รีวิว Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb

สวัสดีค่ะทุกคน! ก่อนเริ่มรีวิววันนี้เราขออธิบายนิดนึงว่าทำไมช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานี้เราห่างหายไปจาก blog ไม่ค่อยมาอัพเดทบ่อยนัก ซึ่งเราต้องขอโทษด้วยค่ะ แต่ว่าเราเพิ่งไปทำเลเซอร์หน้ามาเพื่อกำจัดพวกจุดกระเม็ดเล็ก ๆ ที่เรามีเยอะมากบนหน้า ตอนนี้ก็เลยอยู่ในช่วงพักฟื้น (หน้า) ค่ะ คือจุดเล็ก ๆ ที่เรามีนั้นมันมองผ่าน ๆ ก็ไม่เห็นนะ แต่ว่าทีนี้เราใช้กระจกขยายส่องหน้าทุกเช้าไง มันก็เลยเห็นชัดเจน เรารู้สึกรำคาญกับมันมานานหลายปีแล้วค่ะ สุดท้ายก็เลยตัดสินใจไปเลเซอร์ออก วิธีการทำนั้นบอกเลยไม่ง่าย เจ็บพอสมควรด้วย แล้วถึงตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนกว่าผิวเราจะกลับมาเรียบเหมือนเดิม แต่ก็ค่อย ๆ บำรุงไป กว่าจะถึงตอนนั้นเราก็จะพยายามไม่แต่งหน้าหากไม่จำเป็น เราอาจจะยังคงต้องโพสท์น้อยลงไปอีกซักพักนึง แต่สัญญาค่ะว่าไม่หายไปเลยแน่นอน ยังอยู่ตรงนี้แหละ และจะยังมาเขียนรีวิวให้ฟังเมื่อมีเวลาค่ะ :)

ทีนี้ไปต่อเรื่องรีวิวลิปสติกสีแดงตัวโปรดตัวใหม่ของเรากัน!

Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb
Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb
Urban Decay Revolution Lipstick
Urban Decay Revolution Lipstick

เราทราบดีว่า Urban Decay Revolution Lipstick นี้ออกมาตั้งนานแล้ว เป็น old news สำหรับหลาย ๆ คน แต่เราเพิ่งมาได้ลองใช้เมื่อตอนช่วงที่เราจัดเก็บพวก sample เครื่องสำอางทั้งหมดที่เรามีค่ะ รุ่นนี้มีทั้งหมด 23 สี แต่สีที่เรานำมาเสนอวันนี้นั้นบอกเลยว่าเป็นหนึ่งในสีที่เซ็กซี่กว่าใครเพื่อน! ;) เป็นสีแดงเข้มคลาสสิคที่ทาบนปากปุ๊บหน้าสว่างปั๊บ เราไม่รู้นะว่าคุณเป็นเหมือนกันรึเปล่าแต่สำหรับเราพอได้ทาลิปสติกสีแดงเมื่อไหร่นั้นจะรู้สึกเซ็กซี่ขึ้น 10 เท่าแถมรู้สึกมีอำนาจมากขึ้นด้วย! (ดั่งที่จะได้เห็นในรูปหน้าเราด้านล่าง) สีนี้ชื่อสี F-Bomb ค่ะ และมีสีออกประมาณนี้:

Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb
Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb

เราไม่ทราบเหมือนกันนะว่าเจ้าพวกจุดขาว ๆ บนตัวลิปสติกนั้นมันคืออะไรมาจากไหน เพราะมองด้วยตาเปล่าก็แทบจะไม่เห็นเลย พอมาถ่ายผ่านเลนส์แม็คโครนั่นแหละถึงเห็น สี F-Bomb นี้มีความเข้มสีที่แจ่มมากค่ะ เข้มจริงอะไรจริง ทาไปครั้งเดียวก็ได้สีเกือบทึบสนิทเลย เนื้อของมันครีมมี่เล็กน้อยแต่ไม่ลื่นปื๊ดนะ ตอนทาแรก ๆ จะรู้สึกแม็ทนิด ๆ ด้วยซ้ำทำให้ทาง่าย ควบคุ่มง่าย ไม่ไถลออกนอกขอบปาก แต่เนื้อ finish ของมันจริง ๆ นั้นไม่ใช่แม็ทนะคะ 2-3 วินาทีหลังทามันจะกลายเป็นเนื้อซาตินนุ่ม ๆ ที่มีความเงานิด ๆ ผสม ขอบอกว่าทาแล้วปากดูเนียนมากด้วยค่ะ! :)

สีแดงของมันก็ build ให้เข้มขึ้นได้ง่าย ยิ่งทาทับสีก็จะยิ่งแดงขึ้นและเงาขึ้นอย่างที่เห็นในภาพด้านล่าง

Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb one pass (L) and built up (R)
Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb one pass (L) and built up (R)

ส่วนข้อดีของเนื้อตัวนี้ก็มีอีกหลายอย่างค่ะ อาทิเช่น ไร้กลิ่น น้ำหนักเบามาก (ถึงแม้ว่าเม็ดสีจะแน่นก็ตาม) ทาแล้วไม่มีไหลหรือซึมออกนอกขอบปาก (ไม่ต้องใช้ลิปไลน์เนอร์รองก็ยังได้!) ไม่เน้นรอยแห้งหรือริ้วรอยบนปาก แต่ว่าที่น่าประทับใจที่สุดคงจะเป็นเรื่องความติดทน สี F-Bomb นี้ติดดีประมาณ 5-6 ชั่วโมงเลยค่ะ ก่อนจะซีดเบา ๆ กลายเป็น stain สีแดงอ่อน เนื้อของมันไม่ถึงกับชุ่มชื้นอะไรมาก ก็เป็นข้อแลกเปลี่ยนกับเรื่องความติดทนนานน่ะนะ แต่ว่าอย่างน้อยทาแล้วก็ไม่ได้รู้สึกแห้งหรือทำให้ปากแห้งแต่อย่างใดค่ะ

Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb
Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb

F-Bomb ทาบนปากเราแล้วจะได้ประมาณนี้:

Wearing Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb
Wearing Urban Decay Revolution Lipstick in F-Bomb

สำหรับรูปนี้เราทาทับ 2 ชั้นค่ะ ทาจากลิปสติกตรง ๆ เลยนี่แหละ พอมองออกเนอะว่ามันทาง่าย ไม่ไหลลื่นออกนอกขอบปาก ขอบยังดูคมพอใช้ได้อยู่ นี่ก็เป็นการยืนยันค่ะว่าสี F-Bomb ทาง่ายจริง ๆ หากใครกำลังมองหาลิปสติกสีแด้งเข้ม ๆ หน่อยที่ทาง่ายทาแล้วเกิด เราแนะนำสีนี้เลย แต่หากใครอยากได้เนื้อที่แม็ทขึ้นไปอีก ก็อาจจะลองไปเล่นตัวใหม่ชื่อ Matte Revolution ดู ซึ่งเรายังไม่ได้ซื้อมาลองเลย หากใครได้ลองใช้แล้วมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟังบ้างนะคะ :)

Purchase

US$22 at Nordstrom ○ Macy’s ○ Sephora ○ Beauty.com ○ Ulta

At Urban Decay counters

Tags from the story
, ,
Leave a comment

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *