เราตื่นเต้นดีใจมากนะตอนที่รู้ว่า Make Up For Ever เขาทำสูตร powder eyeshadow ของเขาใหม่ เราอยากลองหลายสีอยู่เหมือนกันแต่ว่าป๊อด ไม่กล้าจ่าย $21 ต่อสี ดังนั้นตอนที่เราเห็น Artist Palette นี้เรารีบพุ่งตัวเข้าซื้อเลย! แหม ได้อายแชโดว์ตั้ง 8 สีในราคาเทียบได้กับแค่ 2 สีถ้าซื้อขนาดเต็ม ใครจะไม่คว้าเนอะ! มันก็จริงที่ว่าได้ปริมาณน้อยกว่าขนาดจริงแต่ว่าเราก็ไม่เคยใช้อายแชโดว์หมดอยู่แล้ว ไม่ว่าจะขนาดเล็กใหญ่แค่ไหนก็ตาม ดังนั้นเราคิดว่าพาเล็ทนี้คุ้มค่าค่ะ! :)


Make Up For Ever Artist Palette (ตอนนี้มีขายที่ Sephora แห่งเดียวเท่านั้น) เป็นพาเล็ทขนาดเล็กและแบนมาก ฝาด้านนอกจะเป็นดีไซน์ที่บอกไว้เลยว่าสีอายแชโดว์ข้างในมีสีอะไรบ้าง ซึ่งเราก็ว่าดีนะ (นึกถึงตอนเวลาเราต้องคอยเปิดดูพาเล็ทแต่ละอันว่าข้างในมีสีอะไรบ้างสิ อันนี้ประหยัดเวลาไปได้เยอะเลย!) ตัวพาเล็ทมีกระจกด้านใน และมีอายแชโดว์มาให้ทั้งหมด 8 สี (ทุกสีเป็น permanent หมด) มีแบบ matte 1 สี, iridescent 2 สี, diamond 2 สี และ metallic 3 สี นอกจากนี้ก็มีแปรงขนาดจิ๋วมาให้ด้วย 2 อัน (a 214P Small Precision Crease Brush and a 226P Medium Eye Shader Brush)

ขนแปรงมันก็นุ่มดีอยู่ ไม่ขีดข่วน แต่ว่าด้ามมันนี่เล็กและบางมากทำให้ถือไม่ค่อยถนัด มันเป็น “palette brushes” จริง ๆ ค่ะ คือคุณภาพมันไม่ดีมากนักและก็เทียบกันไม่ได้เลยกับแปรงขนาดจริง แต่ว่าพอเวลาเดินทางหรือไม่มีอะไรจะใช้จริง ๆ มันก็พอถูไถไปได้ค่ะ อย่างน้อยเราก็ดีใจที่มันไม่มาเป็นแปรง 2 หัว! เราไม่ชอบเลยแปรง 2 หัวเนี่ยะ เพราะว่าเราเก็บมันแบบตั้งไม่ได้!
เราชอบนะที่แปรงอันนึง (214P) มีลักษณะปลายแหลมคล้ายดินสอ เพราะเรามีไม่เคยพอเลยแปรงลักษณะนี้ เราใช้มันบ่อยมากในการลงอายไลน์เนอร์หรือไว้ smudge ขอบตาล่าง (ถึงแม้ว่าแปรงอันนี้จะดีไซน์มาไว้เป็น “crease” brush ก็ตาม)
Color Selection

เนื้อชาโดว์ของ Artist Palette นี้นุ่มแบบ buttery soft เลยค่ะ แถมสีก็เข้มและแน่นมาก ๆ ทุกสีนี่ pigmented จริง ๆ แค่แตะแปรงลงไปเบา ๆ ก็ได้สีขึ้นมาเยอะเกินพอแล้ว สีเด่นเห็นชัดบนผิวเราได้อย่างดีด้วย range ของสีก็ดีเยี่ยม! มีทั้งสีแบบ neutrals ทางด้านซ้าย และ jewel-toned colors ด้านขวาซึ่งเป็นสีสดและสว่างสวยมาก เราชอบ color selection ของพาเล็ทนี้จริง ๆ แต่ก็แอบมีคิดนึดนึงว่าถ้ามันมีสีแบบขาวครีม น้ำตาลเข้มปานกลาง หรือดำเนื้อแม็ทมาด้วยนี่ก็จะยิ่งดีไปกว่านี้ เพราะ 3 สีนี้คือสีที่เราใช้บ่อยมากในการแต่งตาเรา แต่จริง ๆ แล้วก็ไม่ได้อะไรมากค่ะ เพราะว่าหาสีแบบนี้ได้จากพาเล็ทอื่น ๆ ได้อย่างสบายอยู่แล้ว
เนื้อชาโดว์ติดทนนานดีด้วย ถึงแม้ว่าจะทาบนตาที่ไม่ได้ลง eye primer ไว้ก่อนก็ตาม ไม่มีตกตามรอยพับ ติดทนหลายชั่วโมงเลย! แต่ว่าถ้าใครหนังตามัน ลง eye primer ไว้ก่อนทุกครั้งจะดีที่สุดค่ะ อย่างน้อยก็จะช่วยให้สีคงความสดใสไว้ทั้งวัน


