รีวิวรองพื้น Dior Diorskin Nude Air Serum

Dior นี่ช่างรู้วิธีการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ให้ได้รับความสนใจดีนะคะ มีคำว่า “Nude“, “Air” และ “Serum” เพื่อบ่งบอกว่าเป็นรองพื้นที่ทาแล้วได้งานผิว เนื้อเบาอย่างกับอากาศ แถมมีส่วนผสมบำรุงผิวอีกด้วย อย่างนี้ใครก็อยากใช้สิเนอะ! เราอยากได้ตัวนี้ครั้งแรกก็เพราะชื่อรองพื้นนี่แหละค่ะ! แต่ว่าเรื่องดี ๆ ของรองพื้นตัวนี้ไม่ได้มีแค่ชื่อเท่านั้น สำหรับ Dior Diorskin Nude Air Serum เราบอกได้เต็มปากเลยว่าเป็นหนึ่งในรองพื้นที่ใช้ง่ายที่สุดและให้งานผิวที่สวยที่สุดตัวหนึ่งเลยค่ะ เรารู้ว่าหลายคนกำลังรอรีวิวตัวนี้ของเราอยู่ ดังนั้นเราจะพยายามอธิบายให้ละเอียดและครอบคลุมที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ :)

Dior Diorskin Nude Air Serum (หรือ Diorskin Nude Air Healthy Glow Ultra-Fluid Serum Foundation SPF 25) นี้มาในขวดแก้วเนื้อฝ้า ขวดหนักเหมือนกัน และก็มีดรอปเปอร์ติดมากับฝาเลย ดีไซน์ขวดแบบนี้ไม่ใช่แบบใหม่อะไร มีแบรนด์อื่นทำมาแล้ว แต่ต้องยอมรับว่าของ Dior นั้นสวยกว่าเพื่อนค่ะ คือเนื้อรองพื้นตัวนี้มันเหลวมากนะ เราคิดว่าบรรจุใส่ขวดแบบนี้มามันก็น่าจะเหมาะที่สุดแล้ว

ตอนนี้มีขายทั้งหมด 8 เฉดสีค่ะ น้อยนิดนึงในความคิดเรา แต่ว่าโชคดีที่มีสีที่เข้ากับผิวเราพอดี เราใช้สี 030 Medium Beige ค่ะ ซึ่งก็จำง่ายเพราะว่าเป็นเบอร์เดียวกับสีรองพื้น MAC NC30 ที่เราใช้อยู่ :)

เนื้อมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และมีกลิ่นน้ำหอมที่แรงมากด้วย กลิ่นออกดอกไม้แป้ง ๆ นะ (กลิ่นเหมือนผู้ใหญ่ ๆ ยังไงไม่รู้ในความรู้สึกเรา) แถมกลิ่นติดบนผิวอีกต่างหาก ติดนานถึงซักครึ่งชั่วโมงเลยได้หลังทาเสร็จ บางคนก็ชอบกลิ่น บางคนก็ไม่ชอบ ส่วนเราก็เฉย ๆ นะ แต่ถ้าจะให้ดีก็ไม่อยากให้มีมากกว่า

เนื้อไม่มีส่วนผสมของ talc แต่ว่าจะมี Oxygen Activ™ complex ซึ่งเป็นเบล็นด์พิเศษที่มีส่วนผสมของ vitamins, minerals และ hyper-oxygenated oils รวมถึง cranberry oil ที่พอโดนผิวปุ๊บก็จะระเหยในทันที ทิ้งไว้แต่เม็ดสีบนผิว Dior บอกว่าก่อนใช้ทุกครั้งให้บีบดรอปเปอร์เอารองพื้นที่ค้างอยู่ออกจากก้านออกก่อนจากนั้นก็เขย่าขวดให้ดีเพื่อให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียวก่อนใช้

