เรามีวิธีการล้างเครื่องสำอางของเราที่เราทำเป็นประจำมาตลอดอยู่แล้วและเราแทบจะไม่เคยทำอะไรเปลี่ยนแปลงเลย เรามี cleansing balm, cleansing water และ eye makeup remover ตัวโปรดที่เราใช้มาหลายปีแล้วและก็ยังคงใช้อยู่จนถึงปัจจุบัน เราชอบใช้เครื่องสำอางหลากหลายแต่ว่าเรื่องการล้างหน้าเนี่ยะ เราจะชอบใช้ของเดิม ๆ ที่เรารู้ว่าถูกกับผิวเราค่ะ จะไม่ค่อยเปลี่ยนไปเรื่อยเหมือนเครื่องสำอาง แต่บางทีมันก็มีบางอย่างบางตัวที่ออกมาใหม่แล้วน่าสนใจน่าลองใช้ วันนี้เราจะมาแนะนำให้คุณรู้จักกับผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางใหม่ล่าสุดจาก Nivea คือ Makeup Clear Cleansing Water ค่ะ! นอกจากนี้เราก็จะพูดถึงตัว 3-in-1 moisturizing serum ด้วย ซึ่งเป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของแบรนด์ เราไม่ได้คาดหวังอะไรกับมันมากนะจริง ๆ แล้วแต่พอใช้แล้วกลับรู้สึกว่าเออ มันก็ทำงานดีใช้ได้นะ เข้ากับผิวและเครื่องสำอางเราได้เป็นอย่างดี ไม่พูดมากดีกว่า ไปเริ่มรีวิวกันเลยค่ะ!
Nivea Bright Acne Oil Control Makeup Clear Cleansing Water
Nivea Bright Acne Oil Control Makeup Clear Cleansing Water จริง ๆ แล้วก็คือ micellar water นี่เอง ตัวนี้มาในขวดขาวขุ่นเกือบใสเวลาใช้ต้องเทออกมาใส่สำลีแผ่น รุ่นนี้มี 3 สูตรให้เลือกได้แก่ Extra Bright (สีชมพู), Acne Care (สีม่วง) และ Bright Acne Oil Control (สีเขียว) ที่เรารีวิวในวันนี้คือสูตร Bright Acne Oil Control ค่ะ รุ่นนี้จะปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม สีสังเคราะห์ ซิลิโคน และพาราเบ็น กลิ่นก็ไม่มีนะเท่าที่เราดมดู เขาบอกว่าสูตรของตัวนี้ใช้เทคโนโลยี “micellar oxygen boost” เพื่อสลายเครื่องสำอางและในขณะเดียวกันก็บำรุงผิวและเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่ผิวไปในตัวด้วย
เนื้อของตัวนี้จะเป็นน้ำใส ๆ ค่ะ วิธีใช้ก็แค่เทใส่สำลีแผ่น นำไปประกบไว้บนบริเวณที่ต้องการล้างเครื่องสำอางออกซักประมาณ 5-10 วินาที จากนั้นก็ค่อย ๆ เช็ดออก ไม่จำเป็นต้องล้างตามด้วยน้ำเปล่าแต่สำหรับเราเราจะล้างหน้าต่ออีกครั้งตามปกติค่ะเพื่อให้มั่นใจว่าได้ล้างเอาทุกสิ่งอย่างออกให้หมดจด ตัวนี้ใช้แล้วไม่ทิ้งคราบเหนียวหรือมันไว้บนผิวเลย ตรงกันข้าม มันกลับทำให้ผิวหน้าเรารู้สึกสดชื่นมาก นุ่ม ชุ่มชื้น และสะอาดมาก
เราลองใช้ตัวนี้ลบเครื่องสำอางประเภทต่าง ๆ ดู อาทิเช่น อายแชโดว์ (แบบแป้งและครีม), อายไลน์เนอร์ (แบบดินสอและลิควิด รวมถึงสูตรกันน้ำ), มาสคาร่า, ลิปสติก, ลิปสเตน, บลัช (แบบแป้งและครีม), แป้งทาหน้า, รองพื้น และคอนซีลเลอร์ (รวมไปถึงสูตรติดทนยาวนาน) ผลที่ได้เป็นดังต่อไปนี้ค่ะ:
- มันสามารถเช็ดเอาเครื่องสำอางที่ติดทนนานเช่นรองพื้น คอนซีลเลอร์ และครีมกันแดดออกได้ดี
- พวกลิปสติก อายแชโดว์ แป้งทาหน้า บลัช และผลิตภัณฑ์ทาแก้มอื่น ๆ ก็ลบได้ง่ายค่ะ
- อายไลน์เนอร์แบบดินสอพอลบได้ไม่ยาก ตราบใดที่วางแผ่นสำลีประกบไว้ซักครู่ก่อนเพื่อให้เวลาน้ำยามันไปสลายเครื่องสำอาง
