มีข่าวดีมาบอกค่ะ! สำหรับคนที่พลาดโอกาสซื้อ Laura Mercier Face Illuminator สี Spellbound เมื่อ 2 ปีที่แล้ว หรือสี Indiscretion ที่ปล่อยออกมาเมื่อเดือนที่แล้วบนเว็บ Sephora ตอนนี้คุณสามารถหามาไว้ในครอบครองแล้วค่ะ เพราะแบรนด์เพิ่งปล่อยสี Indiscretion ออกมาอีกครั้งเป็นส่วนหนึ่งของคอลเลคชั่น Un Été À Ibiza สำหรับช่วงSummer 2015! นี่ก็ทำให้เราดีใจด้วยเพราะว่าเราไม่ชอบรีวิวสิ่งที่คุณไม่สามารถหาซื้อตามได้ :)

Laura Mercier Indiscretion Face Illuminator เป็น face-illuminating powder คือแป้งเพิ่มความสว่างใสให้กับใบหน้า เนื้อแป้งมีชิมเมอร์เป็นสีเมทาลิค rose gold ที่สวยงามละเอียดอ่อนมาก ตัวนี้มาในคอมแพ็คแป้งตามปกติทั่วไป แต่ขนาดมันจะหนา ๆ เทอะทะเล็กน้อย ข้างในมีกระจก และก็มีแผ่นพลาสติกครอบเนื้อแป้งมาไว้ ซึ่งมันจะหล่นออกบ่อยมากเวลาเปิดฝาคอมแพ็คขึ้นมา เราก็เลยโยนของเราทิ้งไปเรียบร้อย เนื้อแป้งไม่มีกลิ่นน้ำหอมใด ๆ บริเวณผิวถูกกดมาให้เป็นลวดลายคล้าย ๆ ริบบิ้นที่พลิ้วไปมา สวยงามดีไม่เหมือนใคร ชั้นบนสุดดูเหมือนจะเป็นชั้น overspray เนื้อเมทาลิคเพื่อที่เนื้อผิวจะได้ดูเนียนสวย แต่พอเริ่ม swatch ก็จะเห็นเนื้อของมันที่แท้จริงด้านล่างค่ะ

ตัวชิมเมอร์สี rose gold นั้นตอนทาบนผิวแล้วเนื้อมันจะระยิบระยับแบบเมทาลิคจริง ๆ ค่ะ หากลงแบบฟุ้ง ๆ เบา ๆ (dusting) มันจะให้ความโกลว์แบบละเอียดอ่อนโดยไม่เพิ่มสีให้กับหน้า หากทาแบบหนาหลายชั้นขึ้น ตัวชิมเมอร์ก็จะยิ่งกลายเป็นแถบเมทาลิคมากขึ้น และคุณก็จะเห็นว่านอกจากความเงาแบบเมทาลิคแล้ว คุณจะเพิ่มความอุ่นให้กับใบหน้าด้วย ยิ่งทาหนาแค่ไหน สี “rose” ของตัวนี้ก็จะยิ่งเด่นขึ้น ๆ ค่ะ บางครั้งก็อาจจะมากพอจนเหมือนว่าคุณทาทั้งบลัช บรอนเซอร์ และไฮไลท์เตอร์มาพร้อมกันเลย
ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับปริมาณที่คุณทาและมุมที่แสงตกกระทบ บางทีคุณก็อาจจะเห็นเป็นแถบสีทองบนผิว หรือบางทีก็สี rose มันเกือบจะออกเหลือบ ๆ เป็น iridescent เลยก็ว่าได้ สวยงามมากค่ะ