รองพื้นมีส่วนผสมของสารกันแดด SPF 25 ด้วยเพื่อปกป้องผิวจากรังสีแดด ตอนแรกเราก็คิดว่ามันอาจจะทำให้หน้าขาววอก (flashback) เวลาที่ถ่ายรูปใช้แฟลช แต่ว่าถ้าดูในภาพหน้าเราด้านล่างสุดที่เราถ่ายโดยใช้แฟลชจะเห็นเลยว่ามันไม่ทำให้หน้าขาวแต่อย่างใดค่ะ

เนื้อลิควิดเหลวของตัวนี้นี่เหลวจริง ๆ ค่ะ เนื้อจะรู้สึกเหมือนเป็นการผสมกันอย่างลงตัวระหว่างซีรั่ม น้ำมัน และซิลิโคน เนื้อมันนุ่มอย่างกับไหมเลยแถมน้ำหนักเบามากด้วย ปกติเราจะใช้แค่ 3-4 หยดก็ลงได้ทั่วหน้าแล้ว บางครั้งอาจจะใช้เพิ่มอีกหนึ่งหยดลงตรงบริเวณผิวที่มีปัญหา

ตัวนี้ใช้ง่าย ทาง่าย เกลี่ยง่าย ยิ่งใช้นิ้วมือลงนี่จะเร็วมากค่ะ เราก็เลยชอบใช้นิ้วมือนี่แหละในการลง แต่เราพบว่าถ้าอยากได้งานที่เนียนขึ้นอีกจริง ๆ ลองตามด้วยฟองน้ำ Dior Backstage Blender Fluid Foundation Sponge (รีวิว) หรือ Beautyblender แห้งดู กด ๆ หรือ roll (กลิ้ง) ไปตามผิวเพื่อเซ็ทให้ผิวดูเนียนละเอียดขึ้นไปอีก รับรองทำแบบนี้แล้วผิวที่ว่าเนียนอยู่แล้วจะยิ่งเนียนขึ้นไปอีกอย่างกับแอร์บลัชมาเลย! จริง ๆ แล้วใครจะใช้ฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ หน่อยลง หรือว่าจะใช้แปรงรองพื้นที่เป็นสไตล์ฟู ๆ สำหรับบัฟผิวในการลงก็ได้ค่ะ แต่เราว่ามันจะไปกักเอาเนื้อรองพื้นมากเกินความจำเป็นเสียเปล่า ๆ สุดท้ายเราไม่แนะนำให้ใช้แปรงรองพื้นแบบแบนมาตรฐานค่ะเพราะว่ามันจะทำให้เนื้อรองพื้นไม่เรียบ จะเป็นเส้น ๆ ไม่เสมอกัน

เนื้อ finish หลังทาเป็นแบบ matte-velvet คือแม็ทกำมะหยี่ค่ะ มันไม่ทำให้ผิวฉ่ำขึ้นและไม่ทำให้หน้าดูมีความโกลว์ใสขึ้นแต่อย่างใด คือมันจะได้งานผิวจริง ๆ แต่เป็นงานผิวที่ดูดีขึ้น ดูเนียนขึ้น แม็ทขึ้น สีผิวเสมอกันขึ้น ลง 1 ชั้นจะให้ระดับการปกปิดแบบปานกลาง ที่สามารถ build ขึ้นได้นิดหน่อยให้ได้เกือบเต็ม ส่วนบริเวณไหนที่มีแผลเป็นสิวลึกหรือรอยด่างดำชัด ๆ นี่มันจะกลบไม่หมดค่ะ ต้องใช้คอนซีลเลอร์เข้าช่วย ถ้าใครคนไหนมีปัญหาแค่เรื่องรอยแดงหรือรูขุมขนนั้น คุณโชคดีมากค่ะ เพราะว่าตัวนี้จะกลบสิ่งเหล่านั้นได้ดีเยี่ยม!

