Holy bananas batman! lip color ตัวนี้ waterproof กันน้ำสุด ๆ อย่างที่อ้างจริง ๆ ไม่โกหก!


Make Up For Ever Aqua Rouge เป็น lip color ที่มาเป็นด้าม 2 หัว ด้านหนึ่งเป็น liquid lip color ที่มาพร้อมกับ doe-foot applicator (เหมือนที่ทาลิปกลอสทั่วไป) ส่วนอีกด้านเป็น topcoat ใส ๆ มาพร้อมกับแปรง ตัว lip color นั้นตัวหลอดจะใสมองเห็นสีข้างในได้เลย ส่วนหลอดของ topcoat จะเป็น gradient ไล่ตั้งแต่ดำทึบไปจนถึงใส ซึ่งเราคิดว่าก็เก๋ edgy ดี ตัว lip color มีกลิ่นน้ำหอมแรงมาก กลิ่นคล้าย ๆ กับแป้งเด็กเลย แต่ว่ามันหายไปเร็วอยู่หลังทา เราซื้อสีเบอร์ 15 Pink มาลองใช้ดูก่อน ซึ่งก็เป็นสีชมพูแบบ neutral ธรรมดา ๆ ที่เข้าได้กับหลายโอกาส


ตัวนี้อธิบายว่าเป็น lip color แบบ liquid แต่ในความรู้สึกเราแล้วมันเหมือนเป็น lip cream มากกว่า ลักษณะเนื้อครีมมันไม่ได้เหลวเหมือนน้ำอะไรเลย ออกจะหนา ๆ แล้วก็ creamy ด้วยซ้ำซึ่งก็ดีเพราะทำให้ทาง่ายมาก มันไม่ได้รู้สึกว่าให้ความชุ่มชื้นมากมายอะไรนักหรอกนะแต่ว่ามันก็ไม่ได้ทำให้ปากรู้สึกแห้งเว่อร์หรืออะไร ส่วนเรื่อง color payoff อันนี้ไม่ต้องบอก เข้มลืม opaque สุด ๆ แบบว่า ลงแค่ชั้นเดียวก็ได้ full coverage แล้ว ตัวนี้มันก็คล้าย ๆ กับ lip stain ทั่ว ๆ ไปที่ดูเผิน ๆ แล้วเหมือนจะต้องทาลงบนปากที่ผ่านการ exfoliate และ moisturize มาอย่างดีก่อน ซึ่งก็เป็นวิธีที่ถูกต้องนะ แต่เราจะบอกว่าจากประสบการณ์เราแล้ว เราเคยลงตัวนี้ตอนที่ปากมันแห้ง ๆ แล้วก็ลอกด้วย แต่ประทับใจมากตรงที่มันไม่ได้ทำให้ปากเราลอกหรือดูแย่ไปกว่าเดิม ตราบใดที่เราเม้มปากหากันเพื่อเกลี่ยสีออกไปให้ทั่ว ๆ นะ มันจะช่วยทำให้ตรงที่ลอก ๆ หายไปและทำให้ปากดูชุ่มชื้นขึ้น ไม่มากหรอก ไม่ถึงกับชุ่มชื้นแบบหลังทา lip balm อะไรขนาดนั้น แต่ว่าก็ดีขึ้นเลยทีเดียว




