eyeliner อีกละ? ฮ่า ๆ คือเราก็แบบว่าเป็นคนบ้าพวกดินสอเขียนขอบตาอ้ะน้ะ มันใช้ง่ายดี ดูแลรักษาอะไรก็ง่าย แถมไม่ต้องใช้ทักษะอะไรมากในการเขียน ทีนี้ตอนที่ไปช็อปปิ้งช่วง Holiday ที่ผ่านมาที่ Sephora แล้วได้ไปเห็นเซ็ทนี้เข้าก็เลยได้มีซื้อเลยเพราะอย่างนึงด้วยก็คือเราไม่เคยใช้เครื่องสำอางของแบรนด์ Sephora มาก่อนเลย เลยอยากลองดูซะหน่อย แล้วดินสอเขียนขอบตาของเขาดีจริงรึเปล่า เทียบกันได้กับแบรนด์อื่นที่คุณภาพดีมั้ย ไปดูกันเลยค่ะ! :)


อย่างแรกที่ต้องบอกไว้ก่อนเลยคือ เซ็ทนี้ที่มีดินสอ 4 แท่งนี้มันเป็น special edition set นะคะ ตอนนี้ไม่มีขายแล้ว แต่ว่าสามารถเลือกซื้อแต่ละสีต่างหากได้อยู่ อีกอย่างคือตัว packaging สีเงินที่เห็นในรูปข้างบนนั้นก็ไม่มีแล้วด้วย ของปกติใน permanent line ด้ามจะเป็นสีดำธรรมดาค่ะ แต่ว่าตัวหนังสืออะไรต่าง ๆ บนดินสอยังคงเหมือนกันเป๊ะ
4 สีทั้งหมดที่จะรีวิวในวันนี้คือ:
- 01 Black Lace – intense black (matte)
- 05 Diamonds Are Forever – metallic silver (metallic shimmer)
- 13 Tiramisu – medium brown (matte)
- 27 Sailor Suit – metallic navy blue (metallic shimmer)