The breakdown and swatches

L-R: M-536 Milk Tea, I-524 Pinky Beige, I-550 Olive Gray, D-652 Celestial Earth,
ME-728 Copper Red, ME-230 Peacock Blue, D-926 Blueberry, and ME-930 Black Purple
Click here to enlarge

L-R: M-536 Milk Tea, I-524 Pinky Beige, I-550 Olive Gray, D-652 Celestial Earth,
ME-728 Copper Red, ME-230 Peacock Blue, D-926 Blueberry, and ME-930 Black Purple
- M-536 Milk Tea – a light brown; matte
สีนี้ใกล้เคียงกับผิวเรามาก ดังนั้นเราจะใช้มันเป็นสี base ซะส่วนใหญ่ เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย ทาแล้วไม่มีเป็น chalky หรือเป็นปื้น ๆ แต่อย่างใด เป็นสีแม็ทที่ทำออกมาได้ดีมากค่ะ - I-524 Pinky Beige – a pink champagne; iridescent
สีไฮไลท์แสนสวย! เราชอบที่ iridescent effect ของมันไม่สว่างเกิน (บางสีที่เคยใช้มานี่สว่างเกิน ทาบนผิวเราแล้วทำให้ดูหลอก ๆ) สีนี้เนื้อนุ่มและเนียน แต่ว่าสัมผัสแล้วรู้สึกแห้งเมื่อเทียบกับสีอื่น แต่ยังไงก็ทำงานได้ดีเยี่ยมอยู่ค่ะ - I-550 Olive Gray – a taupe brown; iridescent
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมตั้งชื่อสีนี้ว่าเป็นสี Olive Gray เพราะเราเห็นแต่สีน้ำตาลกับ taupe คือสีเทามีแน่นอน เห็นอยู่ แต่ olive นี่ยังไงก็ไม่เห็นอ้ะ สีนี้ทาทั่ว ๆ ตาหรือลงบริเวณ crease จะสวยมากค่ะ เนื้อนุ่มเนียน และ blend ง่ายมาก - D-652 Celestial Earth – a bronze brown; diamond
finish แบบ “diamond”? เราว่าจริง ๆ แล้วมันก็คือ iridescent นั่นแหละแต่มี glitter เป็นเม็ด ๆ ชัดเจนผสมอยู่ด้วย สีนี้มี glitter สีทองผสมอยู่ทั่วเลยค่ะ แต่ที่น่าแปลกใจคือพอทาแล้วแทบจะไม่มี fallout เลย สีสดและ pigmented ดีมาก เนื้อก็เนียน ทาแล้วเรียบเสมอกันและไม่รู้สึกสากแต่อย่างใด - ME-728 Copper Red – a metallic coppery gold; metallic
สีนี้ถือว่าเป็นสี superstar เลย! เราชอบที่มันเป็นสีสว่างสดและ metallic แวววาวมาก! เป็นสีที่ทาทั่วตาแล้วสวยมากจริง ๆ ค่ะ แถม color payoff นี่ก็ดีเริ่ด ทาบาง ๆ จะได้ตาประกายวับ ๆ แต่ถ้ายิ่ง pack สีลงไปเพิ่มขึ้น ๆ ก็จะได้ finish แบบ metallic เต็มสตรีมเลย เนื้อก็แสนนุ่ม ทาง่ายจริง ๆ ค่ะ - ME-230 Peacock Blue – a teal blue; metallic
อีกหนึ่งสีที่ไม่ธรรมดา! สีนี้ก็สวยมากแต่ว่าเนื้อมันจะบางกว่าสีอื่นนิดหน่อย และก็ไม่รู้สึก creamy เท่าสีอื่น แต่ว่าก็ยังคงนุ่มใช้ได้อยู่ค่ะ สีเข้มและสดดี แล้วก็ลงนิดเดียวก็ได้สีออกฟ้า metallic แล้ว เราชอบที่สีมัน blend ง่ายด้วยเพราะสีฟ้าส่วนมาก blend ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ - D-926 Blueberry – a violet purple; diamond
เราว่าสีนี้มันม่วงแบบ “violet” เกินกว่าที่จะเรียกว่าเป็นสี Blueberry นะ ;D นี่ก็เป็นอีก 1 สีที่มี finish เป็นแบบ “diamond” ค่ะ ก็คือเป็น iridescent และมี glitter สีเงินและสีฟ้าอมม่วงผสมอยู่ด้วย สีนี้เหมือนกับ Celestial Earth ตรงที่มันทาได้เนียนดี เนื้อนุ่ม blend ง่าย แต่ว่าสีจะบางกว่าสี Celestial Earth หน่อย สีนี้เป็นม่วงที่สวยนะคะ ทาบาง ๆ เบา ๆ ก็ได้หรือจะอัดแน่นลงไปให้ได้ look แบบ dramatic ก็ได้ - ME-930 Black Purple – a dark eggplant purple; metallic
สีนี่เป็นสีโปรดเราเลย! เราจะใช้ลงบริเวณ outer corner และจะใช้เป็น liner ซะส่วนใหญ่ เราว่าสีมัน versatile ดี จะใช้คู่ไปกับ color combination ไหนก็ได้ สีนี้เขาบอกว่ามี finish เป็นแบบ metallic แต่เราว่ามันออกไปทาง creamy satin มากกว่าอ้ะ ส่วน color payoff นั้นก็แจ่มมากค่ะ แตะ ๆ เบา ๆ ก็ได้สีมาเยอะเกินพอแล้ว สีนี้สัมผัสแล้วนุ่มมาก แต่ว่ามันจะป่น ๆ เป็นผง ๆ ออก powdery เล็กน้อย ทำให้ลงแล้วมี fallout สูงหากไม่เคาะแปรงให้ดีก่อนทา
The eye look