ฟังถึงตรงนี้ทุกอย่างดูดีเนอะ แต่ว่าตัวนี้ก็มีข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ กับเขาเหมือนกัน! :)

ถ้าใครมีสิวที่เพิ่งแห้งหรือมีบางบริเวณบนหน้าที่แห้ง (เรามีทั้งสอง คือมีสิวตรงกลางแก้มและคาง และข้างจมูกและบนจมูกมีรอยแห้ง) Nude Air Serum ตัวนี้จะไปเน้นตรงนั้นให้ชัดขึ้นค่ะ ต้องมอยส์เจอร์ไรซ์ผิวให้ดี ๆ ก่อนทาเลย

ถ้าใครเนื้อผิวไม่สม่ำเสมอกัน เช่นอาจมีหลุมสิวเยอะ คุณก็อาจจะใช้ตัวนี้ไม่ได้ดีเท่าไหร่ (ตามดูได้ที่เว็บของ Liz ค่ะซึ่งเธอมีรูปให้เห็นเลยว่าตัวนี้ไม่ช่วยกลบหลุมสิว) คุณอาจจะต้องมองหารองพื้นตัวอื่นแทนที่เนื้อหนากว่าหน่อยและมีระดับการปกปิดสูงกว่า

และถึงแม้ว่าตัวนี้สีจะไม่ oxidize เข้มขึ้นระหว่างวัน แต่ว่าถ้าทาไปนานหลายชั่วโมงมันจะทำให้ผิวรู้สึกแห้งค่ะ มีครั้งนึงเราลองทาติดต่อกัน 14 ชั่วโมง ปรากฏว่าตอนกลางคืนกลับมาบ้านนี่ข้างจมูกแห้งมากและลอกเป็นขลุยด้วยเล็กน้อย แต่ว่าสำหรับการทาไปทำงานวันธรรมดาทั่วไปนั้น เราว่าโอเคอยู่ค่ะ มันควบคุมความมันได้ดีเลย คือเราทาแล้วไม่มีความรู้สึกว่าจะต้องซับระหว่างวัน

ในรูปเราด้านล่างนี้ เราลงรองพื้นตัวนี้ 1 ชั้นเท่านั้น บนผิวเปล่า ๆ ด้านขวา (AFTER) ที่มีแต่มอยส์เจอร์ไรเซอร์อย่างเดียว แล้วก็ทับอีก 1 ชั้นตรงกลางแก้มเพื่อปกปิดรอยสิว เราไม่ได้ลงไพรเมอร์ คอร์เร็คเตอร์ หรือคอนซีลเลอร์อื่นใดก่อนทาหรือหลังทาเลย ซึ่งคุณสามารถมองเห็นได้เลยค่ะว่า Nude Air Serum ตัวนี้สามารถเบลอร์รูขุมขนบนและรอบจมูกเราได้กริบอย่างกับการใช้ไพรเมอร์ปกปิดรูขุมขนจริง ๆ เลย! รอยแดงรวมถึงริ้วรอยก็ดูลบเลือนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ผิวเราดูสว่างขึ้น ซอฟท์ขึ้น เนียนขึ้น และสีผิวเสมอกันขึ้น แต่ที่สำคัญที่สุดคือผิวยังดูเหมือนเป็นผิวอยู่ ไม่ดูหนักหรือเค้กแต่อย่างใด ประทับใจมากค่ะ :)

ถ้าคนไหนที่ชอบรองพื้นที่ใช้ง่าย ใช้สบาย น้ำหนักเบา ให้ระดับการปกปิดปานกลางที่สามารถกลบพวก skin imperfections เล็ก ๆ น้อย ๆ ได้ และทาแล้วให้งานผิวเนียน ๆ ซอฟท์ ๆ เหมือนเรา เราว่าคุณน่าจะลอง Nude Air Serum ตัวนี้ค่ะ อ้อ หมายถึงว่าถ้าคุณสามารถหาสีที่เข้ากับสีผิวคุณได้นะ เราขอบคุณ Sunny ที่แนะนำตัวนี้ให้กับเรา และขอบคุณ Mo ที่ยืนยันกับเราว่าเราต้องลองใช้ตัวนี้! :)

แล้วคุณมีรองพื้นตัวไหนที่เพิ่งได้ลองใช้แล้วรู้สึกว่ารักมากบ้าง?

Purchase