ถึงเวลาที่ Hello Jaa จะมีซีรี่ส์อะไรใหม่ ๆ ซะทีเนอะ! :) คือจริง ๆ แล้วความชอบส่วนตัวของเราจะอยู่ในกลุ่มเครื่องสำอางราคา mid-range ถึง high-end ค่ะ แต่ตั้งแต่ที่เราย้ายกลับมาไทยเราก็ได้ค้นพบผลิตภัณฑ์ดี ๆ หลายอย่างจากร้านและแบรนด์ในประเทศ มีหลายตัวที่ใช้แล้วชอบเราก็เลยเกิดความคิดอยากจะมาแชร์ของที่เราได้เจอและลองใช้มาให้กับทุกคนอ่าน บางอย่างก็เป็นของดีใช้แล้วดี แต่บางอย่างที่ไม่ดีก็มี เนื่องจากว่าครึ่งหนึ่งของผู้อ่านเว็บเรามาจากประเทศไทย เราก็เลยหวังว่าซีรี่ส์นี้จะช่วยให้คุณ (หรือใครที่กำลังจะเดินทางมาประเทศไทย) ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าตัวไหนควรลงทุนซื้อและตัวไหนควรข้ามไป สำหรับรีวิวแรกเรามีผลิตภัณฑ์ 3 อย่างมาเล่าสู่กันฟังค่ะ ไปเริ่มกันเลย!
The Face Shop Natural Sun Eco Sebum Control Moisture Sun SPF 40 PA+++


อันนี้เป็นครีมกันแดดสูตรน้ำ น้ำหนักเบา และมีฟิลเตอร์เป็นชนิดเคมิคัลได้แก่ Octinoxate, Avobenzone, Amiloxate, Ethylhexyl salicylate และ Ensulizole ตัวนี้มีค่า SPF 40 และ PA+++ ดังนั้นมันจึงสามารถปกป้องผิวคุณได้จากทั้งรังสี UVA และ UVB ส่วนผสมอื่น ๆ ที่น่าสนใจก็ได้แก่สารสกัดจากต้นกล้าอ่อนของเมล็ดทานตะวันออแกนิคและสารให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวตามธรรมชาติ Natural Moisturizing Factor กลิ่นของครีมจะออกไปแนวหอม ๆ แบบธรรมชาติ กลิ่นหอมอ่อนโยนดี ทาแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว
เนื้อครีมจะออกแนวโลชั่นสีขาวขุ่นเหมือนนม เกลี่ยง่าย ซึมซับทันทีโดยไม่ทิ้งแผ่นฟิล์มหนาหรือหนัก และเนื่องจากว่ามันเป็นครีมกันแดดสูตรเคมิคัล คุณจึงไม่ต้องห่วงเรื่องทาแล้วจะทำให้หน้าวอกขาว ตัวนี้ทาแล้วไม่ทิ้งคราบขาวเลยค่ะ เราพบว่ามันช่วยปรับให้ผิวแม็ทขึ้นเล็กน้อยแต่ไม่ถึงกับแม็ทเท่ากับของ Tatcha Silken Pore Perfecting Sunscreen Broad Spectrum SPF 35 (รีวิว) คือทาแล้วก็ยังพอทิ้งความเงาไว้บ้างเล็กน้อยบนผิว และเนื่องจากว่ามันมีส่วนผสมของซิลิโคน ดังนั้นมันจึงสามารถทำหน้าที่เป็นไพรเมอร์ไปได้ในตัวด้วย มันจะไปช่วยเติมเต็มรูขุมขนและปรับผิวให้เนียนขึ้น แต่ว่าผลที่ได้มันก็ไม่ได้เนียนมากมายเหมือนกับการทาไพรเมอร์จริง ๆ หรอกค่ะ