สำหรับ look นี้เราลง Copper Red ให้ทั่วเปลือกตาและลง Blueberry ตรง outer lid จากนั้นเราใช้สี Celestial Earth เป็นสี transition ขึ้นไปหา 2 สีผสมกันคือ Milk Tea กับ Pinky Beige ใต้โหนกคิ้ว เราใช้ Black Purple เป็นสีลงตรง outer corner และลากลงมาที่ outer lower lash line ด้วย ส่วน inner lower lash line เราใช้ 2 สีผสมกันคือสี Peacock Blue และ Blueberry ตบท้ายด้วยสี Pinky Beige บริเวณหัวตา inner corner ค่ะ

หวังว่าคงจะชอบ look นี้กันนะคะ! :)
พาเล็ทนี้พูดถึงแล้วเรา happy มากที่ซื้อมา แล้วก็ซื้อง่ายด้วย ไม่ต้องคิดลังเลเลย อาจเป็นเพราะว่าเราชอบสีประมาณ jewel tones มากอยู่แล้วด้วย จริง ๆ แล้วเราเกือบพลาดซื้อพาเล็ทนี้นะหากไม่ได้เห็นรีวิวของ Christine ซึ่งเธอ rate ทุกสีเป็น A หมดด้วย เราจึงมั่นใจเลยว่าจะต้องเป็นพาเล็ทที่ดีคุ้มราคา ตั้งแต่เราได้พาเล็ทนี้มาเราก็เล่นกับมันมาเรื่อย ๆ create look นั้น look นี้ไปตามเรื่องตามราว สนุกดี บางทีก็ใช้แต่สีในพาเล็ท บางทีก็ใช้กับสีอื่นจากพาเล็ทอื่นเช่น Urban Decay Naked Basics หรือ Chanel Charming ด้วยเช่นกัน เราคิดว่าทั้ง 2/3 พาเล็ทนี้สามารถนำมาใช้ร่วมกันและถือเป็น travel companion ที่ perfect มากค่ะ :)
แล้วคุณมีอายแชโดว์ของ Make Up For Ever มั้ยคะ? คุณชอบสูตรใหม่ของมันมั้ย?
พี่จ๋าสวยอีกแย้วววว แมทกะสีเสื้อด้วย
เออเนอะ จริงอ้ะ ช่างสังเกตนะเรา!