สิ่งหนึ่งที่น่าตื่นเต้นที่สุดของช่วงวันหยุดในโลกแห่งเครื่องสำอางก็คือการที่หลายแบรนด์ผลิตพาเล็ทใหญ่ ๆ ออกมาค่ะ! และทุก ๆ ปีนั้น พาเล็ท Blockbuster ของ Sephora นี่ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งอันที่ใคร ๆ รอคอย เราพลาดไปไม่ได้ซื้อปีที่แล้วแต่พอมาปีนี้ทาง Sephora เขาส่งมาให้รีวิว เราก็เลยดีใจมาก อยากจะบอกว่าพาเล็ทนี้ใหญ่มากค่ะ มีสีหลากหลายมาก ดังนั้นรีวิวนี้จะมีรูปเยอะ ทั้งรูปพาเล็ทเองแล้วก็รูป swatches (ใช่ค่ะ! เรา swatch ทุกสีให้คุณดูเลย!) ดังนั้นหาเก้าอี้นั่งให้สบาย ๆ พร้อมน้ำชากาแฟในมือ (แต่ของเราจะเป็นโกโก้ร้อน ชอบมาก) แล้วไปเริ่มกันเลยค่ะ! :)

Sephora Color Festival Blockbuster Palette (limited edition) นี้เป็นส่วนหนึ่งของ Sephora Holiday 2014 Collection ค่ะ ตัวพาเล็ทจะเป็นสีขาวดำมีหน้าตาเป็นรูปโบว์น่ารักมาก ทำมาจากพลาสติกน้ำหนักเบา ดูแข็งแรงดีอยู่ แต่เราว่าพยายามใช้อย่างระมัดระวังอย่าให้ตกก็ดีค่ะ ขนาดพาเล็ทอยู่ที่ประมาณ 11.8 in L x 4.3 in W x 2.3 in H (30 cm L x 10.8 cm W x 5.7 cm H) ก็ไม่ถึงกับว่าพกไปไหนมาไหนง่ายนัก แต่ถ้าในกระเป๋าเดินทางมีที่เหลือพอ ก็น่าจะเหมาะกับการหยิบไปด้วย เพราะว่ามีพาเล็ทนี้แล้วก็ไม่ต้องคิดมากเลยว่าจะหยิบสีอะไรหรือไม่หยิบสีอะไรไปด้วย พาเล็ทนี้มีให้หมดเลยค่ะ นอกจากนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ครบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสีทาตา ปาก และแก้ม สามารถใช้แต่งหน้าได้แบบ full face เลย แถมมีสีเหมาะกับหลากหลายโอกาสด้วย! :)