จุดขายของตัวนี้อยู่ที่ “sebum control” หรือการควบคุมความมัน แต่อย่างไรก็ตามเราคงต้องพูดกันตามตรงว่าเราไม่เห็นว่ามันจะคุมมันตรงไหนเลยค่ะ อย่างน้อยก็บนผิวเราล่ะ คือพักกลางวันปุ๊บ หน้าเราก็มันฉ่ำตามปกติอย่างทุกวัน ดังนั้นสำหรับเราแล้วเราไม่พบว่าตัวนี้จะช่วยเรื่องคุมความมันแต่อย่างใดค่ะ
หลัง ๆ มานี้เราพยายามหลีกเลี่ยงไม่ใช้ครีมกันแดดที่เป็นแบบเคมิคัลแล้ว เราก็คงจะไม่ซื้อตัวนี้อีกหากใช้หมด แต่สำหรับใครที่ชอบสูตรแบบนี้และชอบตัวที่มี SFP สูง ๆ ที่สามารถปกป้องผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงทาง่าย ไม่ทิ้งคราบขาว เราคิดว่าตัวนี้ก็เป็นอะไรที่น่าไปลองเล่นดูค่ะ [Made in Korea]
Malissa Kiss Super Black Ultra HD Eyeliner


ตัวนี้เราได้ไปรู้จักมาจากการแนะนำของสาวน้อย Pearypie ผู้น่ารักที่หลายคนก็น่าจะรู้จักเธอดี เราแบบว่ามั่นใจมากว่ามันจะต้องเป็นอายไลน์เนอร์ที่ดีมาก เราก็เลยซื้อมาทีเดียว 2 ด้ามเลย! ใช้แล้วเราพบว่ามันก็มีทั้งข้อดีที่เราชอบและข้อด้อยที่เราคิดว่าถ้าปรับปรุงก็จะดีขึ้นไปอีกค่ะ
สิ่งที่เราชอบ:
- หัวแปรงนุ่มต่อผิว และแปรงแหลมเรียวคงตัวดีไม่บานออกเมื่อใช้ไปนาน ๆ คุณสามารถเขียนเส้นได้บางเฉียบถึง 0.1 มม. เลยทีเดียว ดังนั้นใครที่ชอบกรีดตาแบบเส้นบาง ๆ เหมือนไม่ได้แต่งหน้ามา อันนี้ก็เป็นหนึ่งทางเลือกค่ะ
- และเนื่องจากว่าปลายมันแหลมเฉียบ มันก็เลยง่ายสำหรับการเขียนวิงให้คมและแม่นยำ หัวแปรงสะบัดได้ดีและไม่ทิ่มหรือดึงหนังตา
- ให้เนื้อ finish เป็นแบบแม็ท! แจ่มมาก!
- ข้อสุดท้ายขอชมลวดลายปากกาได้มั้ยคะ? คือมันเป็นลาย polka dots! *heart eyes*
สิ่งที่เราคิดว่าควรปรับปรุงให้ดีขึ้น:
- สีหมึกค่ะ คือมันก็ดำนั่นแหละ แต่มันยังไม่ดำที่สุด ยังดำไม่เท่าอีกหลายตัวที่เราเคยใช้มา น่าจะปรับให้มันดำขึ้นกว่านี้อีกนิด! :)
- หมึกไหลลื่นและสม่ำเสมอดีแต่ว่าเนื้อมันบางพอสมควร เขียนแล้วสีไม่ทึบทันที เราต้องทาทับไปมาซัก 2-3 รอบกว่าจะได้ความทึบตามที่เราชอบ (ซึ่งส่วนมากก็คือดำทึบสนิท)
- มันไม่กันน้ำจริง ๆ หรอกค่ะ คือสำหรับวันทำงานธรรมดาไม่มีอะไรมากเนี่ยะ มันก็ติดทนดีจริง เรายอมรับ แต่หากวันไหนที่เราเหงื่อออกเยอะ (หรือร้องไห้เยอะ) มันก็แอบมีจางหรือบางทีก็หายไปเลยก็มี โดยเฉพาะบริเวณมุมตาด้านนอก
สำหรับราคาแล้ว เราคิดว่าตัวนี้ก็เป็นอายไลน์เนอร์ที่ดีพอสมควรค่ะ เราคงจะซื้ออีกแน่นอนหากใช้หมด แต่หากวันไหนที่เราต้องการอายไลน์เนอร์เราให้ติดทนจริงอะไรจริงจนถึงเวลาล้างออกโน่นเลย เราก็คงจะเลือกใช้ตัวอื่นที่ติดทนมากกว่า เช่น Kat Von D Ink Liner สี Trooper (รีวิว) ค่ะ [Made in Korea]
