ปริมาณไฮไลท์เตอร์ของเรานี่ก็เยอะขึ้น ๆ ทุกวันนะคะพูดถึงแล้ว แต่ที่ตลกคือเราไฮไลท์หน้าเราน้อยลง ๆ ทุกวัน คือสภาพอากาศเมืองไทยร้อนซะขนาดนี้ หน้าเราหลังแต่งหน้าแป๊บเดียวมันก็โกลว์เองโดยอัตโนมัติแล้วค่ะ แต่ว่ามันจะทำให้เราหยุดซื้อไฮไลท์เตอร์เพิ่มรึเปล่าน่ะรึ? ไม่ค่ะ! ยังคงซื้อต่อไป แต่เราสัญญากับตัวเองว่าต่อจากนี้จะไม่ซื้อแบบเห็นอะไรออกใหม่ก็ซื้อแล้ว แต่จะเริ่มเลือกมากขึ้น ต้องเป็นอันที่เราเห็นแล้วชอบและอยากได้จริง ๆ ถึงซื้อ และ Tom Ford Skin Illuminating Powder Duo สี Moodlight ตัวนี้ก็คือหนึ่งในนั้นค่ะ ไปดูกันดีกว่าว่ามันทำงานได้ดีสมกับหน้าตาที่แสนสวยของมันรึเปล่า


Tom Ford Skin Illuminating Powder Duo สี Moodlight มาในคอมแพ็คสีน้ำตาล mahogany และมีบาร์สีทองด้านหน้าตามสไตล์ของแบรนด์ ข้างในคอมแพ็คมีกระจกขนาดเต็มมาให้ ฝาปิดด้วยแม่เหล็ก และก็มาพร้อมกับซองห่อหุ้มด้วยเพื่อกันรอยให้แก่คอมแพ็คระหว่างเก็บและเดินทาง
At a glance




ตอนเปิดฝาขึ้นมาครั้งแรก เราหลงรักเลยกับลวดลาย crosshatch บนเนื้อผิว มันสวยมาก คือมันก็เป็นดีไซน์ง่าย ๆ นะพูดถึงแล้ว แต่พอมาอยู่ในคอมแพ็คนี้และมีโลโก้ TF ปั๊มอยู่ด้วยตรงกลางแล้วมันดูสวยเลอค่ามากค่ะ เราใช้มันมาได้หลายอาทิตย์แล้วนะ และลวดลายก็ยังคงอยู่ อาจเป็นไปได้ว่าลายมันปั๊มลงไปในเนื้อแป้งเยอะอยู่พอสมควร สี Moodlight นี้ไร้กลิ่นน้ำหอมใด ๆ ค่ะ คนที่ไม่ชอบน้ำหอมน่าจะประทับใจกับตรงนี้
Moodlight ประกอบไปด้วยแป้ง 2 สีสำหรับเพิ่มความสว่างให้ใบหน้าค่ะ ทั้ง 2 สีนี้เขาออกแบบมาเพื่อจับแสงที่ต่างกัน 2 ชนิด สีบนทาแล้วจะช่วยให้ใบหน้าดูมีความโกลว์นุ่ม ๆ เบา ๆ ตามธรรมชาติเหมาะสำหรับไว้ใช้ตอนกลางวัน ส่วนสีล่างทาแล้วจะเพิ่มความโกลว์อุ่น ๆ แบบใต้แสงเทียน เหมาะสำหรับใช้ตอนกลางคืน ผลการทาที่ได้จาก 2 สีนี้ต่างกันมากเลยทีเดียวค่ะ เราชอบตรงจุดนี้เพราะดูคุ้มค่าเงินหน่อย คุณสามารถทาสีใดสีหนึ่งเดี่ยว ๆ ก็ได้หรือจะผสมหรือทาทับกันก็ได้ตามใจปรารถนาเพื่อสร้างความโกลว์แบบมีมิติและสีของโกลว์ในแบบฉบับของคุณเอง อาทิเช่น คุณอาจจะทาสีบนมากหน่อยเพื่อให้หน้าดูสว่างขึ้น หรือทาสีล่างมากหน่อยเพื่อเพิ่มความอุ่นและสีบรอนซ์ให้กับใบหน้า ผลสุดท้ายที่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณที่คุณทาค่ะ นอกจากนี้เราก็ชอบขนาดถาดของแต่ละสีที่ให้มาด้วย เพราะใหญ่พอสมควร สามารถใช้แปรงปัดแก้มหรือแปรงไฮไลท์อะไรก็ได้ลงไปหยิบสีได้โดยง่ายและไม่ทำให้สองสีฟุ้งมาปนกันเกินไปค่ะ
Swatches ของทั้ง 2 สี



สีบน (กลางวัน)


