รีวิว Marc Jacobs Style Eye-Con No.7 Plush Shadow Palette สี The Lover 220

ตอนเราเห็น Marc Jacobs Style Eye-Con No.7 Plush Shadow Palette สี The Lover 220 ครั้งแรกนี่เราแบบรู้เลยว่าสีนี้ไม่น่าจะเหมาะกับผิวเราแน่นอน แต่เราก็ยังฝืนซื้อมาค่ะ เพราะอะไรน่ะรึ? ก็เราเป็นคนชอบอายแชโดว์สีชมพูมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ทีนี้พอเอาชมพูหลาย ๆ แบบมารวมกันไว้ในพาเล็ทเดียวแบบนี้ มันก็เกินจะห้ามใจไหวสิคะ! คือเรารู้สึกชอบหน้าตามันด้วยค่ะ มันดูเบา ๆ สะอาด ๆ หญิง ๆ เรียบ ๆ ดี สี Lover 220 นี้ถือว่าเป็นพาเล็ทสีอ่อนที่สุดของ Style Eye-Con No.7 Plush Shadow Palette ที่มีขายอยู่ ณ ตอนนี้เลยค่ะ

Marc Jacobs Style Eye-Con No.7 Plush Shadow Palette นี่ถือเป็นพาเล็ทที่ sleek มากค่ะ! ยาว บาง ถือจับง่ายมาก ๆ ส่วนผิวสีดำล้วนอันแสนเงางามนั้นก็ทำให้ดีไซน์ของพาเล็ทดูเรียบง่ายแต่ว่าทันสมัย ฝาพาเล็ทเปิดด้วยการกดปุ่มสีเงินเบา ๆ เปิดออกมาก็จะเห็นกระจกยาวไปตามฝา ส่วนด้านบนสีอายแชโดว์ก็จะมีแผ่นพลาสติกสีดำปิดไว้อยู่ ตัวพาเล็ทมาพร้อมกับถุงกันรอยสีดำเช่นกัน (ลักษณะเดียวกันกับแบบนี้เป๊ะ) อีกอย่างที่หลายคนอาจไม่ทราบคือพาเล็ทนี้เขามีแปรงทาอันจิ๋วหัวฟองน้ำมาให้ด้วยนะคะ แต่ว่ามันอยู่อีกด้านนึงเลยของถุงกันรอย ต้องค่อย ๆ ล้วงออกมาค่ะ

At a glance

พาเล็ท The Lover 220 มีสีอายแชโดว์ทั้งหมด 7 สี สีส่วนมากเป็นสีชมพู แต่ก็มีสีคอปเปอร์กับน้ำตาลปนมาด้วย ส่วนเนื้อสีมีคละกันมาอย่างลงตัวค่ะ คือมีเนื้อแม็ท (x3) เนื้อชิมเมอร์ (x1) และเนื้อเมทาลิค (x3) ทั้ง 3 แบบนี้คุณภาพดีมาก ๆ ทาแล้วแทบไม่มีเม็ดสีร่วงหล่นเลย แถมเกลี่ยง่ายสุด ๆ อีกด้วย เนื้อนุ่มเหมือนครีมเหมือนเนยเลยโดยเฉพาะสีแม็ท ทาแล้วติดกับผิวดีตลอดวันด้วยแม้จะไม่ได้ทาทับอายไพรเมอร์ก็ตาม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งข้อดีที่เราสังเกตได้จาก Marc Jacobs Style Eye-Con No.7 Plush Shadow Palette ทุกอันที่เรามีค่ะ

