และนี่ก็คืออีกหนึ่ง item ที่เราซื้อมาพร้อมกับตัว illuminator จาก NARS Final Cut collection ค่ะ ซึ่งก็คือตัว Satin Lip Pencil สี Villa Lante นั่นเอง สำหรับ collection นี้มี lip pencils ทั้งหมด 4 สีค่ะ ซึ่งพูดถึงแล้วมันก็ยากมากเลยนะสำหรับเราที่จะต้องเลือกเอาแค่สีเดียว และที่เลือก Villa Lante มาก็เพราะว่าถ้าต้องเลือกระหว่างสีโทนชมพูกับส้ม เราก็ต้องเลือกชมพูอยู่แล้ว :D และทีนี้สีชมพูมีมา 2 สี คือสี Villa Lante กับ Stourhead ระหว่าง 2 สีนี้เราก็ต้องเลือก Villa Lante เพราะว่า Stourhead มันชมพูอ่อนเกินสำหรับผิวเรา เอาล่ะ ทีนี้ไปเข้าเรื่องรีวิวกัน :)


อย่างแรกก็คือ ไม่ได้คิดเลยว่า Villa Lante มันจะชมพู cool-toned ขนาดนี้! สีดูในด้ามมันแลดู warm นะ พอมา swatch บนแขนก็ดู warm แต่พอทาลงไปบนปากจริง ๆ แล้วแบบกลายเป็นชมพูสว่าง ๆ cool-toned เกือบจะเป็นชมพู Barbie ไปซะงั้น! เราก็มีตกใจ (ปนผิดหวัง) เล็กน้อย เพราะว่าเราอยากได้สีที่มันทาแล้วเป็นสีเดียวกับในแท่งเลย อันนี้ถ้าทาเดี่ยว ๆ บนปากแล้วมันจะดู stark ตัดกับผิวเราพอสมควรเลย แต่ว่าถ้าทาทับพวก lip liner ที่สีเข้มกว่าหน่อย หรือทับด้วยลิปกลอสอีกที อันนี้ก็จะทำให้สีมันเข้ากับผิว (more wearable) ได้ดีขึ้นค่ะ
ก็เป็นอีกสีหนึ่งนะคะในกลุ่มที่แบบว่าต้องลองทาบนปากจริง ๆ ก่อนซื้อ เพราะว่าที่เห็นในด้ามพอทาลงไปบนปากแล้วอาจจะไม่ได้สีของมันจริง ๆ อย่างที่ควรเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ปากสีเข้ม ๆ หน่อยแบบเราหรือคนที่ผิวใกล้ ๆ เรา




ส่วนเรื่องเนื้อมัน ก็ประมาณเดียวกับ Satin Lip Pencils ของ NARS แหละค่ะ เหมือนกันเลย นุ่ม creamy ทาง่าย ไม่ดึงปาก สีมันลื่น ๆ อยู่เหมือนกันนะ ดังนั้นถ้าทาทับไปมาหลายชั้น สีข้างล่างอาจจะมีเลื่อนไปเลื่อนมาได้ พอเป็นแบบนี้วิธีแก้ของเราคือเราก็ทาลงไปก่อนชั้นสองชั้น จากนั้นซับเอาความมันออก ทาเพิ่ม ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะได้สีเข้มดังต้องการ
สีนี้ coverage ไม่เป็น full ค่ะ ถ้าทาชั้นเดียวก็จะได้ประมาณ sheer to medium finish ซึ่งบางคนอาจจะพอใจแบบนี้ แต่สำหรับเราเราชอบ layer นิดนึงเพื่อจะได้ไม่เห็นสีปากโผล่มามากนัก ตัวนี้ทาแล้วให้ finish ความรู้สึกประมาณ satin ค่ะ แล้วก็เงาเล็กน้อย เบา ๆ แต่ว่าพอความเงาหายไปสีก็จะเซ็ทกลายเป็น matte แทน
ความติดทนก็โอเคนะ ไม่ได้ยาวนานมากอะไร พอซัก 3 ชม. ได้สีก็เริ่มจางแล้วโดยเฉพาะถ้าทาลงไปบนปากเปลือย ๆ ไม่มีอะไรรองไว้ก่อน อีกอย่างคือ สีนี้ไม่เหมือนกับ Satin Lip Pencils สีอื่นที่เรามีตรงที่ว่า สีนี้ไม่ stain ปากค่ะ ซึ่งเราก็ไม่ได้หวังว่ามันจะอยู่แล้ว เพราะสีชมพูอ่อน ๆ แบบนี้ส่วนมากก็ไม่ stain อยู่แล้ว
และเนื่องจากว่ามันเป็นสีที่ทั้งอ่อนและแถมเนื้อก็นุ่มด้วยเนี่ยะ เวลาทาบนปากมันเลยไปเน้นให้พวกร่องปากและรอยแห้งเห็นชัดขึ้น ดังนั้นเวลาทาแล้วอย่าลืมตามด้วยแปรงทาปากเกลี่ยสีให้สม่ำเสมอกันด้วยค่ะ หรือจะใช้นิ้วมือเกลี่ย ๆ เอาก็ได้ หรือไม่ก็ลง lip primer หรือ lip liner เพื่อช่วยเติมพวกร่องปากให้เต็มและทำให้ปากดูเต็มขึ้นก่อนทา ซึ่ง lip primer นี่ใช้แล้วก็จะยังช่วยให้สีลิปสติกติดทนนานขึ้นด้วย
สีนี้พูดถึงแล้วมันก็ไม่ได้รู้สึกว่าแห้งอะไรนะ แต่มันก็ไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นอะไรมากมายเหมือนกัน ตอนทาใหม่ ๆ ก็โอเคไม่มีปัญหาอะไร แต่พอเวลาผ่านไปซักพัก สีจะเริ่มจาง แล้วทีนี้จะรู้สึกเลยว่าปากแห้งเล็กน้อย ดังนั้นวันไหนทาสีนี้ให้เอาติดตัวไปด้วยไว้เติมค่ะ หรือไม่ก็ต้องทาทับด้วยลิปบาล์มเพื่อให้ปากคงความชุ่มชื้นไว้ตลอดวัน


เราคิดว่าสี Villa Lante เป็นสีที่แบบ จะซื้อไว้ก็ดีค่ะ แต่ไม่ได้จำเป็นว่าต้องซื้อ (a nice-to-have rather than a must-have) เราเสียดายว่าสีมันน่าจะ warm กว่านี้หน่อยและติดทนนานขึ้นอีกนิดบนปากเรา แต่ว่าก็เป็นปัญหาเรื่องเล็กค่ะเพราะใช้ lip primer/lip liner ช่วยได้ เราคิดว่าสีส้ม ๆ อีก 2 สีใน collection เนี่ยะน่าจะใช้ดีกว่า โดยเฉพาะสี Descanso (ซึ่งเป็นสีที่เราควรจะซื้อมากกว่า!) เราคิดว่าน่าจะเข้ากับผิวเราได้ดีกว่า แต่ก็อีกแหละ ตอนที่เห็นอะไรใหม่ ๆ ที่ยังไม่ได้ลองมันก็ยากนะคะที่จะไม่เลือกสีชมพู! :)
แล้วคุณล่ะ คิดว่าจะซื้ออะไรจาก the Final Cut collection มั้ยคะ? :)