สีบนนี้เป็นสีขาวงาช้างที่สวยมากและให้ความเงาแบบนุ่มละมุนแก่ผิว เราไม่มีสีแบบนี้มาก่อนก็เลยดีใจที่ได้มาครอบครองไว้ ตอนแรกนึกว่ามันทาแล้วจะขาวมาก สีทึบ ให้ความโกลว์รุนแรง แต่ที่ไหนได้ ผิดค่ะ สีนี้ทาบางจริง ๆ! คือพอทาปุ๊บแล้วสีมันเหมือนจะละลายกลืนไปกับผิวเลย เกลี่ยได้ลื่นมากจนบางครั้งเราแทบจะมองไม่ออกว่าทาตรงไหนไปบ้างแล้ว เนื้อมีชิมเมอร์ละเอียดยิบผสมมากมายแต่ว่าความระยิบระยับของมันเบามากและอาจจะมองไม่เห็นเลยบนผิวหากไม่ทาในปริมาณมาก เนื้อมันเหมือนจะออกแนวมุก ๆ มากกว่าแนวชิมเมอร์เม็ด ๆ น่ะค่ะ และนอกจากสีจะเบาแล้ว เนื้อมันก็แข็งกว่าสีล่างพอสมควรด้วย เราแนะนำให้ใช้แปรงที่ขนแน่นขึ้นมาหน่อยกับสีนี้เพื่อจะได้ช่วยหยิบเม็ดสีขึ้นมาได้ดีขึ้น แต่ถึงอย่างไรสีนี้ก็ยังเกลี่ยง่ายไปกับผิวอย่างที่บอกและทาแล้วก็จะฟุ้ง ๆ ไม่มีเห็นขอบชัดเจนแต่อย่างใด
ข้อดีอย่างหนึ่งของตัวนี้คือมันไม่โกลว์มากเกิน ไม่เงาเกิน ดังนั้นคุณสามารถทาทับในปริมาณมากได้เพื่อเพิ่มความสว่างใสแก่ผิวที่ยังคงดูเป็นธรรมชาติและดูเหมือนไม่ได้ทาไฮไลท์เตอร์มา สีนี้ไม่มีกลิตเตอร์เม็ดใหญ่ ๆ แน่นอนค่ะ จริง ๆ แล้วคุณจะไม่เห็นกลิตเตอร์ใด ๆ เลยกับผลิตภัณฑ์ทาแก้มของ Tom Ford ทาแล้วจะไม่ดูว่อก ดูฟรอสท์ หรือแห้งเป็นฝุ่น ๆ แต่อย่างใด ข้อดีที่สุดคือสีนี้ทาแล้วไม่ไปเน้นรูขุมขน (ที่เรามีมากมายบนใบหน้า) คุณจึงสามารถทามันบนบริเวณกว้างบนใบหน้าได้ เช่นเดียวกับในรูปด้านล่างที่เราทำ เราทาสีนี้แบบหนักมือไปตามหน้าผาก สันจมูก แก้ม และคาง คุณอาจจะพอมองเห็นว่าเราก็ยังดูเหมือนไม่ได้ทาไฮไลท์เตอร์อะไรมาเลย ผิวเราดูเหมือนว่าโกลว์มาจากข้างในเอง (หากเอาตามที่เราเห็น) และนี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมเราถึงรักสีนี้มากค่ะ! :)

สีล่าง (กลางคืน)