อย่างที่บอกไว้แล้วนะคะ ว่าพาเล็ทนี้จัดสีชมพูหนักมาก และความเข้มของทุกสีก็อยู่ในระดับเบามากถึงปานกลางเท่านั้น พาเล็ทนี้ก็เลยไม่ใช่พาเล็ทที่ทำออกมาแล้วใช้ได้ดีกับทุกคน สำหรับคนที่ผิวคล้ำหน่อยก็อาจจะรู้สึกว่าสีทั้งหมดนี้มันเบาเกินทาออกมาแล้วก็อาจกลายเป็นสีไฮไลท์ไปหมด ส่วนคนที่ชอบแต่งตาแบบมีมิติชัดเจน ก็อาจจะสังเกตเห็นเลยว่าพาเล็ทนี้มันไม่มีสีเข้มไว้สำหรับสร้าง contrast ชัด ๆ เลย ส่วนใครที่มองหาสีแปลกใหม่ก็อาจจะพบว่าพาเล็ทนี้ไร้ซึ่งความหลากหลาย แถมแต่ละสีก็หา dupe ง่ายอีกต่างหาก

อ้าว แล้วใครน่าจะชอบพาเล็ทนี้ล่ะ? เราคิดว่าน่าจะเป็นคนที่:

• ชอบสีชมพูอ่อนและสีใกล้เคียงมาก!
• กำลังมองหาพาเล็ทที่สีเบามาก ๆ และทาง่าย
• กำลังมองหาสีที่เป็นไฮไลท์ซะส่วนใหญ่ (สำหรับคนผิวคล้ำ)
• กำลังมองหาพาเล็ทที่เต็มไปด้วยสีเข้มปานกลางเท่านั้น
• ชอบสีที่ออกเบา ๆ หญิง ๆ
• พบว่าพาเล็ทนิวทรัลที่มีอยู่มันนิวทรัลไม่พอ (จริง ๆ นะ เราว่ามันไม่น่าจะมีพาเล็ทอะไรที่นิวทรัลไปมากกว่า The Lover 220 อีกแล้ว!)
• ชอบสีที่แบบทาแล้วเหมือนไม่ได้ทาอะไรมา ชอบสีที่เนียน ๆ เป็นธรรมชาติไปกับผิว
• เป็นแฟนตัวยงของ Marc Jacobs Style Eye-Con No.7 Plush Shadow Palette ;)

ตัวเราเองก็ตกอยู่ในหลายกลุ่มที่กล่าวมานี้ เราก็เลยไม่ได้ลังเลใจที่จะซื้อพาเล็ทนี้เลยค่ะ! :)

Shade breakdown

• #1 – baby pink; matte
  เนื้อนุ่มเหมือนเนยเลย เป็นสีเบสที่ทาแล้วทำให้เปลือกตาดูสว่างขึ้น สีนี้อาจจะดู chalky บนแขนเราแต่ว่าทาบนตาแล้วไม่เลยค่ะ สีเป็นสีทึบและเกลี่ยง่าย
• #2 – sandy pink; metallic
  เนื้อของสีนี้นุ่มอย่างกับครีมแถมเนื้อละเอียดด้วย ความเข้มสีก็เข้มสวยงาม สามารถเกลี่ยให้บางได้มากตามที่ต้องการ จะทาเบา ๆ ให้ได้ความเงาแบบเมทาลิคบาง ๆ ก็ได้หรือจะทาทับ ๆ ให้ได้ชีนที่เหลือบมากขึ้นก็ได้ สีสวยค่ะสีนี้
• #3 – light caramel sheen; shimmery
  สีนี้จริง ๆ แล้วมีชิมเมอร์สีทองละเอียดผสมอยู่ด้วย แต่ว่ามันมองไม่เห็นบนแขนเรา สีนี้เนื้อบาง (แต่ว่า build ได้) เราก็เลยชอบเอาไว้ทาทับเปลือกตาเป็นสเต็ปสุดท้ายเพื่อเพิ่มความระยิบระยับให้กับตาเล็กน้อย เราชอบสีนี้ตรงที่มันเกลี่ยเข้ากับสีอื่นได้สวยงามมากค่ะ
• #4 – apricot-rose; matte
  เป็นอีกหนึ่งสีแม็ทที่ไม่ powdery หรือ chalky แต่อย่างใดเมื่อทาไปบนเปลือกตา ความเข้มสีชัดเจนสวยงาม build ได้ เราชอบใช้สีนี้เป็น transition color ค่ะ
• #5 – copper rose; metallic
  สีนี้ดูผิวเผินแล้วอาจจะไม่เข้าพวกแต่ว่าจริง ๆ เราชอบนะที่มีสีนี้มาด้วย มันทำให้พาเล็ทน่าตื่นตาตื่นใจขึ้นอีกนิด เพราะคุณสามารถแต่งชมพูก็ได้หรือแต่งน้ำตาลผสมคอปเปอร์ก็ได้ด้วย เนื้อสีก็เยี่ยมมากค่ะ นุ่มมาก สีแน่นมากด้วย เกลี่ยก็ง่าย ทาแล้วจะได้ความเงาบนเปลือกตาแบบเมทาลิคสวยงาม
• #6 – seashell pink; metallic
  เนื้อของสีนี้จะใกล้เคียงกันมากกับ #5 คือเนื้อนุ่มเหมือนเนย สีเข้มแน่นชัดเจน สีนี้เป็นสีโปรดของเราค่ะ เป็นสีที่ทาง่าย ไม่ต้องใช้ความคิดเยอะ เกลี่ยง่าย build ให้เข้มขึ้นก็ง่าย แต่ว่าความสว่างแบบเมทาลิคอาจจะยังด้อยกว่าสี #5 หน่อย แต่ว่าก็โอเคกับเราค่ะ หากสว่างไปมากกว่านี้อาจจะดูหลอกบนผิวเราได้
• #7 – cappuccino/medium brown; matte
  สีนี้เป็นสีเข้มที่สุดของพาเล็ทค่ะ และเราก็คิดว่าเขาทำให้สีออกมาเป็นแบบนี้เพื่อสร้างมิติให้กับตาแบบเบา ๆ เท่านั้น ไม่ใช่ให้ได้มุมตาเข้มลึกมีมิติชัดเจนอะไร สีนี้เกลี่ยง่าย เข้ากับสีอื่น ๆ ของพาเล็ทได้เป็นอย่างดี เราชอบเนื้อมันมากด้วยค่ะ นุ่มลื่นอย่างกับไหม ไม่มีความรู้สึก chalky หรือ powdery แต่อย่างใด