จากที่ได้อ่าน ๆ มา รู้สึกว่าหลายคนจะชอบตัวนี้ตรงที่เนื้อมันนุ่มและติดทนนาน แต่จากประสบการณ์การใช้ดินสอเขียนขอบตามาอย่างโชกโชนของเรา (อิอิ) เราพบว่าของ Sephora อันนี้มันไม่ค่อยจะนิ่มเท่าไหร่นะ ถ้าเทียบกับของ Urban Decay 24/7 Glide-On Eye Pencils หรือ Pixi Endless Silky Eye Pen แล้วเนี่ยะ เทียบไม่ติดเลย นิ่มไม่เท่า แต่ว่ามันก็ไม่ได้แข็งหรือว่าแห้งอะไรนะคะ มันดีกว่าของแบรนด์อื่น ๆ อีกหลายแบรนด์เยอะ แค่ว่าไม่นิ่มเท่าของ UD กับ Pixi แค่นั้นเอง แล้วถ้าจะเขียนแล้วให้ได้ความเข้มสีพอ ๆ กับของ UD หรือ Pixi เนี่ยะ อาจจะต้องมีกดลงไปหนักกว่าด้วยตอนเขียน
เราพบว่าสี matte (Black Lace กับ Tiramisu) เนี่ยะเนื้อมันแห้งกว่าและแข็งกว่าสี metallic (Diamonds Are Forever และ Sailor Suit) เขียนก็ไม่ลื่นเท่า เขียนแล้วมีดึง ๆ ด้วยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้ถึงกับว่าดึงซะเจ็บหรือเขียนแล้วสะดุดอะไร แค่รู้สึกได้แค่นั้นเองว่าไม่ลื่น และมันก็เลยยากนิดนึงในการเขียนเพื่อที่จะให้ได้เส้นกริบ ๆ สงสัยอาจเป็นเพราะว่าเราเคยชินกับเนื้อนิ่ม ๆ ของ UD หรือ Pixi มากไปเราก็เลยคาดหวังอันนี้ว่าจะเขียนได้ดีเหมือนกัน นอกจากนี้ตัวนี้เนี่ยะแห้งเร็วมาก ๆ ไม่รู้จะเร็วไปไหน ดังนั้นถ้าใครจะเกลี่ยออกให้เส้นมันฟุ้ง ๆ เนี่ยะต้องทำอย่างรวดเร็วเลยค่ะ
ส่วนสี metallic นี่ในเนื้อจะเห็นว่ามี shimmer ชัดเลยแต่ว่าพอเขียนแล้วไม่รู้สึกเจ็บหรือบาดอะไรนะคะ เราชอบ finish ของมันมาก แบบว่าระยิบระยับสุด ๆ! สะท้อนแสงซะแบบ แถมยังไม่มี fallout ร่วงหล่นให้กวนใจอีกต่างหาก เนื้อก็นิ่มใช้ได้ เขียนแล้วไม่มีดึงหรือสะดุด แต่ว่าที่เหมือนกันก็คือแห้งเร็วมาก ดังนั้นต้องรีบเกลี่ยทันทีหากต้องการให้เส้นดูฟุ้ง ๆ
ส่วนเรื่องความเข้มของสี อันนี้แน่นมากค่ะ เขียนไปหนึ่งรอบนี่ก็ได้เข้มแบบสะใจแล้ว แต่ว่าจะ build ให้เข้มขึ้นไปอีกก็ยังได้ ข้อดีคือเขียนทับไปทับมาได้ดีโดยที่สีข้างบนไม่ไปเลื่อนสีข้างล่างไปมา
ส่วนเรื่องกันน้ำนี่จริง ๆ ก็ไม่ถือว่ากัน 100% ค่ะ (ดูการทดลองเปรียบเทียบหน้านี้) แต่ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันธรรมดาทั่วไปนี่ เราว่าก็ติดทนโอเคค่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องไหลหรือเปื้อนอะไร แต่อย่างนึงที่สังเกตได้คือสีแอบมีจางบ้างเล็กน้อยตอนเย็นก่อนจะกลับบ้านอะไรงี้ แต่ก็แทบจะมองไม่เห็นหรอกนะว่าจาง อันนี้หมายถึงว่าถ้าจะพยายามจับผิดมันจริง ๆ ก็อาจจะมีเห็นบ้าง
สี Black Lace กับ Tiramisu นี่ยังสามารถใช้เขียน tightline และเขียนบน waterline ได้ด้วยนะ! บนตาเรามันก็ติดทนดีทั้ง 2 ที่ แต่ผ่านไปซัก 4-5 ชม. ก็อาจจะมีจางบ้างตรงบริเวณ tightline ส่วนสี Diamonds Are Forever เราชอบใช้เขียนตรงบริเวณหัวตาด้านในเพื่อช่วยเพิ่มประกายให้กับตา สี Sailor Suit อันนี้เราเอาไว้ใช้เขียนตรงขอบขนตาล่างด้วยเพื่อเพิ่มสีสันให้กับตา



เราคิดว่าดินสอเขียนขอบตาของ Sephora อันนี้เนี่ยะก็น่าลองเล่นอยู่เหมือนกันนะคะ คุณภาพถือว่าใช้ได้เลยแถมราคาก็ไม่แพงด้วย บอกตามตรงว่าเราไม่คิดว่ามันจะทำงานดีขนาดนี้ตอนซื้อมา จริง ๆ แล้วเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำไมไม่เคยคิดอยากจะลองอะไรของ Sephora Collection มาก่อนเลย แถมเวลาไปที่ร้านก็เดินผ่าน display ของมันตลอด (และแถมเป็น display ที่ใหญ่สุดในร้านด้วย) แต่พอหลังจากได้มาลองดินสออันนี้แล้ว ถือว่าประทับใจนะ (แถมอันนี้เนี่ยะเขาทำมาทั้งหมดตั้ง 35 สีแน่ะ!) ต่อจากนี้ก็คงจะเริ่ม ๆ ดูของแบรนด์นี้บ้างแล้ว ถ้าใครเคยใช้อะไรของแบรนด์นี้แล้วมีคำแนะนำดี ๆ ว่าตัวไหนใช้ดียังไงก็ทิ้ง comment ไว้ด้านล่างได้เลยค่ะ :)