Utip Utip Gel 2 in 1 Lip & Cheek Gel



ช่วงนี้เราอยู่ในเฟสของการใช้ทิ้นท์/สเตนแบบน้ำค่ะ (ผลก็คือเราไปตามล่าหาซื้อมาหลายยี่ห้อมาก)! ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาเราจะทาปากแบบไล่สี gradient lips บ่อยแต่ส่วนมากก็จะทำอยู่ในสีโซนปลอดภัยคือสีชมพูและส้ม Utip นี่เขาดังมาแต่ไหนแต่ไรแล้วเรื่องทิ้นท์แบบน้ำที่ทาแล้วติดทนจริงอะไรจริง เราได้ลองมาหมดทุกแบบที่แบรนด์ทำออกมาแล้วแต่ตัวโปรดสุดของเราคงจะเป็น Gel 2 in 1 รุ่นนี้ค่ะ! คือมันสเตนได้แบบรุนแรงมาก เราสามารถดื่มน้ำ ทานข้าว พูดเม้าท์มอยอะไรต่าง ๆ นานา แต่เลิกงานแล้วปากเราก็ยังสีแจ่มอยู่เลย ไม่ได้ดูจางซีดแต่อย่างใด สำหรับคนที่เคยดมผลิตภัณฑ์ของ Utip มาแล้ว รุ่นนี้ก็มีกลิ่นแบบเดียวกันค่ะ กลิ่นหอมสดชื่นเหมือนกันเป๊ะกับตัว Utip water tint รุ่นแรก
ส่วนผสมสำคัญของตัวนี้ก็ได้แก่สารสกัดจากขมิ้นชันและวิตามิน C, E, B3 และ B5 เนื้อมีลักษณะออกกึ่งน้ำกึ่งเจ็ล น้ำหนักเบา สีเกลี่ยง่ายไหลลื่นไปตามปากอย่างสม่ำเสมอกัน ทาง่ายมากจนบางทีเราว่ามันก็ง่ายเกินไป! ตอนทาต้องระวังอย่าให้หลุดออกนอกขอบปากนะคะ เพราะสีมันจะสเตนทันที จะลบยากหากผิดพลาด หากทาบนปากเปล่าอาจจะรู้สึกแห้งนิด ๆ ได้ ดังนั้นเราแนะนำให้ทาลิปบาล์มรองไว้ก่อนแล้วก็ซับเอาความมันและเงาออกก่อนทาทิ้นท์ตัวนี้ตาม เขาบอกว่าคุณสามารถใช้มันทาแก้มได้ด้วย แต่เนื่องจากความที่มันสเตนผิวได้แบบรุนแรงและรวดเร็ว เราก็เลยไม่ค่อยได้ใช้ตัวนี้ทาแก้มค่ะ เพราะกลัวว่าจะเกลี่ยไม่ทันแล้วจะเป็นปื้น! ^_^ สรุปเราชอบตัวนี้มากจนอยากให้แบรนด์ผลิตสีอื่น ๆ ออกมาอีกเยอะ ๆ เลย! [Made in Thailand]
หวังว่าคุณคงจะชอบซีรีส์ใหม่ของเราอันนี้นะคะ หากคุณคิดว่าควรเติมอะไรเข้าไปอีกเพื่อปรับปรุงให้ดีขึ้นก็สามารถบอกเราได้เลย หรือหากอยากให้เราลองตัวไหนก็ทิ้งคำแนะนำไว้ในคอมเม้นต์ด้านล่างได้ค่ะ เรายินดีรับฟังทุกความคิดเห็น :)
Purchase
The Face Shop Natural Sun Eco Sebum Control Moisture Sun SPF 40 PA+++:
N/A
Malissa Kiss Super Black Ultra HD Eyeliner:
N/A
Utip Gel 2 in 1 Lip & Cheek Gel:
N/A
The Face Shop Natural Sun Eco Sebum Control Moisture Sun SPF 40 PA+++:
฿579 at The Face Shop
Malissa Kiss Super Black Ultra HD Eyeliner:
฿229 at Malissa Kiss
Utip Gel 2 in 1 Lip & Cheek Gel:
฿52 at Utip