ในที่สุดเราก็ได้มีโอกาสลองใช้ Tom Ford Illuminating Primer กับเขาซักที ซึ่งคุณก็คงจะเดาออกแล้วล่ะเนอะว่าโดยรวมแล้วเราก็ชอบค่ะตัวนี้ แต่ว่ามันมีอย่างนึงที่ทำให้เราไม่อยากใช้ตัวนี้บ่อย อยากรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ไปอ่านกันต่อเลยค่ะ

ตัวนี้มาในขวดฝ้า ผนัง 2 ชั้นที่มีโลโก้ Tom Ford อยู่บนตัวริงสีทองซึ่งแยกส่วนขวดออกจากฝา ความฉลาดของ packaging ตัวนี้อยู่ที่ฝาค่ะ เพราะเป็นฝาแบบหมุน พอหมุนแล้วตัวปั๊มก็จะหมุนขึ้นมา พอหมุนกลับอีกทางตัวปั๊มก็จะหมุนลงเก็บ กิ๊บเก๋ดี และมันก็สามารถหมุนให้อยู่ใน lock position ได้ด้วยนะ ทั้ง 2 ทางเลย คือแค่หมุนไปอีก 1 กิ๊กมันก็จะล็อคแล้วค่ะ ทำให้สะดวกสบายเวลาพกพาเพราะไม่ต้องกังวลว่าปั๊มมันจะปั๊มเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาเอง เก๋มั้ยล่ะ แถมสะอาดไม่มีการปนเปื้อนด้วย! :)

ส่วนตัวเนื้อไพรเมอร์เองนั้นเนื้อจะออกประมาณมุก ๆ เนื้อหนากว่าไพรเมอร์ส่วนมาก ความรู้สึกเหมือนประมาณพวกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ผสมกับไพรเมอร์ค่ะ สีออกขาวขุ่น ๆ อมเหลือง แต่ว่าพอเกลี่ยแล้วก็จะกลายเป็นชั้นใสไป และให้ความโกลว์แบบ iridescent (แบบเหลือบ ๆ) ไม่มีร่องรอยของชิมเมอร์หรือกลิตเตอร์ใด ๆ ทั้งสิ้น มันถือว่าเป็นความโกลว์ที่ไม่เหมือนใครนะ แตกต่างจากคนอื่น และเราก็คิดว่าคุณน่าจะไปลองเล่นดูซักครั้ง เนื้อจะไม่รู้สึกเหมือนไพรเมอร์แบบซิลิโคน ดังนั้นคนที่ไม่ชอบเนื้อซิลิโคนน่าจะชอบตัวนี้มาก
แต่สิ่งที่เราไม่ชอบนั่นก็คือกลิ่นมันค่ะ! โอ้โห สินค้าราคาขนาดนี้ หรูขนาดนี้ น่าจะมีกลิ่นที่ดีหรือกลิ่นสะอาดกว่านี้หน่อย หรือถ้าจะให้ดีกว่านั้น ไม่มีกลิ่นเลยก็จะยิ่งดีขึ้นไปอีก เราไม่สามารถหาคำอธิบายแบบสุภาพมาอธิบายกลิ่นมันได้ ดังนั้นเราจะพูดเลยละกันว่ากลิ่นมันดมแล้วรู้สึกแย่มาก กลิ่นออกเปรี้ยว ๆ ยังไงไม่รู้บอกไม่ถูกค่ะ! แถมกลิ่นติดผิวอีกต่างหาก ตอนแรกเรานึกว่าแค่กลั้นหายใจซักแป๊บกลิ่นคงหายไป แต่เปล่าเลย ดังนั้นถึงแม้ว่ามันจะทำให้หน้าเราดูโกลว์สวยเริ่ดแค่ไหนก็ตาม เราคงเก็บไว้ใช้เฉพาะตอนที่เราจะทารองพื้นที่มีกลิ่นน้ำหอมทับตามเท่านั้นค่ะ เราคงจะไม่ทาตัวนี้เดี่ยว ๆ แน่นอน น่าเสียดายนะ เพราะมันทำให้ผิวดูโกลว์สวยงามจริง ๆ