Packaging in details
พาเล็ทนี้มีทั้งหมด 4 “ชั้น” ค่ะ แต่ละชั้นจะแยกออกเป็น 2 ถาด ซ้ายและขวา สีในแต่ละถาดจะจัดเรียงกันไปตามกลุ่มสีและความเข้มสี ชั้นแรกฝาจะเปิดออกแบบพวกตลับเครื่องสำอางทั่วไป เปิดฝามาจะเห็นกระจก แต่ละฝามีกระจก 1 อัน ดังนั้นพาเล็ทนี้มีกระจกมาให้ทั้งหมด 2 อันค่ะ ส่วนชั้นอื่น ๆ จะเปิดออกโดยการหมุนออกมาจากแกนกลาง เวลาหมุนให้ระวังนิดนึง พยายามผลักจากบริเวณมุมของถาด ไม่งั้นอาจมีหลุดมือแล้วนิ้วจิ้มลงไปในผลิตภัณฑ์ได้
พูดถึงแล้วมันก็ถือว่าเป็นระบบที่ดีนะเมื่อคำนึงถึงปริมาณสีที่ให้มาซะเยอะเหลือเกิน ตอนเราเห็นครั้งแรกเราก็ว่าเออ ระบบแบบนี้มันก็ดูมีประสิทธิภาพดี แต่พอได้เริ่มลองใช้จริง ๆ ถึงจะเริ่มเห็นข้อด้อยของมันค่ะ อาทิเช่น อย่างแรกเลยนี่ก็คือ (1) เรื่องของกระจกค่ะ เราว่าขนาดเล็กไปนิด และมุมการเปิดของมันก็ไม่รับพอดีกับใบหน้าเวลาส่อง คือมันต่ำกว่าระดับตา เวลาใช้จริงอาจต้องวางพาเล็ทไว้บนอะไรซักอย่างเพื่อหนุนให้สูงขึ้น (2) ถาด 2 ด้านนี่ก็ดูเป็นดีไซน์ที่ดีแต่ว่าเวลาที่ใช้ด้านในด้านหนึ่ง อีกด้านก็ถูกเปิดออกเปล่า ๆ ทำให้ไม่สะอาด อาจมีฝุ่นหรืออะไรตกลงไปได้ และ (3) เนื่องจากว่าขนาดพาเล็ทมันอลังการมาก ดังนั้นมันต้องการพื้นที่ในการใช้ค่ะ ถ้าโต๊ะเครื่องแป้งของคุณมีที่น้อย ก็อาจจะตะกุกตะกักเวลาใช้ และถ้ายิ่งจะเปิดแผ่ทุกถาดออกหมดเพื่อให้เห็นสีครบนั้นก็จะยิ่งกินเนื้อที่มากขึ้นไปอีก



What’s included

- 72 eyeshadows (24 สี x 3 ถาด)
- 28 lip glosses (16 สี 1 ถาด และ and 12 สีอีก 1 ถาด)
- 8 cheek colors
- 18 cream eye liners
- 4 lip & cheek cream colors
- 2 mirrors
- 6 tutorial cards
รวมทั้งหมดก็ 130 สีเลยค่ะ!
Eyeshadows
ความหลากหลายของสีอายแชโดว์นั้นถือว่าดีเยี่ยมค่ะ! แต่ว่าถึงแม้ว่ามันจะดูสีต่างกันในพาเล็ท แต่พอทาลงไปบนผิวจริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้แตกต่างกันมากเท่าไหร่นะ ขนาดหลุมสีก็เล็กมากด้วย ดังนั้นเวลาใช้ควรจะหาแปรงอายแชโดว์ที่ขนาดเล็กนิดนึง จะได้หยิบสีได้ตรง ไม่ไปเปื้อนเอาสีอื่นขึ้นมาด้วย
สีจะถูกแบ่งออกเป็น 3 ถาดอย่างที่บอก ถาดละ 24 สี ถาดแรกจะมีสีพวกสีฟ้า ม่วง และชมพู ถาดที่สองจะเป็นแนว neutral น้ำตาล beige ทอง และ taupe ส่วนถาดสุดท้ายจะเป็นสีแนว ดำ เงิน เขียวมะกอก และเขียว forest ค่ะ
ส่วนเรื่องเนื้อมีทั้งหมด 4 แบบคือแบบ แม็ท, ซาติน, ชิมเมอร์ และ กลิตเตอร์
สีแม็ทและซาตินนี้เนื้อจะดีสุดค่ะ อยากจะบอกว่าสีมันเข้มดีกว่าที่เราคาดไว้เยอะเลยนะ เนื้อเนียนดีด้วย เกลี่ยง่าย build ให้เข้มขึ้นก็ง่าย โดยเฉพาะกลุ่มสีน้ำตาล teal แล้วก็เขียว แต่บางสีของแม็ทสีจะร่วงง่ายอยู่เหมือนกันเวลาทา
สีชิมเมอร์คุณภาพพอใช้ได้ค่ะ จะแห้งนิดหน่อย และความเข้มสีจะแตกต่างกันระหว่างสี สี build ให้เข้มขึ้นได้อยู่ แต่ว่าต้องใช้เวลาและความพยายามเล็กน้อยเพื่อให้ได้ความเข้มสีเสมอกัน
สีกลิตเตอร์เนื้อจะแห้งมาก สาก และทาแล้วก็หลุดร่วงไปหมด ความเข้มสีก็จาง จะ build ให้เข้มขึ้นก็ยากหรือเกือบเป็นไปไม่ได้เลย เวลาทาให้ทาแบบแปะ ๆ ทับลงบนสีอื่นดีกว่าทาเดี่ยวค่ะ เพื่อจะได้ป้องกันพวกกลิตเตอร์ร่วงหล่น
ส่วนเรื่องความติดทนก็พอใช้ได้ค่ะ เวลาลงทับพวก eye primer มันก็ติดทนโอเคดีอยู่ ไม่มีร่วงตามรอยพับหรือเปื้อนอะไร แต่ว่าพอตกเย็นเลิกงานสีแอบมีจางบ้างเล็กน้อย
Blue, purple, and pink