- สำหรับพวกมาสคาร่า ลิควิดอายไลน์เนอร์ และลิปสเตน อะไรที่มันกันน้ำเนี่ยะ ตัวนี้ยังล้างได้ไม่ค่อยดีค่ะ เราพบว่าเราต้องเช็ดแล้วเช็ดอีกอยู่ประมาณ 2-3 ครั้งกว่าจะลบออกหมด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับ remover ที่ทำมาจากน้ำ (water-based) แบบนี้
โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้วผลิตภัณฑ์ตัวนี้ยังเทียบไม่ได้กับพวก dual-phase eye makeup remover (ที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสม) แต่ถ้าคุณแต่งหน้าเบา ๆ ไม่ได้ทาเครื่องสำอางอะไรเยอะแยะมากนัก หรือไม่ได้ใช้อะไรที่เป็นสูตรกันน้ำเยอะ เราว่าตัวนี้ก็ทำงานได้ดีทีเดียวค่ะ อีกอย่างที่อยากบอกไว้คือเวลาเราใช้เรารู้สึกว่ามันจะทำให้แสบผิวนิดหน่อยโดยเฉพาะเวลาที่ใช้ใกล้ ๆ ตาหรือใช้บนเปลือกตา ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมแต่จะรู้สึกได้เลยว่ายิ่งเช็ดผิวก็ยิ่งร้อนขึ้น ๆ เราคงจะเก็บตัวนี้ไว้ใช้สำหรับวันที่แต่งหน้าน้อยเท่านั้นค่ะ ส่วนบริเวณตานั้นเราจะรู้สึกสบายใจกว่าที่จะใช้พวก remover ที่เป็น oil-based เพราะจะได้ไม่ต้องถูต้องเช็ดมาก และจะได้ไม่ก่อการระคายเคืองแก่ผิวบริเวณตา
Nivea Extra White Makeup Starter 3-in-1 Moisturizing Serum SPF 33 PA+++
Nivea Extra White Makeup Starter 3-in-1 Moisturizing Serum SPF 33 PA+++ มาในหลอดบีบสีขาวทึบที่มีปลายหลอดแหลมเรียว สูตรของตัวนี้เป็นการผสมกันของ (1) 95% pure vitamin C derivative (เพื่อต่อต้านอนุมูลอิสระและเพื่อปรับให้ผิวกระจ่างใส), (2) สารกันแดดที่มี SPF 33 PA+++ (เพื่อปกป้องผิวจากรังสี UVA1, UVA2 และ UVB; สำหรับส่วนผสมของสารกันแดดให้ดูในลิสท์ส่วนผสมด้านล่างค่ะ) และ (3) Skin Protective Shield (เบื่อบำรุงผิวให้ชุ่มชื้นและป้องกันผิวจากอันตรายจากสารเคมีในเครื่องสำอาง) นี่ก็คือที่มาของชื่อ “3-in-1” ค่ะ
เราไม่รู้สึกว่ามันมีเนื้อแบบซีรั่มทั่วไปนะ แต่มันจะออกไปทางโลชั่นน้ำหนักเบามากกว่า เกลี่ยง่ายมาก ซึมเร็วมาก แถมเซ็ทตัวทันทีอีกต่างหาก ทำให้คุณสามารถทาเบสเมคอัพต่อได้เลยหากต้องการ ตัวนี้มีค่า SPF สูง แต่ว่าทาแล้วก็ไม่ได้ทิ้งความรู้สึกหนัก เหนียว มัน หรือทิ้งคราบขาวไว้บนผิวหลังทาแต่อย่างใดเลย สิ่งเดียวที่มันทิ้งไว้คือความชุ่มชื้นและผิวสัมผัสแบบฉ่ำ ๆ dewy ค่ะ สำหรับใครที่ชอบให้ผิวหน้าออกแม็ทอาจจะต้องตามด้วยพวก mattifying primer เรายังไม่ได้ใช้ตัวนี้นานพอที่จะคอนเฟิร์มได้ว่ามันช่วยให้ผิวขาวขึ้นจริงรึเปล่า แต่ที่บอกได้แน่ ๆ คือมันป้องกันผิวจากแสงแดดได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ
ตอนทาเครื่องสำอางทับเราพบว่าเครื่องสำอางเราทาได้ลื่นขึ้น ดังนั้นมันก็เป็นเหมือนกับไพรเมอร์ไปในตัวด้วย แต่ว่ามันไม่ได้ช่วยเรื่องควบคุมความมันแต่อย่างใดนะ เพราะหน้าเราบริเวณ T-zone ตกเที่ยงก็ยังมันอยู่เหมือนเดิม เราใช้ตัวนี้มาได้ซัก 2 อาทิตย์กว่าแล้ว บอกได้เลยค่ะว่ามันปลอดภัยสำหรับผิวที่เป็นสิวง่ายของเราเพราะไม่ก่อให้เกิดสิวหรือการระคายเคืองเลย เราคิดว่าคนไหนที่ผิวออกไปทางแห้ง ๆ หน่อยน่าจะชอบตัวนี้มากค่ะ :)
Purchase
Disclosure: Products featured in this post were given to me free of charge by the brand’s PR for review consideration. All opinions expressed herein are honest and my own.
