“Industrial strength” และ “light & creamy” เป็น keywords สำหรับ concealer ตัวนี้เลย ปกติแล้ว 2 คำนี้ไม่ค่อยไปด้วยกันนะ แต่เราว่ามันช่างเป็นคำบรรยายที่เหมาะสมที่สุด!

Full Cover concealer จาก Make Up For Ever ตัวนี้ทำขึ้นมาโดยเฉพาะสำหรับปกปิดพวกรอยด่างดำ รอยแผลเป็น สีผิวไม่สม่ำเสมอ รวมถึงรอยสักด้วย เขารับรองเลยว่ามันจะปกปิดหมดทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นรอยอะไรก็ตามที่คุณมีปัญหาอยู่ ตัว liquid concealer นี้มาในหลอดแบบบีบค่ะ สะดวกสบายดีเวลาใช้ ตัวหลอดเป็นพลาสติกใส ฝาสีดำหมุนเปิดปิดธรรมดา ตรงปลาย tip ของหลอดมี opening ที่ขนาดเล็กมาก สามารถกะได้ง่ายว่าจะบีบเอา concealer ออกมามากน้อยแค่ไหนซึ่งก็ดีทำให้ไม่บีบเยอะเกินและไม่เปลือง ปกติเราก็ชอบอะไรที่มาในหลอดบีบแบบนี้อยู่แล้วเพระว่ามันสะอาดกว่าที่มาเป็นแท่งหรือมาในตลับ เราซื้อเบอร์ #7 Sand มาซึ่งเข้ากับสีผิว NC30 ของเราพอดีเป๊ะ ตัวนี้เขาบอกว่าเป็นกันน้ำ ไม่ทำให้เกิดสิว ปราศจากน้ำมันและน้ำหอมด้วย (แต่ว่ามี silicone ผสมอยู่นะ) นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนผสมของ Serma Sensitive – เป็นตัวป้องกันการอักเสบ และ Allantoin – เป็นตัวผสานและฟื้นฟูผิว เออ ฟังดูแล้วมันใช่เลยอ้ะ เหมาะกับเอาไว้ปกปิดรอยสิวเราที่สุด!

อย่างที่บอกไป ตัวนี้เป็น industrial strength concealer คือมันจะเป็น full coverage เลย และ pigmented มาก ๆ ซึ่งก็หมายความว่าแต่ละครั้งใช้แค่นิดเดียวพอ หลอดนึงจะใช้ได้นานเลยทีเดียว เนื้อครีมจะค่อนข้างหนานิดนึงถ้าลองจับ ๆ ดูแต่ว่าพอทาลงไปบนผิวแล้วไม่หนักค่ะ ก็เบาสบายดีปกติ ตัวนี้เกลี่ยง่าย เกลี่ยไปได้ดี แต่ว่ามันจะแห้งค่อนข้างเร็วนิดนึงดังนั้นเวลาใช้ต้องเกลี่ยเร็ว ๆ ถ้าบนหน้ามีหลายจุดต้องปกปิด แนะนำให้ลงทีละจุดค่ะ ตัวนี้พอแห้งแล้วจะให้ finish ออกประมาณ matte กึ่ง ๆ powdery นิด ๆ และเนื่องจากมันเป็น waterproof ดังนั้นมันติดทนนานทั้งวันค่ะ

เพื่อให้ได้ finish ที่ดูเป็นธรรมชาติเหมือนผิวมากที่สุด แนะนำว่าให้บีบตัวนี้ออกมาบนนิ้วมือแล้วแตะ ๆ นิ้วมือเข้าหากันเพื่อ warm มันก่อนใช้จะทำให้ทาง่ายขึ้น จากนั้นก็ dab คือแตะ ๆ ลงไปบนบริเวณที่ต้องการปกปิด เช่น สิวหรือรอยแผลเป็นจากสิว จากนั้นก็ค่อย ๆ tap คือกด ๆ ตบ ๆ เบา ๆ ลงไปบนผิวเพื่อเกลี่ย อย่าไปถู หากยังคงเห็นรอยขอบ ๆ อยู่หลังจากเกลี่ยแล้วก็ให้ตามด้วยแปรง concealer อันเล็ก ๆ หรือแปรง blending เล็ก ๆ ที่ขนฟู ๆ หน่อยเพื่อช่วยเกลี่ยให้เนียนขึ้น ถ้าใช้ตัวนี้อย่างถูกวิธี รับรองไม่มี cake จับกันเป็นก้อน ๆ หรือดูหนาหนักอะไรทั้งสิ้น เรากลับรู้สึกว่าตัวนี้เบาดีด้วยซ้ำ แล้วก็ไม่ได้ทำให้ผิวเรารู้สึกแห้งแต่อย่างใดเลย ถึงแม้ว่าจะทาทิ้งไว้มากกว่า 10 ชม. ก็ตาม