Beige, taupe, gold, and brown




Black, silver, olive green, and forest green




Lip glosses
ตรงข้ามกับหลาย ๆ รีวิว เรากลับชอบลิปกลอสนะ! มีสีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแบบใส ๆ ไปจนถึงสีชมพู ส้ม และแดง บางสีจะมีชิมเมอร์ บางสีก็ไม่มี สีที่มีชิมเมอร์จะเป็นสีใส ๆ ซะเป็นส่วนใหญ่ ทาไปบนปากแล้วก็คล้าย ๆ กัน โดยเฉพาะถ้าสีปากคุณเข้มแบบเรา เวลาใช้แบบมีชิมเมอร์เราว่าใช้ทาทับตัว lip & cheek cream จะช่วยให้สีเด่นขึ้นมากค่ะ ส่วนสีแบบที่ไม่มีชิมเมอร์นั้นความเข้มสีบรรเจิดมาก! สีแน่นจริง ๆ แถม build ให้เข้มขึ้นก็ง่าย สีเห็นชัดเจนดีค่ะ
ส่วนเรื่องเนื้อ ทุกสีเนื้อนุ่มเนียนมาก ๆ ทาไปแล้วรู้สึกดีมาก ๆ แถมความเงาก็ชัดเจน อาจจะเหนียวนิดนึงแต่ก็ไม่ถึงกับทาแล้วหนักหรือทำให้ไม่สบายปากแต่อย่างใด
แต่สิ่งที่เราชอบที่สุดของลิปกลอสนี้ก็คือเรื่องความติดทนค่ะ! อะไรจะทนขนาดนี้! ติดนานมากกว่าลิปกลอสหลาย ๆ อันที่เราเคยใช้มาเลยด้วยซ้ำ ประมาณ 4-6 ชม. เลยได้ สีที่เข้มหน่อยก็จะติดทนนานกว่าหน่อย โดยเฉพาะพวกสีแดงและส้ม และลิปกลอสพวกนี้ก็ให้ความชุ่มชื้นแก่ปากกำลังดีด้วยค่ะ ไม่ทำให้ปากรู้สึกแห้งระหว่างทาและหลังทาแต่อย่างใด








Lip & cheek creams
ก็ถือว่าเป็นโบนัสกิ๊บเก๋นะคะที่มี lip & cheek cream แถมมาให้ด้วย ถึงแม้ว่าจะมีแค่ 4 สีก็ตาม ทั้ง 4 สีนี้เนื้อ creamy และก็เนียนจริง ๆ ค่ะ ทาได้ทั้งบนปากและแก้ม สวยเลยทีเดียว ตอนทาเนื้อจะเป็นครีมแต่พอมันเซ็ทแล้วจะกลายเป็นแม็ทที่ติดทนนานและไม่รู้สึกแห้ง เราไม่พบว่ามันจะไปเกาะติดพวกรอยแห้งแต่อย่างใดนะตราบใดที่ทาบนผิวหรือปากที่ผ่านการมอยส์เจอร์ไรซ์มาอย่างดีก่อน เสียดาย Sephora น่าจะทำถาดนึงเต็ม ๆ สำหรับกลุ่มนี้เลย 4 สีมันน้อยไป! :)