วิธีที่ดีที่สุดในการลงตัวนี้ต้องทำเป็น 2 ขั้นตอนค่ะ ขั้นแรกก็ลงตัวสี lip color ก่อนเป็นชั้นบาง ๆ ให้ทั่วปาก มันทาง่าย เกลี่ยไปได้สบาย ๆ แต่พอมันเริ่ม set แล้วทีนี้ปากจะเริ่มรู้สึกตึง ๆ และก็เหนียว ๆ หน่อย และหลังจากที่มัน set completely แล้วทีนี้เนื้อจะกลายเป็น matte และปากคุณจะรู้สึกแห้ง ถ้ารู้สึกแบบนี้เมื่อไหร่ให้ลง gloss อีกด้านทับเลยค่ะ พอทา gloss ทับแล้วความรู้สึกแห้ง ๆ มันจะหายไปเลย ปากก็จะกลับมารู้สึกสบายชุ่มชื้นเหมือนเดิม เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันนะว่าบางคนเขาลงแค่ตัว lip color เฉย ๆ แล้วก็ปล่อยไว้อย่างนั้นไม่ทาอะไรทับอีก เราไม่ได้อ้ะ มันรู้สึกว่าแห้งเกินไป ถ้าใครไม่ชอบให้ปากดู glossy ก็ให้ตามด้วย lip balm ก็ได้ค่ะ แต่ตัว gloss มันก็ไม่ได้เหนียวเหนอะหนะอะไรนะ ทาง่ายดีด้วยซ้ำ อ้อ แล้วถ้าใครอยากเพิ่มสีให้สีมันเข้มขึ้นไปอีก แนะนำว่าให้ layer ตอนที่ชั้นแรกมันแห้งก่อนแล้วนะคะ ไม่งั้นถ้าทาทับลงไปเร็วเกิน สีมันจะไม่สม่ำเสมอกัน
ที่เจ๋งที่สุดของตัวนี้คือความติดทนของสีค่ะ มันไม่ขยับไปไหนเลยหลังจากที่มัน set แล้ว! ทาไว้ตรงไหนก็อยู่ตรงนั้นเลย ตัว topcoat มันจะเหมือนกับคอย “seal” สีไว้บนปาก ไม่ให้ขยับไปไหน ทาแล้วทีนี้คุณจะไปกินข้าวดื่มน้ำหรือลั้ลลาเม้าท์มอยอะไรก็แล้วแต่ รับรองสีไม่มีขยับค่ะ ไม่มี fade ไม่มี smudge ติดมันอยู่อย่างนั้นแหละ ปกติแล้วหลังเราทานข้าวเสร็จเราจะซับปากด้วยกระดาษทิชชู่ ถ้าเป็น lip product ตัวอื่น ๆ ปกติก็จะเห็นสีลิปสติกติดออกมาบ้างบนกระดาษ แต่สำหรับ Aqua Rouge ตัวนี้ไม่มีอะไรติดมาบนกระดาษเลยค่ะ! สีมันติดทนจริงอะไรจริง อย่างเดียวที่จะเอาสีออกได้คือต้องล้างด้วย oil-based makeup remover เท่านั้น ดังนั้น claim ที่เขาบอกว่าเป็น waterproof อันนี้เรื่องจริงเลยค่ะ เราเห็นด้วยสุด ๆ ที่น่าเสียดายคือตัว gloss ที่มันจะติดไม่ทนเท่า มันจะ fade นะแต่พอมัน fade แล้วทีนี้สีก็จะกลายเป็นแบบ staining effect ไป ถ้าใครชอบก็แค่เพิ่ม gloss ทับ เท่านี้ปากก็กลับมาสวยเหมือนเดิม


เราคิดว่า Aqua Rouge ตัวนี้น่าจะเหมาะกับสาว ๆ ที่ไม่ค่อยชอบเติมเครื่องสำอางระหว่างวัน หรือ คนที่มีปัญหาลิปสติก bleed หรือ feather ออกนอกขอบปาก ตัวเราเองปกติก็ไม่ค่อยได้ touch up เท่าไหร่ นอกจากว่าจะต้องออกไปไหนหลังเลิกงาน ถ้าวันไหนรู้ว่าต้องไปไหนต่อเราก็จะจัดตัวนี้เลย เพราะรู้ว่าไม่ว่ายังไงสีก็ติดทนแน่นอน ตัวนี้เขาทำออกมาหลายสีมาก มีตั้งแต่สีออกนู้ด ๆ ไปจนถึงแดง แดงเข้ม และชมพู hot pink ดังนั้นต้องมีซักสีที่คุณน่าจะชอบ เราแนะนำตัวนี้ค่ะ :)