ทีนี้พอใช้ใต้รองพื้น เราก็ตั้งใจพยายามใช้เฉพาะบริเวณที่สูงของหน้า อาทิเช่น ใต้โหนกคิ้ว กลางหน้าผาก รอยหยักปาก โหนกแก้ม เป็นต้น หากทาใกล้กับบริเวณที่มีรูขุมขนกว้าง หรือบริเวณที่มีริ้วรอยเยอะ มันจะไปเน้นพวกนั้นให้เด่นขึ้นค่ะ (ซึ่งเดี๋ยวคุณก็จะได้เห็นในรูปหน้าเราด้านล่าง) เมื่อใช้แบบนี้แล้วมันจะได้ความโกลว์แบบเบา ๆ ที่ดูเป็นธรรมชาติมากกว่า เราไม่แนะนำให้ลงตัวนี้ทั่วหน้าค่ะนอกซะจากว่าคุณจะมีผิวที่ดีอยู่แล้ว ไม่มีรูขุมขนกว้าง หรือผิวคุณอยู่ในกลุ่มผิวแห้งถึงผิวธรรมดา คนที่ผิวมันนั้นต้องทาอย่างระมัดระวังเลยค่ะไม่งั้นหน้าอาจดูมันเงาเกินงามได้

พอใช้เป็นเบส มันจะช่วยปรับผิวและช่วยให้รองพื้นทาแล้วดูฉ่ำขึ้นโดยที่ไม่ไปเปลี่ยนสีรองพื้นแต่อย่างใด ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งหากคุณอยากเพิ่มมิติให้กับรองพื้นเนื้อแม็ทของคุณ หน้าจะได้ไม่ดูแบนด้านไปหมด เราพบว่ามันช่วยให้การทารองพื้นง่ายขึ้นเหมือนกันนะ แต่เราไม่พบว่ามันจะช่วยให้รองพื้นหรือเครื่องสำอางติดทนนานขึ้นแต่อย่างใด ตัวนี้สามารถใช้ได้ดีกับทั้งรองพื้นเนื้อเหลว เนื้อครีม รวมไปถึงเนื้อแป้งด้วยค่ะ หรือคุณจะผสมมันกับรองพื้นไปเลยแล้วทาทีเดียวก็ทำได้ ทำแบบนี้ก็จะได้งานผิวที่ออกระยิบระยับมุก ๆ กำลังสวยเช่นกัน
ตัวนี้ตอนทาจะรู้สึกชุ่มชื้นดีพอประมาณ และเราก็ชอบที่มันทาแล้วไม่ทำให้เป็นสิว ทาเดี่ยว ๆ อาจจะรู้สึกหนึบ ๆ เล็กน้อยแต่พอทารองพื้นทับก็สบายผิวแล้วค่ะ

รูปด้านบนที่เราลองทาให้ดูนี้ดูเหมือนจะไม่จำเป็นเลยเนอะ เพราะว่าความแตกต่างเห็นน้อยมากแต่เราก็แบบ เอาน่า ลองพยายามทาให้ดูนิดนึง! เราลงไพรเมอร์ตัวนี้แบบทั่วหน้า (ด้านขวา) ค่ะ ซึ่งคุณจะเห็นได้ชัดเจนเลยว่ามันไปเน้นรูขุมขนข้างจมูกและริ้วรอยใต้ตาเราให้เด่นขึ้น แต่ว่าที่เหลือของหน้าก็ดูโกลว์สวยงามดี ดังนั้นเราแนะนำว่าใครที่มีผิวมันหรือผิวที่มีปัญหาก็พยายามลงตัวนี้แค่ตรงจุดที่จำเป็นหรือจุดที่อยากไฮไลท์เท่านั้นก็พอค่ะ
ส่วนเรื่องรอยแดงและการควบคุมความมันนั้นตัวนี้ไม่ช่วยเลย คือมันเป็นไพรเมอร์ที่ช่วยเพิ่มความโกลว์ให้กับผิวแค่นั้นจริง ๆ และก็มีส่วนผสมที่ช่วยบำรุงผิวนิด ๆ หน่อย ๆ หากใครที่มีผิวแห้งหรือผิวธรรมดา และไม่ mind เรื่องกลิ่นที่แสนจะแตกต่างจากใครเขาของตัวนี้ เราคิดว่าคุณก็คงจะชอบตัวนี้มาก ๆ แน่นอน :)