Cream eyeliners
เราชอบที่ Sephora ให้สีอายไลน์เนอร์มาหลายสีมาก! มีตั้งแต่สีปกติทั่วไปเช่นดำ น้ำเงิน น้ำตาล และก็มีสีสว่างสดใสมาให้ด้วยเช่น ชมพู ฟ้า ไปจนถึงเทา เนื้อของอายไลน์เนอร์พวกนี้ถือว่าดีเยี่ยมมากค่ะ นุ่ม ลื่นสุด ๆ จริง ๆ แล้วเราไม่ได้คิดว่ามันจะนุ่มขนาดนี้เลยนะ แต่ว่าการที่มันนุ่มมากนี่ก็ถือว่าเป็นดาบสองคมค่ะ นุ่มเกินไปก็ไม่ดี ทำให้เขียนเส้นบาง ๆ คม ๆ หรือเส้นตรง ๆ ยาก มีหลายครั้งเลยที่เราเขียนแล้วก็ต้องถอยกลับมาเติมเพื่อให้เส้นเรียบเนียนเสมอกัน
ความเข้มสีถือว่าเริ่ดมากค่ะ แต่… มันไม่ติดทนเลย! คือเราไม่เคยเห็นอายไลน์เนอร์อันไหนที่มันสีจางรวดเร็วขนาดนี้มาก่อนเลย สีพวกนี้ไม่กันน้ำอีกต่างหาก แถมกว่าจะเซ็ทก็ใช้เวลาซักพักใหญ่ ๆ เลย เวลาเซ็ทจะเซ็ทเป็นเนื้อกึ่งแม็ทที่มีความเงาเล็กน้อย สีของกลุ่มนี้ตกตามรอยพับง่ายมาก เปื้อนง่าย ไหลง่าย การเซ็ทด้วยอายแชโดว์ก็พอจะช่วยสถานการณ์ได้บ้างแต่ว่าก็ไม่มาก ตกเย็นมันก็ยังไหลอยู่ดี แถมสีจะ build ให้เข้มขึ้นก็ยากค่ะ เพราะว่าถ้าทาไปแล้วกลับมาทาซ้ำเนี่ยะ สีข้างล่างมันจะเลื่อนไปเลื่อนมาทำให้ build ไม่ขึ้นซักที




Cheek colors
มาถึงส่วนของสีปัดแก้ม อยากจะบอกว่าคุณภาพดีมากกว่าที่คิดไว้อย่างไม่น่าเชื่อเลยค่ะ! มีสีทั้งหมด 6 สี 2 สีเป็นสีไฮไลท์ และอีก 4 สีเป็นสีปัดแก้ม แถวบนจะเป็นสีโทนส้ม ส่วนแถวล่างจะเป็นสีโทนชมพู สำหรับเราแล้ว เราว่าคุณภาพของสีพวกนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเข้มสี ความง่ายในการเกลี่ยและ build ให้เข้มขึ้นนั้น ดีพอ ๆ กันกับของแบรนด์อื่นที่แพงกว่าเลยค่ะ เนื้อมันอาจจะไม่นุ่มละเอียดเท่าแต่ว่านอกจากเรื่องนี้แล้วเราว่าของ Sephora อันนี้ก็ใช้ได้ดีไม่แพ้กันเลย
ความติดทนก็ดีเยี่ยมด้วยนะ! ไม่ต้องมีเติมระหว่างวันเลย สีไฮไลท์จะมีชิมเมอร์เยอะหน่อย ดังนั้นตอนทาต้องระวังนิดนึงว่าจะทาตรงไหนเพื่อไม่ให้ไปเน้นผิวที่มีปัญหา แต่เรื่องความระยิบระยับของมันนี่สวยงามดีค่ะ และข้อดีที่สุดคือ ทุกสีนั้นทาแล้วเห็นชัดเจนบนผิวเรา! จริง ๆ นะ หาข้อติไม่ได้เลยกับกลุ่มนี้ แต่ว่าถ้าจะให้จู้จี้จุกจิกหาข้อด้อยจริง ๆ เราคิดว่าน่าจะทำขนาดหลุมให้มันห่างกันกว่านี้หน่อยเพราะเวลาใช้แปรงปัดแก้มขนาดธรรมดาทั่วไปลงไปหมุน ๆ เนี่ยะ มันจะเอาสีข้าง ๆ กันติดขึ้นมาด้วย




