อยมากค่ะ เกือบจะกับทุก look เลย เนื้อนุ่ม ครีมมี่มาก เกลี่ยง่าย เป็นสีแม็ทที่ดีเยี่ยมจริง ๆ - Bamboo – olive-tinged golden brown; luster
อีกหนึ่งสีสวย สีนี้เป็นสีโปรดรองลงมาที่สองค่ะ เราชอบที่มันไม่ใช่สีน้ำตาลแบน ๆ ทั่วไป แต่ว่ามันทาแล้วมีมิติอยู่ในตัวเอง เนื้อสวยมาก ความเข้มสีก็ดี เกลี่ยก็ง่าย - Truffle – chocolate brown; matte
เนื้อนุ่ม เนื้อละเอียด แต่ว่าแอบแห้งและฟุ้งนิดนึง ความเข้มสีชัดเจนอยู่ค่ะ เกลี่ยง่ายด้วย - Espresso Bean – darkened brown; matte
เสียดายว่าสีนี้ไม่ใช่สีดำสนิท แต่ว่าไปแล้วสีน้ำตาลดำแบบนี้ก็น่าจะเข้ากับสีอื่น ๆ ในพาเล็ทได้ดีกว่า ความเข้มสีดีมาก เหมาะมากกับการใช้เป็นสีสร้างมิติให้กับตา เขี่ยให้ฟุ้งหรือ smoke ง่าย ทาเบาก็ได้หรือจะแพ็ค ๆ ลงไปให้เข้ม dramatic ขึ้นก็ง่าย
The eye look

เราลงสี Vanilla Nuts เป็นสีเบส ตามด้วยสี African Violet ให้ทั่วเปลือกตา จากนั้นเราเติมสี Kir Royal ด้านในและนอกของตาบนเพื่อเพิ่มมิติขึ้นอีกนิดให้กับตา เราใช้สี Violet Ink สำหรับ smoke ขอบตาด้านนอกให้ฟุ้ง ๆ ตามด้วยสี Espresso Bean ลงที่มุมตาด้านนอกเพื่อเพิ่มความลึกให้กับตา เราใช้สี Sparkling Dew และ Primrose ผสมกันสำหรับลงเป็นสีไฮไลท์โหนกคิ้วเบา ๆ จากนั้นเราใช้สี Guava แตะเบา ๆ ที่หัวตาด้านในเพื่อเปิดตาให้ดูตื่นเล็กน้อย สเต็ปสุดท้ายเรา smudge สี Truffle ไปตามขอบตาด้านล่างค่ะ
รูปหน้าเต็ม:


Additional makeup worn:
- Urban Decay 24/7 Glide-On Pencil สี Demolition (รีวิว) ไปตามขอบตาบน
- Urban Decay 24/7 Glide-On Pencil สี Empire (รีวิว) และ MAC Pearlglide Intense Eye Liner สี Designer Purple (รีวิว) ไปตามขอบตาล่าง
- Mille Superstar Glittering Gel Liner Waterproof (ดูรูป) ลงตรงหัวตาด้านใน
- YSL Baby Doll Kiss and Blush สี 04 Orange Fougueux ทับด้วย Dior Lip Maximizer สี Pink Sunset (รีวิว) บนปาก
มาถึงตอนนี้เราก็เข้าใจแล้วค่ะว่าทำไมพาเล็ทนี้ถึงเป็น cult-favorite ใคร ๆ ก็ชอบ ถือเป็นอีกหนึ่งพาเล็ทที่หลายคนตามหาตามซื้อเลย เนื้ออายแชโดว์คุณภาพดีมาก ๆ แถมสีก็หลากหลายและเป็นสีสวย ๆ ทั้งนั้นที่ใคร ๆ ก็ทาได้ ราคาถึงจะเพิ่มขึ้นมาแต่เราคิดว่ามันก็ยังคุ้มอยู่ดี เพราะถ้าซื้อเดี่ยวราคาจะอยู่ที่ US$24 ต่อสีเลย พาเล็ทนี้ได้ตั้ง 12 สีแน่ะ และราคารวมก็มากกว่าซื้อเดี่ยว 2 สีนิดเดียวเอง ใช่ที่คุณได้ปริมาณสีน้อยกว่าในพาเล็ท แต่เราก็ไม่เคยใช้อายแชโดว์สีใดหมดมาก่อนเลย ไม่ว่าจะขนาดเล็กใหญ่แค่ไหนก็ตาม พาเล็ทนี้ตอนนี้มีขายที่ Sephora ที่เดียวเท่านั้นค่ะ ทั้งออนไลน์และที่ร้าน เขาไม่ได้เขียนไว้ว่าเป็น limited edition นะซึ่งเราก็หวังว่ามันจะมีวางขายอยู่ตลอดไปเพื่อให้หลายคนมีโอกาสซื้อใช้ แต่ถึงยังไงเราก็แนะนำให้ซื้อทันทีเลยหากชอบ เพราะก็ไม่แน่เหมือนกันว่ามันอาจจะหมดสต๊อกอีกในเร็ววันนี้ก็ได้! :)