และเนื่องจากความเป็นเมทาลิคสูงของมัน เวลาทาคุณต้องคิดให้ดีว่าจะทาตรงไหนของหน้าและจะทามากน้อยแค่ไหน บนหน้าเรานั้น เราพบว่าถ้าทาไม่ถูกที่มันจะไปเน้นรูขุมขนและเนื้อผิวที่ไม่เนียนเสมอกันให้เด่นขึ้นค่ะ เราจะพยายามไม่ลงใกล้บริเวณดังต่อไปนี้เลย นั่นก็คือ บนและข้างจมูก (รูขุมขนกว้างเยอะ) หน้าผาก (ริ้วรอย) และ ส่วนล่างของแก้ม (รอยสิว) เราจะพยายามกัน ๆ ไว้แค่ตรงบริเวณโหนกแก้มด้านบนเพื่อเพิ่มมิติให้กับหน้าเท่านั้น
เม็ดสีถือว่าเข้มกำลังดีใช้ได้ ตอนเราใช้เราจะทาทับประมาณ 2-3 ชั้นเพื่อให้ได้ความเข้มสีและความโกลว์ในแบบที่เราชอบ สำหรับคนที่ผิวอ่อนกว่าเราก็อาจจะใช้น้อยลงได้ หรือคนที่ผิวเข้มกว่าก็อาจจะต้องทาทับมากขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม เราแนะนำว่าตอนทาไปก็จ้องไว้ด้วย พยายามเอียงหน้าซ้ายขวาดูว่าพอรึยัง หากไม่ระวังและทามากเกินตัวนี้จะทำให้หน้าคุณดูมันเยิ้มได้เลยค่ะ


ส่วนสัมผัสของเนื้อมันถือว่านุ่มนะ แต่ว่าก็ไม่ถึงกับนุ่มอย่างกับเนยเหมือนไฮไลท์เตอร์หลายตัวที่เราเคยใช้มาหรอก เราไม่พบว่าเนื้อของตัวนี้มันจะร่วงหล่นแตกเป็นเม็ดง่ายหรือว่าเนื้อป่นมีผงแป้งหล่นมากเกินระหว่างใช้แต่อย่างใด แต่แค่ว่ามันรู้สึกแห้งนิด ๆ ก็เท่านั้น แต่ถึงแห้งมันก็ยังใช้ง่ายทาง่ายอยู่ค่ะ เกลี่ยให้เนื้อสีเสมอกันนี่ง่ายมากเลย ตอนเราลองใช้แปรงรูปพัด (fan brush) ลงเราคิดว่ามันยังหยิบเนื้อสีขึ้นมาได้ไม่ดีเท่าไหร่ เราแนะนำให้ใช้แปรงที่ขนแน่นขึ้นมาหน่อยจะดีกว่าค่ะ แต่ก็ไม่ใช่แน่นมากนะ เดี๋ยวจะหยิบขึ้นมาเยอะเกินไปอีก พวกไฮไลท์เตอร์เนื้อเมทาลิคส่วนมากนี่ทาแล้วจะเกลี่ยให้ขอบฟุ้ง ๆ ยากนะคะ แต่สำหรับ Indiscretion สีนี้ไม่มีปัญหานั้นเลยค่ะ ตอนทามันเหมือนอย่างกับว่ามันเกลี่ยตัวเองให้ซอฟท์ไปในตัวเลย คุณแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามในการ blend อะไรมากเลย
เม็ดสีของตัวนี้ดูจะเกาะผิวแน่นดีด้วยนะคะ เพราะว่าทาแล้วมันไม่จางเลยจนกว่าจะหลัง 8-9 ชั่วโมงนู่น น่าประทับใจมากนะ ยิ่งตอนนี้ที่ผิวเรากลายเป็นผิวมันเรียบร้อยแล้วตั้งแต่กลับมาไทย อะไรจะร้อนขนาดนี้ :)
นอกจากทาบนหน้าแล้ว เรายังชอบลงตัวนี้ช่วงหน้าอก ไหล่ และแขนด้วย เพื่อให้ผิวดูโกลว์ระยิบระยับ ยิ่งตอนกลางคืนเวลาแสงกระทบนี่ดูสวยมากค่ะ บางครั้งเราก็แพ็คลงบนเปลือกตาด้วยเพื่อเพิ่มความ sparkly ให้กับตา สำหรับใครที่ชอบเครื่องสำอางสี rose gold นั้น เราแนะนำให้ลองไปเล่น Indiscretion ของจริงที่เคาน์เตอร์ดูค่ะ น่าจะชอบกัน :)
Note: สำหรับ swatch เปรียบเทียบระหว่างสี Spellbound กับ Indiscretion ลองเข้าไปดูได้ที่เว็บ Cafe Makeup ค่ะ! สองสีนี้สีใกล้กันมาก จนเราคิดว่ามันแทบจะเป็นสีเดียวกันเลย ทาไปบนผิวจริง ๆ แล้วเราว่าคงจะแยกกันไม่ออกหรอกค่ะ
Purchase
US$42 at Nordstrom ○ Laura Mercier
฿1,500 at Sephora Thailand
แอร้ยยยย สวยมวก
แอร้ยยยย ปากหวานนนน