Tutorial cards
ในส่วนนี้จะมีการ์ดทั้งหมดมาให้ 6 ใบค่ะ
- How to get perfect lips
- How to define eyes
- Perfectly blended eye looks
- How to apply cream eyeliners
- How to apply blush for your face shape
- Tips and tricks
เราว่ามันก็มีประโยชน์ดีนะ เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ ๆ เหมือนกัน แต่ว่าอย่างไรก็ตาม จะมีประโยชน์มากแค่ไหนก็เถอะ เราว่าถาดนี้น่าจะใส่พวก lip & cheek cream มาให้เต็มถาดเลยจะดีกว่า (คือมันดีมาก เราชอบจริง ๆ ค่ะ!) หรือไม่ก็ให้พวกแปรงขนาดจิ๋วมาก็ยังดี :)


The experimental look!

ส่วนเรื่องราคานั้น เราว่า $49.50 ก็ดูสมเหตุสมผลดีนะคะ เพราะได้สีเยอะแยะเลย แถมได้เนื้อสีแตกต่างกันมากมายอีก (และถ้ายิ่งได้ซื้อตอนที่มี 20% sale ด้วยนะ จะยิ่งคุ้มขึ้นไปอีก!) ถ้าคุณเป็นคนรักเครื่องสำอางตัวจริงเราว่าคุณอาจจะมีสีพวกนี้เดี่ยว ๆ แล้วล่ะ และพาเล็ทนี้ก็อาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรสำหรับคุณ แต่หากใครกำลังมองหาพาเล็ทที่มีหลาย ๆ สีเอาไว้ไปลองเล่นผสมสีดูว่าสีไหนทาแล้วสวยไม่สวย เราว่าอันนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ นอกจากนี้พาเล็ทนี้ก็น่าจะให้เป็นของขวัญกับคนที่เพิ่งเริ่มทดลองแต่งหน้า ยังไม่อยากเสียเงินซื้ออะไรหลาย ๆ อย่าง อันนี้มีทุกอย่างรวมไว้ให้เลยก็สะดวกดีค่ะ และสุดท้ายท้ายสุด หากใครเป็นนักสะสมตัวจริง พาเล็ทนี้ก็ถือว่าต้องมีนะคะ :)
ก็ตามนี้ค่ะ! หวังว่ารีวิวเราคงจะเป็นประโยชน์กับคุณ หากมีคำถามอะไรทิ้งไว้ในคอมเม้นต์ด้านล่างได้เสมอค่ะ! :)
Purchase
Disclosure: The Sephora Color Festival Blockbuster Palette for Holiday 2014 was provided by Sephora. All opinions are my own.
คืออลังการนะคือซื้อมาจะใช้หมดไหมนี่555
นั่นสิ 555 สีเยอะเกิ๊นน
อยุ่ไทยขาย1,800คะพี่จ๋า ว่าจิไปสอยอยุ่55
จัดเลยน้อง! ขอเนื้อที่ในการใช้เยอะ ๆ ด้วยนะ! ;D
คุณ PLOI ที่ไทยขายอยู่ห้างไหนค่ะ
ใครคือพลอย เราชื่อจ๋าค่ะ :D ตัวนี้คงไม่มีขายแล้ว เพราะ Sephora ออกมาเป็น limited-edition ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วค่ะ