ตอนแรกเราก็นึกว่าสีนี้จะเป็นสีเบาซะอีก! ผิดอีกเช่นกัน! เพราะสีนี้มันให้ความเงาความโกลว์แบบจัดเต็มชัดเจนมาก เกือบจะออกไปทางเมทาลิคเลยด้วยซ้ำ! ความระยิบระยับของมันนั้นมีสูงมาก เลอค่ามากโดยเฉพาะเวลาที่แสงตอนกลางคืนตกกระทบลงบนใบหน้า สีทองอมพีชของมันทาแล้วเพิ่มความอุ่นให้กับผิวรวมถึงให้ความเงางามแก่ผิวไปด้วยในตัว สีสามารถทาทับ ๆ ได้เพื่อเพิ่มโทนบรอนซ์ให้แก่ผิวแต่ต้องตระหนักไว้นิดนึงว่ายิ่งทามากขึ้นเท่าไหร่ความเงามันก็จะมากขึ้นตามตัวด้วย เวลาใช้สีนี้เราต้องระวังมากค่ะว่าจะทาตรงไหนและจะทามากแค่ไหน เราไม่สามารถทามันใกล้ ๆ กับจมูกได้เพราะว่าสีนี้จะไปเน้นรูขุมขนและริ้วรอยรวมถึง texture ต่าง ๆ บนใบหน้า นอกจากนี้เราก็จะเลือกใช้แต่แปรงขนาดเล็กและขนฟู ๆ หน่อยในการทาเพื่อป้องกันไม่ให้ลงสีหนักมือเกิน
เนื้อของสีนี้เปรียบเทียบกับสีบนแล้วจะนุ่มกว่า เนียนกว่า และครีมมี่กว่า แต่พอทาลงไปบนผิวจริง ๆ แล้วเกลี่ยก็ไม่แทบไม่เห็นความแตกต่างค่ะ ทั้งคู่ไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรมากในการทาให้ออกมาดูฟุ้ง ๆ สวยงามเช่นเดียวกัน
และเนื่องจากว่ามันมีโทนสีบรอนซ์อุ่นผสมอยู่ด้วย เราก็เลยลองใช้มันเป็นบรอนเซอร์ดูตามขอบหน้า บอกเลยว่าชอบความโกลว์แบบ sunkissed ที่ได้มากค่ะ เหมือนเพิ่งออกไปตากแดดมานิด ๆ ประมาณนั้น แต่เราคงไม่ใช้ตัวนี้ในการคอนทัวร์หน้านะคะ เพราะว่าเนื้อมีชิมเมอร์สูง ในรูปด้านล่างนี้เราทาสีนี้เบา ๆ บริเวณแก้ม ตามขอบกราม และขมับ คุณคงจะพอมองเห็นนะคะว่าหน้าเราดูอุ่นขึ้นเยอะเลยเมื่อเปรียบเทียบกับสีบน

ทั้งสองสีทาแล้วติดทนดีทั้งวันทั้งคืนบนผิวเราค่ะ จากประสบการณ์แล้วผลิตภัณฑ์ทาแก้มของ Tom Ford นั้นเนื้อมันจะติดผิวดีมากก็เลยไม่แปลกใจว่าทำไมทาแล้วถึงติดทนดีจริงอะไรจริง
เปรียบเทียบกับไฮไลท์เตอร์ของ theBalm
ตอนที่เราเห็น Moodlight ครั้งแรก เรานึกถึงไฮไลท์เตอร์ตัวดัง ๆ ของ theBalm เลยค่ะ ซึ่งก็คือ Mary-Lou Manizer (รีวิว) และ Cindy-Lou Manizer (รีวิว) เราก็เลยลองเอาสองสีนี้มา swatch ข้าง ๆ กันกับของ Tom Ford ให้คุณดูเลย ดูไปดูมาสีก็ใกล้กันเหมือนกันเนอะ? :)

ในขณะที่เราเขียนรีวิวนี้ สี Moodlight ก็ยังคงมีขายอยู่ และดูเหมือนแบรนด์เขาจะผลิตให้มันเป็น permanent แล้ว ไม่ใช่ limited-edition อย่างที่หลายคนคิด ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องดีเพราะคุณสามารถใช้เวลาในการไตร่ตรองดูได้นาน ๆ ว่าชิ้นนี้มันเป็นอะไรที่เหมาะกับคุณรึเปล่า เพราะราคาอยู่ที่ US$80 แน่ะ เราไม่คิดว่ามันเป็นสิ่งที่จะต้องมีหรือ must-have ค่ะ จริง ๆ แล้วเราคิดว่าคุณสามารถใช้ไฮไลท์เตอร์ตัวอื่น ๆ ที่คุณมีอยู่แล้วมาทาก็น่าจะให้ผลลัพธ์ที่สวยเหมือนกันได้ แต่อย่างไรก็ตาม หากวันไหนที่คุณอยากจะซื้อเครื่องสำอางดี ๆ หรูหราหน่อยเพื่อเป็นของขวัญให้กับตัวเอง ชิ้นนี้ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจและเรามั่นใจว่ามันจะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ :)
Purchase
US$80 at Nordstrom ○ Neiman Marcus ○ Bloomingdale's ○ Amazon ○ Saks
At Tom Ford counters
ขอบคุณสำหรับรีวิวค่า เป็นผลิตภัณฑ์ของ TF ตัวแรกเลยที่แบมสนใจ อยากได้จริงๆ
แล้วไปจัดมารึยังจ๊า เมืองไทยขายอยู่เท่าไหร่เอ่ย
ขอบคุณสำหรับรีวิวนะคะ
แอบตามอ่านมาหลายอันแล้ว
ชอบมากๆค่ะ รีวิวละเอียดดี
คือพอดีมีคำถามนิดนึงค่ะ
อยากรู้ว่าอันนี้กับambient lighting paletteของhourglassนี่พอจะทดแทนกับtom fordอันนี้ได้มั้ยคะ
หรือว่าแตกต่างกันไปเลย
พอดีกะว่าจะซื้อพาเลตholiday2015ที่มันมี6สีกับ ambient lighting paletteของhourglassอยู่ค่ะ