ปกติเวลาซื้ออายแชโดว์นี่เราไม่ค่อยจะซื้อที่เป็นสีเดี่ยว ๆ เท่าไหร่นะ นอกจากอันที่เป็นแบบ refill ที่เอามาใส่ customized palette ของตัวเองถึงจะซื้อ แต่ว่าพอตอนที่ได้มาเห็น Dual-Intensity Eyeshadow ตัวใหม่ของ NARS อันนี้ ก็เกิดความอยากรู้อยากเห็นว่ามันจะดียังไงน้อ อายแชโดว์ที่สามารถทาได้ทั้งแบบแห้งและเปียก แถมราคาอันนึงตั้ง $29 แน่ะ! มันต้องทำงานดีมาก ๆ เกินคาดแน่ ๆ! ก็เลยเอาน่ะ! ซื้อมาลองดูก็ได้!

NARS Dual-Intensity Eyeshadow collection ใหม่นี้มีสีทำมาทั้งหมด 12 สีค่ะ ที่เรารีวิววันนี้คือสี Phoebe ที่เขาอธิบายมาว่าเป็นสี “deep shimmering amethyst” ซึ่งมันก็ใช่ แต่ถ้าจะให้เราอธิบายสีมันเราว่ามันออกประมาณ multidimensional silvery plummy purple with red undertones แล้วบวก blue sparkles เข้าไปอีกด้วย! คือสีมัน complex จริง ๆ น่ะค่ะ เลยอธิบายให้แน่นอนยากว่าสีเป็นยังไง ตัว shimmer มันนี่สะท้อนแสงเจิดมาก ทำให้เวลาหมุน ๆ กระทบแสงแล้วจะออกกลายเป็น iridescent เลย
ส่วน packaging ก็สูตรเดิมของ NARS ค่ะ เป็นสีดำ rubberized ทรงสี่เหลี่ยม ขนาดเล็กมาก (1.5″ x 1.5″) ฝาปิดด้วยแม่เหล็ก และข้างในมีกระจกด้วย ขนาดจิ๋วน่ารักเชียว คือตลับเล็ก ๆ อย่างนี้เนี่ยะมันก็ดีอยู่นะคะเพราะว่าพกพาไปไหนมาไหนง่าย แต่เราก็อดคิดไม่ได้ว่าถ้าโยนลงไปในกระเป๋าเครื่องสำอางที่มีของอื่น ๆ รวมอยู่ด้วยเยอะเนี่ยะ มันจะหายไปหาไม่เจอเลยรึเปล่า เพราะเล็กเหลือเกิน! :D


เนื้อของ Dual-Intensity shadow นี้มันแตกต่างจากอายแชโดว์ทั่วไปอยู่เหมือนกันนะ คือเนื้อมันรู้สึกอย่างกะครีมแทนที่จะรู้สึกแบบแป้งผง ๆ มันนุ่มและเนียนมาก รุ่นนี้เขาบอกว่าจะทาแบบแห้งก็ได้เพื่อให้ได้สีบาง ๆ ที่มีความเงาเป็น luminous sheen หรือจะทาแบบเปียก (โดยใช้ dampened brush) เพื่อให้ได้สีเข้มและแน่นขึ้นบวกกับ metallic finish
ตอนทาแบบแห้ง สี Phoebe จะออกประมาณม่วงอมแดงที่เราว่าสวยมากเลยนะ แต่พอทาแบบเปียกปุ๊บสีมันจะกลายเป็นม่วงอมฟ้าไปเลยแล้วความระยิบระยับมันนี่จะเริ่ดมาก ดูแล้วออกเป็น metallic finish ทึบอย่างที่บอก สีจะป๊อบขึ้นมากกว่ามาก เนื้อของรุ่นนี้เกลี่ยได้ง่ายมาก ๆ ค่ะ ไม่ว่าจะลงแบบไหนก็ตาม เราสังเกตว่ามันมี fallout เหมือนกันนะ โดยเฉพาะเวลาที่ลงโดยใช้แปรงเปียก แต่ถ้าใช้แบบแห้ง ๆ ธรรมดาแทบจะไม่มีร่วงเลยค่ะ นอกจากนี้ NARS เขาก็ออกแปรง Wet/Dry Eyeshadow Brush #49 มาไว้ให้ใช้คู่กับอายแชโดว์รุ่นนี้ด้วย แต่เราว่าถ้าคุณมีแปรงที่หน้าตาลักษณะคล้าย ๆ กันอยู่แล้วก็ไม่จำเป็นต้องซื้อค่ะ
ความติดทนของ Phoebe นั้นถือว่า phenomenal เยี่ยมยอดหลุดโลกมาก โดยเฉพาะเวลาลงแบบแห้ง บนตาเราไม่มี crease, fade หรือ transfer แต่อย่างใด แต่ว่าตอนลงแบบเปียก เราแอบเห็นว่ามีหลุดบ้างเป็นจ้วง ๆ โดยเฉพาะบริเวณมุมตาด้านนอกที่บางทีเราจะน้ำตาไหลแล้วสีมันก็หลุดออกแหว่งไปเลย ดังนั้นแนะนำให้ลงทับ eye primer จะดีที่สุดค่ะ หรือจะแอบพกตัวแชโดว์ไปด้วยไว้เติมระหว่างวันก็ดี


The “dual” look

look นี้เราใช้อายแชโดว์สี Phoebe สีเดียวเท่านั้น เราลงแบบแห้งเบา ๆ ให้ทั่ว ๆ ตา จากนั้นก็สเปรย์แปรงให้เปียกแล้วก็ลงแบบเปียกบริเวณ outer third แล้วก็ตาม lower lash line จะเห็นชัดเลยนะคะว่าแบบแห้งจะได้สีประมาณม่วงอมแดง แต่แบบเปียกสีจะออกประมาณม่วงอมฟ้า metallic แทน ตอนนี้ก็คงเข้าใจแล้วนะตอนที่เราบอกว่าสีมันอธิบายยากจริง ๆ ว่าเป็นสีอะไร! ^_^
สีทุกสีของรุ่นนี้มันสวยมากจริง ๆ ค่ะ มันยากมากนะตอนที่เราเลือกว่าจะซื้อสีอะไรกลับมาดี เราดีใจที่ตัดสินใจเลือก Phoebe มาเพราะว่ามันเป็นสีที่สวยมาก ๆ ยิ่งเวลาโดนแสงกระทบแล้วนี่ งามจริง ๆ ค่ะ เราประทับใจกับสีนี้ แล้วก็ประทับใจ Dual-Intensity shadow โดยรวมด้วย กำลังคิด ๆ อยู่ว่าอยากจะซื้อเพิ่มอีกซักสีสองสี ตอนนี้กำลังเล็ง ๆ Giove และ Lysithea อยู่!
แล้วคุณลองอายแชโดว์รุ่นนี้รึยัง? คิดว่ายังไงคะ? แล้วคุณชอบทาอายแชโดว์ของคุณแบบแห้งหรือเปียก?
Purchase
US$29 at Sephora ○ Nordstrom ○ Neiman Marcus ○ Barneys
฿1,050 at Sephora Thailand
สีสวยมากกกกกกกกกก อลังการ
จัดเลย ๆ ;D