Close-up

Eye look

สำหรับ look นี้เราลงสี seashell pink #6 ลงบน 2/3 ของเปลือกตาบนด้านในค่ะ ส่วนอีก 1/3 ด้านนอกเราลงสี copper rose #5 ส่วนมุมตาด้านนอกเราเน้นให้เข้มขึ้นนิดนึงด้วยสี matte cappuccino #7 จากนั้นเราใช้สี apricot-rose #4 เป็นสี transition shade และใช้สี baby pink #1 เป็นสีไฮไลท์คิ้ว สเต็ปสุดท้ายเราลงสี sandy pink #2 เบา ๆ ที่มุมตาด้านในและ smudge สี copper rose #5 ไปตามขอบตาล่างค่ะ

รูปหน้าเต็ม:

เห็นมั้ยคะว่าสีมันเบามาก และดูเนียนไปกับผิว ดูเหมือนไม่ได้ทาอะไรมา แต่ว่าก็ยังพอมองเห็นว่ามีอะไรอยู่บ้างเหมือนกัน ซึ่งก็เป็น look ที่บางทีเราก็รู้สึกอยากแต่งให้ได้แบบนี้ และเพื่อเพิ่มความคมให้กับตามากขึ้นเราจะตามด้วยอายไลน์เนอร์สีน้ำตาลอมดำไปตามขอบตาบนและล่างด้วยค่ะ เพราะเราเป็นคนตาเล็กมาก หากไม่เขียนอายไลน์เนอร์เลยตาจะดู naked เกินไปนิด สี The Lover 220 นี้เขาบอกมาว่าเป็นสี limited-edition นะแต่ครั้งสุดท้ายที่เช็คก็ยังมีของในสต็อกอยู่ ส่วนพาเล็ทของ Marc Jacobs ที่เราจะรีวิวถัดไปคือสี The Vamp 208  ค่ะ ซึ่งเป็นพาเล็ทที่มีสีสันมากกว่าพาเล็ทนี้มาก เดี๋ยวเราจะสร้าง look สนุก ๆ มาแชร์กับทุกคนค่ะ

Purchase