ส่วนเรื่องที่ว่ามันจะช่วยลบรอยใต้ตาดำมั้ย คือตัวนี้เขาไม่ได้ทำมาเพื่อไว้ใช้ใต้ตาหรอกนะคะ แต่เราก็ลองดู ปรากฏว่าเรารู้สึกว่ามันแห้งเกินไปที่จะไว้ใช้ใต้ตาค่ะ เพราะมัน set เร็ว แห้งเร็ว และมันก็ค่อนข้างจะเกลี่ยไปยากโดยเฉพาะบนผิวที่แสนจะบอบบางบริเวณใต้ตา แต่ถ้าลองใช้ในปริมาณที่น้อยมาก ๆ แล้วก็ทาลงบนผิวที่ชุ่มชื้นหน่อย ๆ หรือทาทับ eye cream ที่แห้งแล้ว อันนี้ก็จะช่วยให้ concealer ตัวนี้เกลี่ยได้ง่ายขึ้นและก็ไม่ตกตามริ้วรอย ไม่ crease แต่ว่ายังไง ๆ ก็ยังจะรู้สึกแห้ง ๆ อยู่ดีหลังจากเกลี่ยแล้ว ดังนั้นเราไม่ขอแนะนำให้ใช้ตัวนี้ใต้ตาค่ะ ส่วนเรื่องที่ว่ามันจะกลบรอยสักมั้ย อันนี้เราก็ไม่มีให้กลบอ้ะนะคะ แต่เราคิดว่ามันน่าจะใช้ได้อยู่ แต่อาจจะต้องลงหลายชั้นหน่อย และอาจจะต้องใช้พวก foundation powder ช่วยด้วยระหว่างชั้น


เราอ่านเจอรีวิวที่เขาบอกว่าตัวนี้มันจะ oxidize สีเข้มขึ้นระหว่างวันด้วยนะ แต่เราไม่เจอเหตุการณ์แบบนั้นบนผิวเราค่ะ เราทาไว้ยังไงตอนเช้ามันก็ยังคงเป็นแบบนั้นไปทั้งวันนะ เราไม่มีปัญหากับเรื่องสีเข้มขึ้นเลย ถ้าใครไม่แน่ใจแนะนำให้ไปลอง sample สีที่อ่อนกว่าและเข้มกว่าสีผิวด้วยแล้วดูว่าสีไหนจะให้การปกปิดที่ดีที่สุดสำหรับสีผิวของคุณ
ถ้าใครกำลังมองหา concealer ดี ๆ ซักตัวที่ปกปิดดีเยี่ยม ติดทนทั้งวัน และน้ำหนักเบา แถมดูเป็นธรรมชาติ เราคิดว่าน่าจะลองตัวนี้ดูค่ะ ตัวนี้ถือว่าเป็นหนึ่งในบรรดา concealer ที่เราไว้ใจและเชื่อใจมากว่ามันจะไม่ fade ระหว่างวันโดยเฉพาะวันที่เราสิวพรึ่บเต็มหน้า!! หลอดนึงราคาจะแพงสักนิด แต่ว่าอย่างที่บอกได้ผลิตภัณฑ์มาเยอะมาก ใช้กันนานเลยล่ะค่ะกว่าจะหมด สรุปแล้ว ตัวนี้แนะนำค่ะ :)
my fav concealer! I have not bought any new concealer since i started using this. LOVE!!
Why are you commenting on the Thai version? LOL!
I don’t know. It felt right LOL
หาซื้อได้ที่ไหนบ้างหรอค่ะ
เคาน์เตอร์ Make Up For Ever ที่ห้างค่ะ